เพิ่งไปทำบอลลูนหัวใจ ฉีดวัคซีนแค่ 4 วันตายสลด แม่ร้องรับผิดชอบ

เริ่มแล้วลดเวลาเคอร์ฟิวเหลือแค่ 4 ชั่วโมง พร้อมเพิ่มเวลาเปิดห้างร้านสะดวกซื้อได้ถึง 4 ทุ่ม ขณะที่ยอดติดเชื้อโควิด-19 ยังทะลุเกิน 1 หมื่นราย ตายอีก 82 ศพ กทม.แชมป์ทั้งยอดติด-ตาย ขณะที่ “ยะลา” ยังรั้ง อันดับ 2 ของประเทศ ผู้ว่าฯ คุมเข้มคนยังไม่ได้ฉีดวัคซีนห้ามเข้าแหล่งคนเยอะ ทั้งมัสยิด ติดต่อราชการ ทำธุรกรรมในธนาคาร ขณะเดียวกัน สลด หนุ่มฉะเชิงเทราเพิ่งทำบอลลูนหัวใจ ดับหลังฉีดแอสตราฯ ­เข็ม 2 พ่อแม่เชื่อลูกตายจากแพ้วัคซีน

เหลือเวลาไม่ถึงครึ่งเดือนที่ไทยจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ ศบค.อย่างเคร่งครัด โดยเริ่มจากปรับลดเวลาเคอร์ฟิวใน 29 พื้นที่สีแดงเข้ม ผ่อนคลายหลายมาตรการ รวมถึงเวลาเปิดปิดห้างร้านสถานประกอบการบางประเภท เพื่อให้ประชาชนทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น

ลดเคอร์ฟิวเหลือ 4 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ต.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 35 ตามมติที่ประชุม ศบค. เมื่อวันที่ 14 ต.ค. อาทิ การปรับเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ระหว่างเวลา 23.00 น. ถึง 03.00 น.ของวันรุ่งขึ้นต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ต.ค.64 ให้ร้านสะดวกซื้อเปิดถึงเวลา 22.00 น. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นี้เป็นต้นไป

ติดใหม่–รักษาหายใกล้เคียงกัน

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานข้อมูล ณ วันที่ 16 ต.ค.ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุหมื่นที่ 10,648 คน จำแนกเป็นการติดเชื้อในประเทศ 10,634 คน ในจำนวนนี้มาจากเรือนจำและที่ต้องขัง 111 คน และมาจากต่างประเทศ 14 คน ขณะที่ยอดตรวจ ATK เข้าข่ายติดเชื้อ 2,065 คน รักษาหาย 10,794 คน รวมติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,772,838 คน ยอดรวมหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,647,255 คน กำลังรักษา 107,378 คน ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 2,845 คน ใช้ท่อช่วยหายใจ 668 คน ขณะที่ผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มอีก 82 ศพ เป็นชาย 45 คน หญิง 37 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีเด็กอายุ 10 ขวบ ชาวกัมพูชาใน จ.สระแก้ว ไม่มีโรคประจำตัว และมีชาวจีนและเวียดนาม ประเทศละ 1 คนด้วย ขณะที่ ผู้เสียชีวิตมากที่สุดใน กทม. 13 คน รวมเสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 18,205 คน

4 จว.ติดเชื้อใหม่เป็นศูนย์

สำหรับ 10 จังหวัดที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ณ วันที่ 16 ต.ค. กทม.ยังรั้งแชมป์ ผู้ติดเชื้อใหม่ 1,077 คน ตามด้วยยะลา 664 คน สงขลา 621 คน ปัตตานี 561 คน ชลบุรี 470 คน นราธิวาส 459 คน สมุทรปราการ 380 คน นครศรีธรรมราช 369 คน จันทบุรี 350 คน และระยอง 325 คน ขณะที่มี 4 จังหวัด ติดเชื้อใหม่เป็นศูนย์ ได้แก่ จ.นครพนม น่านชัยนาท และสิงห์บุรี ขณะที่การฉีดวัคซีน เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ฉีดได้รวม (เข็ม 1-2-3) 524,670 โดส รวมฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2564 จำนวน 64,139,022 โดส คิดเป็นเข็มที่ 1 ร้อยละ 51.3 ของ จำนวนประชากร เข็มที่ 2 ร้อยละ 35.1 ของจำนวนประชากร และเข็ม 3 (บูสเตอร์โดส) คิดเป็นร้อยละ 2.6 ของจำนวนประชากร

“ลุงตู่” ปลื้มคนชอบคนละครึ่งเฟส 3

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินโครงการคนละครึ่งเฟส 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้เป็นอย่างมาก เพราะได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนและร้านค้า ล่าสุดยอดรวมมาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษนั้น มียอดใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิรวมกว่า 39.9 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสมรวม 108,387.5 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 1 ต.ค.64 กระทรวงการคลังโอนเงินคนละครึ่งรอบที่สอง 1,500 บาท เข้าแอปเป๋าตัง และใช้สิทธิคนละครึ่งเฟส 3 และยิ่งใช้ยิ่งได้ผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรี ตอนนี้มีร้านค้าให้บริการผ่านฟู้ดดีลิเวอรีแล้วกว่า 58,000 ราย ประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการนี้ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.64

เปิด 10 เขต กทม.ติดเชื้อสูงสุด

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ใน กทม.สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม.เปิดเผยข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ประจำวันที่ 16 ต.ค.ใน 50 เขต มีผู้ติดเชื้อรวม 818 คน 10 อันดับเขตที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.ลาดพร้าว 192 คน 2.สายไหม 43 คน 3.พญาไท 42 คน 4.ประเวศ 30 คน 5.หนองแขม 30 คน 6.ราชเทวี 26 คน 7.คลองเตย 24 คน 8.ธนบุรี 20 คน 9.บางซื่อ 18 คน และ 10.บางนา 18 คน แต่เมื่อรวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 3-16 ต.ค.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดถึง 509 คน ขณะที่เขตสัมพันธวงศ์ ผู้ติดเชื้อสะสมน้อยสุดที่ 36 คน

ปักไฟเซอร์ให้ นร.ผ่านฉลุย

ขณะที่ภาพรวมในส่วนภูมิภาค ตลอดวันที่ 16 ต.ค. หลายจังหวัดเปิดฉีดวัคซีนที่มีทั้งแอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ และวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์มให้กลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษาอายุ 12-17 ปี โดยที่ รพ.คลองลาน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร จัดฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 1 แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมัธยมศึกษาตอนต้น ในเขตพื้นที่การศึกษาอำเภอคลองลาน มีนักเรียนเข้าฉีดวัคซีน 1,733 คน หลังจากเฝ้าระวังและสังเกตอาการไม่พึงประสงค์ 30 นาที ไม่พบว่ามีผู้มีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงแต่อย่างใด จากการสอบถามนักเรียนส่วนใหญ่พบว่า ไม่มีความวิตกกังวลในการรับวัคซีน เช่นเดียวกับที่ห้องประชุมทิพย์นภา ชั้น 5 อาคารสนับสนุน รพ. ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พญ.จารุพรรณ มโนสิทธิ ศักดิ์ ผอ.รพ.ชุมแพ นำเจ้าหน้าที่จากส่วนงานต่างๆ มาดูแลและให้กำลังใจน้องๆนักเรียนโรงเรียนบ้านโคกสูง ต.โนนอุดม อ.ชุมแพ ที่ได้คิวเข้ามาฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 1 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ก่อนที่จะเปิดเทอมสองในเดือย พ.ย.นี้ หลังสังเกตอาการครบ 30 นาที ไม่พบใครมีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงใดๆเช่นกัน

เยาวชนยะลาแห่ฉีดไฟเซอร์

ส่วนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 รพ.ยะลา อาคารศรีนิง ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ประชาชนที่อาศัยในเขตอำเภอเมืองยะลา ทยอยเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 1 อย่างคึกคัก ภายหลังจาก ที่ รพ.ยะลา เปิด Walk in ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป พักอาศัยในอำเภอเมือง จ.ยะลาและไม่เคยได้รับวัคซีนชนิดใดมาก่อน โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน โดยข้อมูลการฉีดวัคซีนใน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 15 ต.ค.รวมสะสม 278,236 คน คิดเป็นร้อยละ 61.59 อำเภอที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมมากที่สุดคือ อ.เมืองยะลา รองลงมา อ.เบตง

คนไม่ฉีดวัคซีนห้ามเข้าพื้นที่

กระนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.ยะลา ยังมีผู้ติดเชื้อใหม่สูงถึง 664 คน จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รั้งอันดับ 2 ของประเทศรองจาก กทม.ติดต่อกันมากว่าสัปดาห์ นอกจากนั้นจังหวัดกลุ่มภาคใต้มี จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส และ จ.นครศรีธรรมราช ติดอันดับ 3, 4, 6 และ 8 ตามลำดับ ใน จ.ยะลา พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดใน อ.เมือง ถึง 312 คน และมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เป็นชาย วัย 83 ปี อยู่ ต.ละแอ อ.ยะหา มีโรคหัวใจ ความดัน และหญิง อายุ 87 ปี อยู่ ต.ยุโป อ.เมือง ป่วยเป็นโรคหัวใจ นอกจากนี้ จากสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก สนง.ขนส่ง จ.ยะลา ประกาศงดบริการประชาชนทุกกระบวนงานชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 18-21 ต.ค.นี้ เป็นเวลา 4 วัน จะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 25 ต.ค. นอกจากนั้นตามมัสยิดหลายแห่งในพื้นที่ จ.ยะลา ยังปิดประกาศข้อความจากนายภิรมย์ นิลทยา ผวจ.ยะลา ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. เป็นต้นไป หากท่านไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ห้ามเข้า ละหมาดในมัสยิดทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดยะลา ห้ามติดต่อทำธุรกรรมทุกประเภทกับทุกภาคส่วนราชการและห้ามเข้าไปทำธุรกรรมทางการเงินกับทุกธนาคาร

โคราชเริ่มโล่งไร้ตายเพิ่ม

ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่องที่ 153 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ผู้เสียชีวิตสะสมยังอยู่ที่ 206 ศพ ส่วนที่จุดบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา นพ.เจษฎ์ บุญยวงศ์ วิโรจน์ ผู้ช่วย ผอ.รพ.มหาราชฯและบุคลากรทางการแพทย์ยังคงเดินหน้าดำเนินการฉีดวัคซีนเปิดให้เฉพาะตามที่มียอดฉีดในวันที่ 16 ต.ค. ได้แก่ ฉีดซิโนฟาร์ม SP เข็ม 1 กับเข็ม 2 รวม 2,000 คน, ฉีดซิโนแวค SV เข็มที่ 1 รวม 700 คน และแอสตราเซเนกา AZ เข็ม 2 รวม 1,700 คน รวมทั้งหมด 4,400 คน

ทำบอลลูนหัวใจดับหลังฉีดเข็ม 2

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่วัดประตูน้ำท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางเสาวคนธ์ อู่วิเชียร อายุ 61 ปี มารดาของนายวัชรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ อายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็ม 2 ได้ไม่กี่วัน นางเสาวคนธ์กล่าวว่ามั่นใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายเกิดจากการ แพ้วัคซีน ลูกเป็นผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ก่อนหน้านี้ไปฉีดวัคซีนเข็ม 1 แอสตราฯ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ รพ.พุทธโสธร มีอาการข้างเคียงเล็กน้อย เจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก ไม่นานก็หาย และเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ลูกชายเข้ารับการทำบอลลูนหัวใจ จำนวน 2 เส้น และกลับบ้านมาพักฟื้นในวันที่ 9 ต.ค. หลังทำบอลลูนกลับมา ลูกยังอาการปกติ

คาใจสาเหตุทำให้ลูกตาย

นางเสาวคนธ์ระบุต่อว่า กระทั่งถึงวันนัดฉีดวัคซีนแอสตราฯเข็มที่ 2 วันที่ 11 ต.ค. ช่วงเช้าตนโทรศัพท์ไปถามเจ้าหน้าที่ศูนย์โรคหัวใจ รพ.พุทธโสธร ว่าลูกเพิ่งไปทำบอลลูนหัวใจมาฉีดวัคซีนได้มั้ย เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่าให้ไปฉีดได้เลยและให้แจ้งเจ้าหน้าที่ด้านหน้าว่าไปทำบอลลูนหัวใจมา ตนให้นายมาโนช ปิ่นสุวรรณ พ่อของนายวัชรพงษ์ พาไปฉีดวัคซีน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ฉะเชิงเทรา พอกลับมาช่วงเย็น ลูกเริ่มมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก อยากจะอาเจียน กระทั่งวันที่ 15 ต.ค. ลูกบอกว่าไม่ไหวแล้ว หายใจไม่ออก แน่นหน้าอกให้พ่อพาลูกส่งโรงพยาบาล เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พาลูกเข้าห้องไอซียู ก่อนออกมาแจ้งว่าลูกหัวใจหยุดเต้น หมอพยายามปั๊มหัวใจ แต่ไม่ตอบสนอง แพทย์วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตว่ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ขณะที่นายมาโนชพ่อของผู้เสียชีวิตกล่าวเสริมว่า สาเหตุที่ลูกชายเสียชีวิต น่าจะมาจากการฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็มที่ 2 เพราะก่อนหน้านี้ลูกชายปกติดีทุกอย่าง อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของตนด้วย

คนไทยแห่ท่องเที่ยวคึกคัก

สำหรับบรรยากาศหลัง ศบค.ผ่อนคลายหลายมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ซบเซามานานร่วมสองปี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดวันที่ 16 ต.ค.ที่ท่าเทียบเรือ บ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อมีการเปิดเกาะสิมิลัน-สุรินทร์ ให้ท่องเที่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นมา มีนักท่องเที่ยวจองทัวร์จำนวนมาก ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ วงศ์เสถียรชัย ผู้จัดการบริษัท เลิฟอันดามัน ทัวร์ กล่าวว่า เปิดเกาะสิมิลันวันนี้ถือว่าครึกครื้น หลังจากอัดอั้นการท่องเที่ยวมานาน มีนักท่องเที่ยวจองเข้ามาเกินความคาดหมายทั้งเกาะสิมิลันและเกาะสุรินทร์ นักท่องเที่ยวจองสิมิลัน 2 ลำ ส่วนเกาะสุรินทร์ 3 ลำ รวมทั้งหมด 237 คน ร้อยละ 99 เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย เช่นเดียวกับนายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น ผู้จัดการ บริษัท ว้าว อันดามัน กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า วันนี้สภาพอากาศแจ่มใส คลื่นลมสงบ บริษัทนำลูกค้า เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปยังหมู่เกาะสิมิลัน ทุกคนดูตื่นเต้นมาก หลังจากที่ไม่ได้ไปเที่ยวกันนาน มีการพูดคุยกัน คิดถึงอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้ง แม้แต่พนักงานของเราเองก็ตื่นเต้นที่จะได้รองรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

ฉีด mRNA สูตรไขว้เข้ามะกันได้

ด้านสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ตลอด 24 ชม.ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 431,158 คน รวมสะสม 240,798,753 คน เสียชีวิตอีก 6,925 คน เป็น 4,904,057 คน ที่สหรัฐอเมริกา นายเควิน มูนอซ ผู้ช่วยเลขาธิการประจำทำเนียบขาว ทวีตข้อความประกาศนโยบายใหม่ว่า ทางรัฐบาลจะเตรียมเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ถือเป็นการสิ้นสุดนโยบายคำสั่งการปิดพรมแดนจากทั่วโลกที่ใช้มากว่า 18 เดือน หรือตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีกลาย เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งสหรัฐฯ หรือซีดีซี ยังเผยถึงการยอมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีน mRNA สูตรไขว้ อันรวมไปถึงวัคซีนเอสตราเซเนกา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โมเดอร์นา ไฟเซอร์/ไบออนเทค ซิโนฟาร์ม และซิโนแวค ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ หรือเอฟดีเอ รวมถึงจากองค์การอนามัยโลก (WHO) จำนวน 2 โดส ถือว่าได้รับวัคซีนครบแล้วสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ด้วยเช่นกัน

4 แสนโดสจากญี่ปุ่นถึงไทย

ขณะเดียวกัน สถานทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจบริจาควัคซีนเอสตราเซเนกาเพิ่มเติมจำนวนราว 400,000 โดสให้กับประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งเดินทางมาถึงเมื่อช่วงค่ำวาน (15 ต.ค.) รวมถึงที่รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคให้กับประเทศไทยเป็นจำนวนทั้งสิ้นราว 2.05 ล้านโดส และยังให้ความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การบริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนจำนวน 868 เครื่อง และเตรียมความพร้อมระบบลูกโซ่ความเย็นที่จำเป็นต่อการจัดเก็บและการขนส่งวัคซีนด้วยเงินสนับสนุนทั้งหมดราว 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 668 ล้านบาท