โลกสวยงามขึ้นทันทีที่นายกฯแถลงจะเปิดเมืองสิ้นเดือน พ.ย.และเมืองที่สดใสเติมสีสัน สิ้น ธ.ค.ท่านให้ร้านอาหาร สถานบันเทิง ฯลฯ ดื่มได้ เอาเป็นว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะมีรายได้เพิ่ม
สองวันก่อนไปโรงพยาบาล ผมนั่งแท็กซี่ เปิดใจให้กันแล้วหัวเราะกัน เรากลัวกันน้อยลง
บรรยากาศบ้านเมืองเรา เป็นเช่นที่พระพุทธเจ้า เหล่าจื๊อ หรือ โสคราตีส ว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ สุขทุกข์อยู่ที่ใจ
ทิ้งการเมือง เรื่องน่าเบื่อสักวัน วันนี้ ผมมีนิทานกริมม์ (ยาค็อบ และวิลเฮล์ม กริมม์ เขียน อาษา ขอจิตต์เมตต์ แปล สำนักพิมพ์ แสงดาว พ.ศ.2564) เรื่องตาเดียว สองตา และสามตา มาเล่าให้ฟัง
กาลครั้งหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่ง มีลูกสาวสามคน คนโตมีตาข้างเดียว อยู่กลางหน้าผาก คนกลาง มีตาสองตา เหมือนคนธรรมดา และคนน้อง มีตาสามตา ตาดวงที่สามอยู่กลางหน้าผาก
แม่ลูกสาวตาเดียว และสามตา เห็นว่า สองตานอกคอก ช่วยกันรุมเกลียดชัง ให้เสื้อผ้าเก่าๆสวม ให้กินอาหารที่เหลือ และใช้งานเธอหนักเหมือนเป็นคนใช้
วันนั้น สองตาได้อาหารไม่อิ่มท้อง เธอร้องไห้ฟูมฟายขณะต้อนแพะไปเลี้ยงในท้องทุ่ง ในอารมณ์ที่ท้อแท้และหดหู่นั้น เธอสะดุ้งเฮือกผู้หญิงสวยในเสื้อผ้าผู้ดี มายืนอยู่ข้างตัว
“เช็ดน้ำตาเสีย” ผู้หญิงสวยคนนั้นว่า “เธอจะไม่หิวอีกต่อไปแล้ว” จากนั้นก็สอนให้พูดกับแพะ
“แพะร้องแบ๊ะ–แบ๊ะ โต๊ะจ๋า เอาอาหารดีๆมาให้ฉัน”
สองตาทำตาม โต๊ะตัวเล็กตั้งตรงหน้า อาหารอร่อยวางอยู่เต็ม สองตากินเท่าที่เธออยากกิน จนอิ่มแปล้
ผู้หญิงสวยสง่า สอนให้พูดอีกว่า “แพะร้องแบ๊ะ-แบ๊ะ โต๊ะจ๋า ลาจากได้แล้ว”
สองตามทำตาม อาหารและโต๊ะก็หายไป พร้อมๆกับหญิงสาวสวยประหลาดคนนั้น
...
ตกเย็นสองตาต้อนแพะกลับบ้าน เธอไม่แตะต้องเศษอาหารที่แม่และพี่น้องวางไว้ให้ สองตาทำเช่นนี้อยู่สามวัน จนแม่และพี่น้องสงสัย ตกลงให้พี่ตาเดียวตามไปเลี้ยงแพะในทุ่งด้วย
สองตารู้ทัน วันนั้นเธอแกล้งต้อนแพะไปไกล ตาเดียวเหนื่อยนั่งพัก สองตาร้องเพลง “เธอหลับหรือเปล่า ตาเดียว ตาเดียวเธอหลับหรือตื่นอยู่” ร้องซ้ำๆไม่ช้าตาเดียวก็หลับ
วันนั้น ตาเดียวกับสองตากลับถึงบ้าน แม่และน้องสามตาก็ไม่รู้ว่าเธอได้อาหารจากที่ไหน
วันต่อมา สามตาอาสา สองตาใช้มุกเก่าร้องเพลง สามตาหลับแค่สองตา แต่หรี่ตาที่สามแอบดู จึงรู้ความจริง
ความลับแตกแม่โกรธมาก คว้ามีดปลายแหลมไปแทงคอแพะตาย ชำแหละเนื้อแพะกิน สองตาเดินร้องไห้ออกจากบ้าน หญิงผู้ดีโผล่มา แนะนำให้ขอเครื่องในแพะเอามาฝังหน้าบ้าน
รุ่งเช้าต้นไม้สวยเลิศล้ำ ใบเป็นเงิน ผลเป็นทอง เติบโตหน้าบ้าน สามแม่ลูกปีนต้นไม้ แต่ปลิดใบเงินผลทองไม่ได้ สองสามวันต่อๆมา ขณะสามแม่ลูกสั่งให้สองตาปีนขึ้นไปปลิดใบเงินผลทอง ติดออกมาตามมือ
ชายหนุ่มรูปงามขี่ม้าองอาจผ่านเข้ามา
สามแม่ลูกสั่งสองตาให้มุดเข้าในลังไม้ ยัดใบเงินผลทองตามเข้าไป ชายหนุ่มขอซื้อกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง ให้ราคาเต็มที่ แต่สามแม่ลูกก็ขายให้ไม่ได้ บังเอิญผลทองใบเงินไหลออกจากลังไม้ สองตาโผล่ตามมา
ชายหนุ่มลูกขุนนางใหญ่ อุ้มเธอขึ้นม้ามุ่งหน้าไปปราสาทของบิดา ต้นไม้พิเศษต้นนั้นหายวับจากบ้านสามแม่ลูก ไปโผล่ที่ปราสาทของสองหนุ่มสาว ซึ่งต่อมาเป็นสามีภรรยากัน
นิทานเรื่องนี้ มีเค้าคล้ายซิลเดอเรลล่านะครับ...จบลง สองพี่น้องขี้อิจฉาเป็นขอทาน สองตารับไว้เลี้ยงดู ตามแบบฉบับนางเอกนิทานผู้แสนดี นิทานฝรั่งไทยแก่นเรื่องคล้ายกัน คนดีตกยากมักมีเทวดานางฟ้าช่วย
แต่ถ้าเป็นเรื่องแบบว่า ไม่มีผู้ร้ายเป็นตัวช่วย พระเอกก็ทำท่าจะไปต่อไม่ไหว นี่เป็นแบบฉบับการเมืองไทย การเมืองเมืองอื่นดูจะไม่มี.
กิเลน ประลองเชิง