ปัจจุบันไม้ดอกไม้ประดับมีความสำคัญในหลายด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะบางชนิดสามารถดูดซับสารพิษในอากาศได้เป็นอย่างดี เช่น ต้นหนวดปลาหมึก ยางอินเดีย บอสตันเฟิร์น พลูด่าง หมากเหลือง กล้วยไม้พันธุ์หวาย เป็นต้นเลยทำให้ไม้ดอกไม้ประดับกลายเป็นสินค้าทางเลือกที่มีอนาคต ตลาดมีความต้องการสูง และเป็นสินค้าทางเลือกหนึ่งที่มีศักยภาพในการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรจากการลงพื้นที่ของ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำรวจการผลิตต้นหนวดปลาหมึกในพื้นที่จังหวัดนครนายกในกลุ่มตัวอย่าง 30 ราย ผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 124,450 บาท/ไร่/รอบการผลิต แบ่งเป็นต้นทุนการเพาะปลูก 73,990 บาท และต้นทุนการจำหน่าย 50,460 บาทในระยะเวลา 1 ปี สามารถปลูกได้ 2 รอบการผลิต เกษตรกรนิยมปลูกในถุงดำขนาด 5 นิ้ว ในพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 10,000 ต้น โดยใช้กิ่งพันธุ์จากต้นแม่พันธุ์ของตนเองนำมาปักชำ ใช้ ระยะเวลาการปลูก 2–6 เดือน จะเริ่มจำหน่ายเมื่อมีอายุต้น 2 เดือน บางส่วนจะนำมาเปลี่ยนขนาดถุงเป็น 8 นิ้ว และดูแลต่อเนื่องจนมีอายุ 6 เดือน จึงจะจำหน่ายราคาที่เกษตรกรขายได้ ถุงดำขนาด 5 นิ้ว อยู่ที่ต้นละ 9 บาท ถุงดำขนาด 8 นิ้ว ต้นละ 32 บาท เกษตรกรได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 196,122 บาท/ไร่/รอบการผลิต หักต้นทุนแล้วได้กำไร 71,672 บาท/ไร่/รอบการผลิต หรือปีละ 143,344 บาท (2 รอบการผลิต)ผลผลิตส่วนใหญ่ ร้อยละ 50 จำหน่ายให้กับผู้ซื้อรายย่อยที่นำไปจัดสวนของตนเอง ร้อยละ 30 จำหน่ายให้กับบริษัทรับจัดสวน และร้อยละ 20 จำหน่ายให้พ่อค้าจังหวัดใกล้เคียงและต่างจังหวัดมารับซื้อเพื่อส่งออกไปยังตลาดสิงคโปร์ มาเลเซียนอกจากนี้ เกษตรกรบางรายมีการจำหน่ายทางออนไลน์ผ่าน Facebook ของตนเอง เกษตรกรสนใจผลการศึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ สศท.6 โทร.0-3835-1261 หรืออีเมล zone6@oae.go.thสะ–เล–เต