กระทรวงยุติธรรมกำลังผลักดันสุดลิ่มทิ่มประตูเพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. ...คลอดออกมาให้เร็วที่สุดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เชื่อว่าเมื่อกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะช่วยเติมเต็มภาพลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สร้างความปลอดภัยด้านชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยล่าสุดส่งร่างฯให้ ครม.พิจารณาเรียบร้อยแล้ว ส่งต่อให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณากฎหมาย JSOC เฝ้าระวังผู้ต้องขังที่พ้นโทษ 7 กลุ่ม ประกอบด้วย ฆ่าข่มขืน ฆ่าข่มขืนเด็ก ฆาตกรโรคจิต ฆาตกรต่อเนื่อง ปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ ฆ่าสังหารหมู่ และพ่อค้ายาเสพติดเรื่องนี้...กระทรวงยุติธรรมเปิดรับฟังความคิดเห็นทางออนไลน์ พบความเห็นหลากหลาย ทั้งเห็นด้วยเพราะทำให้สังคมเกิดความระมัดระวังปลอดภัยมากขึ้น ส่วนที่ไม่เห็นด้วยเพราะอยากให้ติดคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ไม่ควรได้ลดโทษ!รมว.ยุติธรรมรับว่า เรื่องการไม่ลดโทษหรือจำคุกยาวอาจเป็นเรื่องยาก เพราะกระทบกับเรื่องสิทธิเสรีภาพ เมื่อเข้าสู่เรือนจำจะดูความประพฤติ หากปฏิบัติตัวดีจะได้ลำดับชั้นนักโทษ แต่ละชั้นได้สะสมวันลดโทษถึงเวลาจะมีคณะกรรมการพิจารณาว่าสมควรได้รับการลดโทษหรือไม่?นั่นเป็นสิทธิของผู้ต้องขัง...แต่อย่าลืมสิทธิของเหล่าเหยื่ออาชญากรเหล่านี้ด้วย ถ้าก่อคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ไปนั่งๆ นอนๆทำตัวดีในคุกไม่กี่ปีได้ออกมาเดินเชิดหน้าในสังคม แล้วมาตรฐานการลงทัณฑ์มันจะอยู่ตรงไหน?ขอเสนอแนะ ก่อนจะปล่อยผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์เหล่านี้ออกสู่สังคม คณะกรรมการที่พิจารณาควรเรียกฝ่ายเหยื่อหรือครอบครัวผู้เสียหายมาแสดงความคิดเห็นด้วยเพราะหลังพ้นโทษเหมือนปล่อยเสือเข้าป่า ตำรวจเคยมีนโยบายติดตามตรวจสอบผู้ต้องหาที่พ้นโทษในพื้นที่รับผิดชอบมาแล้วสุดท้ายก็ตามกันไม่หวาดไม่ไหว ต้องปล่อยไปตามยถากรรม!สหบาท