ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านนวด ได้เฮ ศบค.ปลดล็อกต่อลมหายประกอบการผ่อนคลายมาตรการเข้มใน 29 จังหวัดพื้นที่สีแดง แต่ยังคงเคอร์ฟิว 3 ทุ่มถึงตี 4 ใจผู้ร้านอาหารมีแอร์เปิดให้นั่งทานได้ 50% ของพื้นที่ ส่วนร้านอาหารไม่มีแอร์/ไม่เปิดแอร์สั่งได้ 75% ของพื้นที่ และเปิดได้ไม่เกิน 2 ทุ่ม อนุญาตให้ใช้อาคารเรียนจัดสอบ-ประชุม แต่ยังไม่เปิดเรียน แข่งกีฬาได้แต่ไร้ผู้ชม คลอดมาตรการสถานประกอบการ COVID-FREE Setting ฉีดวัคซีน-ตรวจ ATK ไฟเขียวเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ขอร้องให้ไปเฉพาะจำเป็น ขนส่งสาธารณะจำกัดที่นั่ง 75% ห้ามกินอาหารบนรถ อังกฤษประกาศปรับสถานะประเทศไทยเป็นสีแดงเริ่ม 30 ส.ค. ผู้ที่เดินทางจากไทยหรือผ่านไทยมาอังกฤษหลังวันดังกล่าว ต้องกักตัวในโรงแรมที่รัฐบาลกำหนด 10 วัน โรงพยาบาลสนามสมุทรปราการรวมใจ 5 ฉาวโฉ่ เจ้าหน้าที่พบคนไข้ชายหญิงเล่นเซ็กซ์หมู่ ทหารตำรวจเข้าตรวจค้น พบของต้องห้ามเพียบที่คนมาเยี่ยมแอบเอามาให้ถือเป็นการต่อลมหายใจให้กับบรรดาผู้ประกอบการร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าและอีกหลายกิจการ อาทิ ร้านเสริมสวย ที่ถูกปิดกิจการไปก่อนหน้านี้เพราะพิษโควิด หลัง ศบค.พิจารณาปลดล็อกผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด นายกฯหัวโต๊ะถก ศบค.ชุดใหญ่เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิค-19) หรือ ศบค.เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 13/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ประเมินสถานการณ์ พิจารณาผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรม มาตรการป้องกันโควิด-19ตาย 273 ศพติดเชื้อ 1.8 หมื่นต่อมาเวลา 13.30 น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค. เริ่มจากรายงานสถานการณ์โควิดในไทยว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 18,702 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 273 ราย เป็นชาย 148 ราย หญิง 125 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้มีอายุเกิน 60 ปี 178 ราย ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง 48 ราย หญิงตั้งครรภ์ 3 ราย อยู่ที่ จ.ปัตตานี 2 ราย และปทุมธานี 1 ราย มีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 1 รายที่ จ.สระบุรี จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ กทม. 85 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 63 รวม 1,139,571 ราย เสียชีวิตสะสม รวม 10,587 รายคงพื้นที่แดงเข้ม 29 จว.ตามเดิมพญ.อภิสมัยแถลงว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการข้อกำหนดที่ 29 ที่จะครบในวันที่ 31 ส.ค. กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่าการติดเชื้อในประเทศไทย ยังมีอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ลดและเป็นไปในทิศทางเดียวกับทุกประเทศทั่วโลกและต้องปรับตัวให้อยู่กับโรคอย่างปลอดภัย สอดคล้องไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากโควิด-19 ที่ประชุม ศบค.จึงยังไม่มีการปรับระดับพื้นที่ยังคงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ใน 29 จังหวัดเหมือนเดิม รวมถึงยังคงมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นเช่นเดิม และเวิร์กฟรอมโฮมต่อไปอย่างน้อยอีก 14 วันคลอด COVID-FREE Settingพญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ที่ขอให้ทุกคนคิดเสมอว่าเราจะอาจติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่รู้ตัวและไม่มีอาการ ทุกคนที่อยู่รอบตัวอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อแฝง ในการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุดตลอดเวลา อีกทั้งมีแนวปฏิบัติของมาตรการองค์กร ที่ใช้คำว่า COVID-FREE Setting ให้โรงเรียน โรงงาน ปลอดโควิด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่โรค โดย COVID-FREE Setting มีองค์ประกอบ 3 ส่วนคือ ต้องมีระบบระบายอากาศ มีสุขอนามัย สะอาด ปลอดภัย เว้นระยะห่าง ผู้ประกอบการผู้ให้บริการหรือพนักงาน จะเน้นย้ำระดมฉีดวัคซีน ให้คนที่อยู่ในภาคบริการเหล่านี้ ทั้งร้านอาหาร ร้านตัดผมร้านนวด สนับสนุนให้ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ ผู้รับบริการต้องร่วมมืออย่างเข้มงวด ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ (บัตรเขียว)หรือเคยติดเชื้อ หรือมีผลตรวจ ATK เป็นลบภายใน 7 วัน (บัตรเหลือง) ก่อนเข้ารับบริการ1 ก.ย.นำร่องเปิดร้านที่พร้อมผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวด้วยว่า มาตรการเหล่านี้จะทำให้การเปิดกิจกรรม กิจการต่างๆเปิดได้มากขึ้น เริ่มใช้วันที่ 1 ก.ย.ในพื้นที่นำร่อง เฉพาะสถานประกอบการหรือสถานบริการที่พร้อมดำเนินการได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เช่น ร้านอาหาร บางทีมีความพร้อม พนักงานฉีดวัคซีนครบ หาชุดตรวจ ATK ให้พนักงานได้ มาตรการตรงนี้ยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ในทุกร้าน ทุกสถานประกอบการ แต่เป็นเพียงการนำร่อง หากสถานประกอบการใด ร้านอาหารใดยังไม่พร้อม ให้ศึกษารายละเอียดไปก่อน จังหวัดและสมาคมภัตตาคารไทยจะคอยให้คำแนะนำ หากพร้อมเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวได้ ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของมาตรการเหล่านี้ เพื่อช่วยกันลดยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต เปิดขนส่งสาธารณะแดงเข้ม 75%พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกำหนดที่ ศปก.ศบค.พิจารณาเพิ่มเติม เรื่องการเปิดกิจกรรมกิจการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด เรื่องการเดินทางข้ามจังหวัด เดินทางได้แต่ขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงการเดินทางหรือเดินทางเมื่อมีเหตุจำเป็น ขอให้ผู้มีประวัติเสี่ยงติดเชื้อหรือผู้ติดเชื้อเข้าโครงการรับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาไม่อนุญาตให้เดินทางเอง ขนส่งสาธารณะเปิดดำเนินการได้โดยจำกัดผู้โดยสาร ไม่เกิน 75% เข้มงวดมาตรการสาธารณสุข สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทั้งผู้ให้บริการ ผู้ขับขี่ยานพาหนะ ผู้รับบริการ ผู้เก็บค่าโดยสารและห้ามรับประทานอาหารขณะกำลังโดยสารรถขนส่งสาธารณะให้นั่งกินในร้านอาหารได้พญ.อภิสมัย กล่าวว่าส่วนการเปิดให้บริการร้านอาหาร หากเป็นร้านมีพื้นที่โล่งมีการระบายอากาศอย่างดี อนุญาตให้นั่งรับประทานได้75% ของพื้นที่ แต่ถ้าเป็นร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 50% ของพื้นที่ ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันมีการติดตามโดยผู้ประกอบการสมาคมภัตตาคารไทย คณะกรรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.ด้วยเปิดห้าง เว้นที่เสี่ยง สปา โรงหนังพญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ห้างสรรรพสินค้าเปิดกิจการได้แต่เป็นการเปิดอย่างมีเงื่อนไข หมายถึงกลุ่มร้านเสริมสวย ร้านตัดผมแต่งผม เปิดได้เฉพาะตัดผมไม่เกิน 1 ชั่วโมง เน้นให้นัดหมายจองคิวล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงลูกค้าเข้าไปแออัดนั่งรอ ร้านนวดเปิดได้เฉพาะนวดเท้า คลินิกเสริมความงามเปิดจำหน่ายเฉพาะสินค้าเท่านั้น ให้นัดหมายล่วงหน้าเช่นกัน ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าเปิดได้โดยมีเงื่อนไข ร้านที่มีเครื่องปรับอากาศเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. ที่เปิดไม่ได้ คือ สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงในห้างฯ กิจการกิจกรรมนอกห้างฯแข่งกีฬาจัดได้แบบไม่มีผู้ชมผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า สถานศึกษายังไม่เปิดเรียน แต่ให้ใช้อาคารสถานศึกษาได้ เช่น การจัดสอบ จัดประชุม จัดการเรียนการสอน แต่ต้องผ่านความเห็นจากกระทรวงศึกษาฯ กระทรวง อว.ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและ กทม.และต้องเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรค สนามกีฬา เปิดในส่วนเล่นกีฬาหรือแข่งขัน แบบไม่มีผู้เข้าชมจำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรมและต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กทม. เปิดได้ถึง 20.00 น. กิจการกิจกรรมที่เปิดได้ต้องทำให้ปลอดภัย ไม่มีการรายงานผู้ติดเชื้อสูงขึ้น จะทำให้ทิศทางผ่อนคลายมีมากขึ้น ย้ำ พณ.ดูออกซิเจนให้เพียงพอด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ในการประชุม ศบค.นายกฯให้ปรับมุมมองและยุทธศาสตร์การบริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยให้ประชาชนสามารถอยู่กับโรคได้อย่างปลอดภัย เพราะเชื่อว่าไวรัสโควิด-19 จะยังไม่หมดไปและจะมีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยต้องควบคุมโรคให้สมดุลกับการดำรงชีวิตและทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ ทยอยเปิดกิจกรรมและในพื้นที่ที่มีความพร้อมตามเป้าหมายการเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นตอน นายกฯยังฝากกระทรวงพาณิชย์ติดตามความต้องการใช้ออกซิเจนทางการแพทย์ให้เพียงพอ พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันการลักลอบส่งออกถังออกซิเจนผิดกฎหมายด้วยสิ้นปีนี้ได้วัคซีน 140 ล้านโดสนายธนกรกล่าวว่า นายกฯมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งจัดหาวัคซีนโควิดสำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า ปัจจุบันฉีดวัคซีนให้กับครูไปกว่า 573,656 คน ยังมีนักเรียนในระบบอีกประมาณ 4 ล้านคน กระทรวงสาธารณสุขคาดว่า ภายในสิ้นปีนี้ไทยจะได้รับวัคซีนรวมทุกประเภท 140 ล้านโดส ขอให้เดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเป้าหมาย ชาวต่างประเทศที่อยู่ในไทย ให้เร่งรัดการเข้าถึงการตรวจโควิด-19 ด้วย ATK นายกฯ ยังได้กล่าวให้กำลังใจทุกคนว่า ขอให้เราต้องมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ เพื่อร่วมมือกันทำงานเพื่อคนไทย และคงต้องร่วมกันทำในยุคนี้ รัฐบาลชุดนี้ด้วยเกาหลีสนใจวัคซีนใบยาเวลา 14.00 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายชอง อึย-ยง รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐเกาหลี เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ นายกฯกล่าวชื่นชมพร้อมสนับสนุนประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ได้ประกาศให้เกาหลีใต้เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโลกภายในปี 2568 และหวังได้ร่วมมือแลกเปลี่ยนผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะที่ รมว.ต่างประเทศเกาหลีใต้สนใจแลกเปลี่ยนความร่วมมือพัฒนาวัคซีน Chula Cov 19 ของไทยหมอชนบทยังค้านจัดซื้อ ATK Lepuวันเดียวกัน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ส่งจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาเอกสารวิชาการเพื่อประกอบการตัดสินใจที่รอบคอบในการอนุมัติชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชิ้น โดยอ้างอิงข้อความ นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนวณิชย์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่สะท้อนความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก เป็นห่วง ATK ยี่ห้อ Lepu Medical ที่รัฐจะจัดซื้อแจกจ่ายประชาชน เนื่องจากการวิจัยในเยอรมนี มีการเปรียบเทียบความแม่นยำในการตรวจของ ATK 32 ยี่ห้อที่ขายในเยอรมนี พบว่า Lepu มีความไวในการตรวจพบเชื้อน้อยที่สุด การจัดซื้อ 8.5 ล้านชิ้น ยังอยู่ในขั้นตอนที่ รพ.ราชวิถี ต้องพิจารณาความเหมาะสมของคุณ ลักษณะให้สอดคล้องกับราคา การใช้งาน ทราบว่าจะมีการลงนามในสัญญาวันที่ 30 ส.ค. ชมรมฯ จึงหวังจะเห็นรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ใช้งานวิชาการเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ อย่าให้เกิดความเสียหายตามมาอภ.ขอตรวจสอบคุณภาพก่อนรับขณะที่ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้หารือร่วมกับนางศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริหาร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) จำกัดและบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ ประเทศไทย จำกัด ตัวแทนจำหน่ายชุดตรวจ ATK ยี่ห้อ Lepu ของบริษัท ออสทิแลนด์ จำกัด ที่ชนะการประมูล เพื่อเตรียมการลงนามในวันที่ 30 ส.ค. นพ.วิฑูรย์กล่าวว่า ตามข้อกำหนดที่ สปสช.กำหนดมาตั้งแต่แรกสำหรับการจัดซื้อ ATK คือต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย.เพียงอย่างเดียว ไม่ได้กำหนดว่าต้องผ่านมาตรฐานของ WHO ขอยืนยันว่า ชุดตรวจนี้จะต้องมีคุณภาพ องค์การฯจะตรวจสอบคุณภาพตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจรับก่อนส่งให้หน่วยบริการและตรวจติดตามเฝ้าระวังคุณภาพของ ATK ภายหลังการส่งมอบด้วยยื่น 4 ข้อเรียกร้องดูแลคนท้องที่กระทรวงสาธารณสุข วันเดียวกัน เครือข่ายภาคประชาชน นำโดยนายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว น.ส.จรีย์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล นายศิวารินท์ จันทสิทธิ์ ประธานกลุ่มสหภาพ แรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ขอให้กระทรวงฯมีมาตรการเร่งด่วนป้องกันและแก้ไขปัญหาหญิงตั้งครรภ์ติดโควิด-19 มี นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับหนังสือ น.ส.จรีย์ กล่าวว่า หญิงตั้งครรภ์เดือดร้อนจากการระบาดโควิด-19 ทั้งการติดเชื้อ การรักษา บางรายติดโควิดกำลังจะคลอดถูก รพ.ปฏิเสธระบุว่าเกินศักยภาพ บางรายถูกเรียกเก็บค่ารักษา ขณะที่อัตราการเสียชีวิตในหญิงตั้งครรภ์สูงถึง 2.5% นพ.โสภณกล่าวว่า รับข้อเรียกร้องและเห็นด้วยทั้ง 4 ข้อและหญิงตั้งครรภ์สามารถฉีดวัคซีนได้ที่คลินิกต่างๆด้วยอังกฤษปรับสถานะไทยเป็นสีแดงขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมของอังกฤษ ได้ประกาศผลการพิจารณาปรับรายชื่อประเทศและพื้นที่ที่พบการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โควิด-19 และความเสี่ยงในการเดินทาง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 ส.ค. โดยไทยได้ถูกปรับย้ายจากกลุ่มประเทศสีอำพัน มาเป็นกลุ่มประเทศสีแดง ร่วมกับประทศมอนเตเนโกรและมีประเทศสมาชิกอาเซียนถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับไทย ได้แก่ อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ การปรับสถานะประเทศไทยมาเป็นสีแดง ส่งผลให้ผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนัก หรือนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดินทางจากไทยหรือผ่านไทยในรอบ 10 วันที่ผ่านมา ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศอังกฤษได้ ขณะที่ผู้ที่มีถิ่นพำนัก (ศึกษาต่อหรือทํางาน) ยังเดินทางเข้าไปได้ แต่ต้องกักตัวในโรงแรมที่กําหนด 10 วันให้เลื่อนเดินทางไม่ต้องยกเลิกด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ ททท.สำนักงานลอนดอน ติดตามผลกระทบต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยและความรู้สึกของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษหลังไทยถูกปรับสถานะเป็นสีแดง และ ททท.จะหล่อเลี้ยงความต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวไทยด้วยการสื่อสารข้อเท็จจริงในภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ พร้อมสนับสนุนให้เป็นการเลื่อนเดินทาง ไม่ใช่ยกเลิกการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาไทย และจะเสนอให้ลดจำนวนวันกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน ส่วนข้อเสนอไม่ต้องกักตัวเลยสำหรับประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ มีความเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับการยอมรับของคนไทยด้วย ทหารตำรวจบุกตรวจ รพ.สนามวันเดียวกัน นายวันชัย คงเกษม ผวจ. สมุทรปราการ เปิดเผยถึงกรณีโรงพยาบาลสนามสมุทรปราการรวมใจ 5 อยู่ริมคลองส่งน้ำ ต.บางปลา อ.บางพลี มีเรื่องราวอื้อฉาวเกิดขึ้นในโรงพยาบาล จนทหารและตำรวจต้องเข้าตรวจค้นว่า ได้ให้ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นผู้กำกับดูแล เรื่องการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยในโรงพยาบาลและรายงานความคืบหน้าเข้ามาเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อรายงานหน่วยเหนือต่อไปทั้งนี้ เหตุการณ์อื้อฉาวที่เกิดขึ้น เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 ส.ค.หลังจาก พ.อ.ประเทือง แก้วทุย รองผอ.รมน.จังหวัดสมุทรปราการ นำคณะเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร กอ.รมน.สมุทรปราการ ตำรวจสภ.บางพลี เข้าตรวจค้นภาย ในโรงพยาบาลสนามดังกล่าว พบอาวุธ ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายต่างๆ จำนวนหนึ่ง ทั้งยังตรวจพบว่ามีผู้ป่วยโควิดบางกลุ่ม ที่เข้าไปรักษาตัวฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งของโรงพยาบาล ให้บุคคลภายนอกแอบนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้าไปให้ มีการก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ปัญหายาเสพติดแอบเล่นการพนันพบผู้ป่วยจับกลุ่มเซ็กซ์สวิงกิ้งแต่ที่หนักสุดคือมีผู้ที่เข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ มีเพศสัมพันธ์กันลักษณะสวิงกิ้ง โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ดูแลพบพฤติกรรมดังกล่าวจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ทุกมุม โดยมีผู้ป่วยหญิงกลุ่มหนึ่งเดินเข้าไปในเขตที่มีผู้ป่วยชายหลายคนนอนรักษาตัวและใช้ผ้าขนหนูคลุมหัวไว้เพื่อไม่ให้เห็นหน้าในช่วงกลางคืน หลังจากเสร็จกิจการมีเพศสัมพันธ์ก็เดินออกมา ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นยังพบผู้ป่วยบางราย ทั้งชาย หญิงเข้ามานั่งปะปนกัน ทั้งที่เจ้าหน้าที่ได้แยกให้อยู่คนละส่วนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พยาบาลได้คอยเตือนอยู่ตลอดเวลา แต่ผู้ป่วยบางรายไม่ยอมฟัง ยังฝ่าฝืนกฎอยู่ตลอด เจ้าหน้าที่จึงให้กลับไปอยู่ที่บริเวณเตียงที่พักของแต่ละคนและตรวจค้น พบบุหรี่ธรรมดากับบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาเติมบุหรี่ เจ้าหน้าที่จึงยึดมาเก็บไว้ เนื่องจากมีกฎห้ามสูบบุหรี่ภายในโรงพยาบาลล้อมคอกคุมเข้มฝ่าฝืนดำเนินคดีขณะที่ พ.อ.ประเทือง แก้วทุย รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการสะสมจากหลายปัญหา ทั้งการทะเลาะวิวาท การไปมาหาสู่ระหว่างคนในครอบครัวของผู้ที่มากักตัว หรือบางกลุ่มที่มีการมั่วสุม มีเพศสัมพันธ์ กระทำการอันหนึ่งอันใดที่ไม่สมควร หลังได้รับข้อมูลจึงมีการหารือก่อนสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ประสานหน่วยงานสาธารณสุขที่ควบคุมดูแลสถานที่ เข้าตรวจค้นเพื่อป้องปราม ส่วนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมติให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา เซ็นชื่อรับทราบข้อกำหนดข้อห้ามกฎระเบียบ ของโรงพยาบาลสนาม หากยังเกิดเหตุจะเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าจงใจฝ่าฝืนจะมีความผิด นอกจากนี้ ผวจ.สมุทรปราการ ยังมีคำสั่งให้กำหนดเขต แยกพื้นที่ แบ่งโซนระหว่างผู้ป่วยชาย-หญิง ให้ชัดเจน สร้างแนวป้องกันการฝ่าฝืนข้ามพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นต้น ส่วนผู้ต้องสงสัยที่กระทำความผิดในเรื่องมีเพศสัมพันธ์กัน ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าผู้ใดกระทำความผิดบ้างและได้ย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามอื่นแล้ว ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ประสานให้ตำรวจตรวจร่างกายผู้ที่หายจากอาการป่วยที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ หากพบว่ามีสารเสพติดจะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไปแม่ค้าส้มตำฉีดเข็มแรกหมดสติเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดเต็มรักสามัคคี ศาลา 1 หมู่ 8 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังทราบว่ามีพิธีรดน้ำศพนางพัชรินทร์ เอิบอาบ อายุ 47 ปี แม่ค้าขายส้มตำ ที่เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 3 ส.ค. น.ส.อรทัย น้องสาวผู้เสียชีวิต เผยว่า หลังฉีดวัคซีนพี่สาวมีอาการหน้ามืด อาเจียน ร่างกายซีกซ้ายไม่มีแรง ปากเบี้ยว พูดติดอ่าง จึงนำตัวส่ง รพ.บางบัวทองและติดต่อไปที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งโรงพยาบาลได้นำรถสเเกนสมองเคลื่อนที่มาตรวจหาสาเหตุ พบว่าเส้นเลือดในสมองตีบ จึงนำตัวเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลบางบัวทอง 1 เเพทย์ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นวันที่ 5 ส.ค.พี่สาวหมดสติ อาการไม่ดีขึ้น มีแต่ทรุดลงทุกวันนอนรักษาตัว 22 วันเสียชีวิตน.ส.อรทัยเล่าอีกว่า กระทั่งวันที่ 10 ส.ค. ถูกนำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า แพทย์แจ้งว่าพี่สาวมีโรคหัวใจโต น้ำท่วมปอด เส้นเลือดสมองตีบ เป็นตายเท่ากัน เพราะส่งตัวพี่สาวมาช้าเกินไป ในที่สุดก็เสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 26 ส.ค. หลังนอนรักษาตัวมา 22 วัน ตนและครอบครัวต่างติดใจการตายของพี่สาวเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้าฉีดวัคซีนพี่สาวไม่ได้มีโรคประจำตัวตามที่เเพทย์ระบุ ทุกคนเชื่อว่าที่พี่สาวเสียชีวิตเพราะฉีดวัคซีนแน่นอน ขณะที่แพทย์โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าแจ้งว่า ถ้าครอบครัวติดใจการเสียชีวิตให้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนหน้านี้ที่พี่สาวยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ สปสช.แต่เรื่องก็เงียบ หลังจากนี้จะไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ สสจ.นนทบุรี เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่สาว ส่วนศพจะฌาปนกิจวันอาทิตย์ที่ 29 ส.ค.ปิดวัดสวนแก้ว 7 วันหลังพบเชื้อนอกจากนี้ ที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือน ส.ค. มีคนงานผู้หญิงที่วัดไปผ่าตัดไส้ติ่งที่ รพ.พระนั่งเกล้า หลังผ่าตัดได้กลับมาพักรักษาตัว ที่ห้องพักคนงานต่อมาโรงพยาบาลแจ้งมาว่าหญิงดังกล่าวติดเชื้อโควิดและมารับตัวไปรักษาวัดได้พบว่ามีผู้สัมผัสใกล้ชิด จึงประสานเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มาตรวจคัดกรองเบื้องต้นพบติดเชื้อ 7 ราย เจ้าหน้าที่มาตรวจคัดกรองที่วัด ผลพบผู้ติดเชื้อโควิด 49 ราย ได้แยกไปกักตัวรักษาอาคารที่พัก ส่วนผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงให้กักตัวดูอาการในวัดและเทศบาลตำบลบางเลน มีคำสั่งปิดวัด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.ถึงวันที่ 3 ก.ย. หลังครบ 7 วัน สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีจะตรวจซ้ำให้กับผู้ที่กักตัวอีกครั้ง ได้ให้คนที่ไม่พบเชื้อและไม่เสี่ยงสูงมาช่วยกันทำอาหาร โชคดีที่วัดสวนแก้วปลูกผักปลูกผลไม้ไว้กินเองและจำหน่าย จึงเอามาทำอาหารส่งให้กับผู้ป่วยและผู้กักตัวได้กินครบทั้ง 3 มื้อ นอกจากนี้มีผู้ใจบุญนำข้าวสารมามอบให้ 4 กระสอบ เพราะวัดไม่ได้รับการเยียวยาจากใคร ต้องช่วยเหลือดูแลกันเอง