น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกของอาชีพ ที่มีอาชีพใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้น และมีความคาดหวังว่านักเรียน นักศึกษาต้องปรับตัวได้ทันกับโลกของอาชีพที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ และคาดว่าเราต้องอยู่ร่วมกับโรคติดเชื้อโควิด-19 ไปอีกระยะหนึ่ง และจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ติดตามการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็ได้รับเสียงสะท้อนจากผู้เรียน สถานศึกษา และประชาชนว่า มีนักเรียนนักศึกษาออกกลางคันเป็นจำนวนมาก สาเหตุหนึ่งคือความแข็งตัวของหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอน ดังนั้น จึงต้องมีการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เรียนมีคุณภาพ มีสมรรถนะสูงสุดตรงตามที่สถานประกอบการ หรือตลาดแรงงานต้องการ

“ดิฉันได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทบทวนเรื่องการจัดการเรียนการสอนของอาชีวศึกษาทั้งระบบ ตั้งแต่ตัวหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) การจัดการเรียนรู้ การจัดเวลาเรียน การฝึกประสบ การณ์สมรรถนะวิชาชีพ การฝึกอาชีพ การประเมินผลการเรียนรายวิชา ตลอดจนการฝึกอาชีพในระบบทวิภาคี รวมถึงเรื่องสื่อที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เรียนสายวิชาชีพ สามารถจบออกไปมีคุณภาพ ที่สำคัญสามารถเรียนจนจบหลักสูตรโดยไม่ออกจากหลักสูตรกลางคัน ซึ่งการปรับปรุงนี้ควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จทันใช้ในปีการศึกษา 2565” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว.