ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทำคนไทยตะลึงอีกครั้ง 312 ศพ ทำนิวไฮครั้งแรกหลัง มีการระบาดตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงปีนี้ ยอดติดเชื้อยังหลัก 2 หมื่น ศบค.อ้างยอด เสียชีวิตเยอะเพราะเป็นยอดตกหล่นที่มีการรวบยอดมาแจ้ง พร้อมแจงเหตุผลทำไมต้องซื้อแต่วัคซีนซิโนแวค แพทย์ชนบทออกแถลงการณ์ย้ำข้อสั่งการนายกฯ จัดซื้อ ATK ขณะที่การประชุม ครม. เมื่อวันอังคารที่ 17 ส.ค. นายกฯสั่ง ศปก.สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดหาชุดตรวจ ATK ที่ผ่านการรับรองจาก อย.และมีขายในไทย คุณภาพมาตรฐานสากลและองค์การอนามัยโลกรับรองมาใช้ จับตากระทรวงสาธารณสุขจะสนองคำสั่งนายกฯหรือไม่ สุดเศร้าสาววัย 28 ปี ท้อง 9 เดือน ติดโควิดเข้ารักษาใน รพ. แพทย์ตัดสินใจ ผ่าคลอดช่วยเด็กออกมาอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงแม่สิ้นลมหายใจทั้งที่ยังไม่เห็นหน้าลูก ส่วนยายวัย 70 ชาวบุรีรัมย์ที่ฉีดวัคซีนเบิ้ล หมอไปเยี่ยมอาการพบยังปกติ

ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทำนิวไฮเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาดมาตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน โดยพุ่งถึง 312 ศพ ขณะที่ ศบค.อ้างว่ามีบางจังหวัดทบยอดไว้และ ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค อ้างผู้เสียชีวิตในจำนวนนี้เป็นยอดที่ตกหล่นตั้งแต่เดือนเมษายนและบางรายเพิ่งได้ผลชันสูตรว่าเป็นโควิด

...

ตายวิกฤติ 312 ติดเชื้อ 20,250

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 ส.ค. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในไทยประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 20,515 ราย ติดเชื้อในประเทศ 20,250 ราย จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 16,520 ราย ค้นหาเชิงรุก 3,730 ราย จากเรือนจำ 248 ราย จากต่างประเทศ 17 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 968,957 ราย ตัวเลขนี้ยังไม่รวมการตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) อีก 7,120 ราย เนื่องจากต้องรอผลยืนยันการตรวจ RT-PCR ขณะที่มีผู้อยู่ระหว่างรักษา 207,553 ราย อาการหนัก 5,458 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,155 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 312 ราย เป็นชาย 174 ราย หญิง 138 ราย

อ้างลพบุรี-ชลบุรีส่งยอดรวม

พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นตัวเลขสูงที่สุดเท่าที่เคยรายงาน อาจเป็นผลมาจาก จ.ลพบุรี และชลบุรี ที่รายงานตัวเลขเสียชีวิตสะสมของหลายวัน เพราะบางรายยืนยันผลหลังจากเสียชีวิตทำให้การรายงานผลล่าช้า โดยลพบุรีเสียชีวิต 25 ราย ชลบุรี 20 ราย แต่ผู้เสียชีวิตพบใน กทม.มากสุด 78 ราย สมุทรปราการ 25 ราย ปทุมธานี 18 ราย สมุทรสาคร 17 ราย สระบุรี 10 ราย นครราชสีมา ร้อยเอ็ด จังหวัดละ 7 ราย นครปฐม กำแพงเพชร พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 6 ราย สงขลา กาฬสินธุ์ ตาก เพชรบูรณ์ จังหวัดละ 5 ราย นนทบุรี สุรินทร์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี นครนายก กาญจนบุรี จังหวัดละ 4 ราย นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ ราชบุรี จังหวัดละ 3 ราย ปัตตานี สกลนคร ชัยภูมิ ศรีสะเกษ ยโสธร น่าน พะเยา เพชรบุรี ระยอง จังหวัดละ 2 ราย นราธิวาส ระนอง สุราษฎร์ธานี ชุมพร ภูเก็ต พัทลุง ขอนแก่น หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ ลำปาง พิษณุโลก อุทัยธานี อ่างทอง ประจวบคีรีขันธ์ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย ทำให้มียอด ผู้เสียชีวิตสะสม 8,285 ราย

สุพรรณฯรอดไม่เจอเดลตา

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 18 ส.ค. ได้แก่ กทม. 4,154 ราย สมุทรสาคร 1,820 ราย สมุทรปราการ 1,335 ราย ชลบุรี 1,206 ราย นนทบุรี 756 ราย นครราชสีมา 719 ราย ฉะเชิงเทรา 632 ราย ศรีสะเกษ 471 ราย นครปฐม 468 ราย พระนครศรีอยุธยา 437 ราย เชื้อส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดไปแล้วเกือบทุกจังหวัด ยกเว้น จ.สุพรรณบุรีเท่านั้น ถือเป็นทิศทางเดียวกับการระบาดทั่วโลก

พ.ค.-ส.ค.เด็กเสียชีวิต 19 ราย

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับข้อมูลการฉีด วัคซีนวันที่ 17 ส.ค. ฉีดเพิ่มได้ 518,118 โดส ยอดฉีดสะสม 24,618,749 โดส ส่วนกราฟป่วยอาการหนักและผู้ที่เสียชีวิตตั้งแต่เดือน ก.ค.ถึงปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยอาการหนักและผู้เสียชีวิตช่วงต้นเดือน ส.ค.กราฟเริ่มชะลอตัวลง เป็นไปได้ว่ามาจากการเน้นฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ กทม. ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-16 ส.ค. ฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 1,041,828 ราย ฉีดเข็มหนึ่งแล้ว 971,523 ราย เข็มสอง 60,093 ราย ฉีดให้ผู้มีโรคประจำตัว 710,776 ราย เข็มหนึ่ง 683,972 ราย เข็มสอง 72,573 ราย ถึงวันที่ 17 ส.ค. ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมใน กทม.รวมทั้งสิ้น 70,189 ราย ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.-16 ส.ค. พบเด็กอายุ 0-20 ปี ติดเชื้อ 51,521 ราย เสียชีวิต 19 ราย ร้อยละ 80 เป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัว

แนะทำคอมพานีไอโซเลชัน

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก วิเคราะห์ข้อมูลพบว่ายังมีการติดเชื้อในสถานที่ทำงานต้องเร่งค้นหาการติดเชื้อในชุมชนเพื่อลดอัตราการตายและการป่วยหนัก มีแนวคิดทำคอมพานี ไอโซเลชัน หรือแยกกักในสถานที่ทำงานที่มี ความพร้อมหรือในบริษัทหาที่พักให้กับผู้ติดเชื้อ ที่สำคัญชุมชนโดยรอบต้องยอมรับ จะมีโรงพยาบาลพี่เลี้ยงคอยให้การสนับสนุน และขอให้บริษัทต่างๆที่มีความพร้อมเตรียมการไว้ตั้งแต่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ

...

ยกมาตรการครอบจักรวาล

พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้หารือกันวันนี้ถึงเรื่อง Universal Pervention for COVID-19 หรือการป้องกันการติดเชื้อ โควิด-19 แบบครอบจักรวาล เนื่องจากในปัจจุบันเราไม่สามารถค้นหาว่าผู้ติดเชื้อได้รับเชื้อมาจากใคร กระทรวงสาธารณสุข เสนอแนวความคิด“การป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล” เพราะโรคนี้จะอยู่กับไทยและโลกไปอีกระยะหนึ่ง นพ.อุดม คชินทร เสนอแนวคิดว่าขอให้ทุกคนคิดเสมอว่าทุกคนที่อยู่รอบตัวเราอาจเป็นผู้ติดเชื้อ หลักการปฏิบัติคือ พยายามออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น รักษาสุขอนามัย ส่วนตัว การเว้นระยะห่างจากคนอื่น 1-2 เมตร ในทุกสถานที่ สวมหน้ากากอนามัยแล้วทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ทำความสะอาดจุดสัมผัสจุดเสี่ยง ผู้มีอายุเกิน 60 ปี และโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ขอให้แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่สามารถนั่งรวมกลุ่มรับประทานอาหารในที่ทำงานไปอีกระยะหนึ่ง ขอให้ทุกสถานประกอบการ ถือเป็นข้อปฏิบัติที่จะค้นหาผู้ติดเชื้อ

รับผิดแผนซื้อซิโนแวคเพิ่ม

...

พญ.อภิสมัยยังตอบข้อซักถามกรณีที่มีการตั้งคำถามมากว่า รัฐบาลจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีก 12 ล้านโดส ทำไมว่ากระทรวงสาธารณสุขรายงานต่อ ศบค.เห็นชอบ และ ครม.อนุมัติแล้ว ศบค.ยึดจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ การศึกษา และวิจัย ทั้งในพื้นที่และในโรงเรียนแพทย์อย่างหลากหลาย ที่พบว่าการฉีดผสมร่วมกันระหว่างซิโนแวคและแอสตราเซเนกา จะทำให้ประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อ เสียชีวิต เจ็บป่วยรุนแรง ได้สูงมากขึ้น ดังนั้นศบค.จึงเห็นชอบให้จัดสรรซิโนแวคเพิ่มเติม อีกหนึ่งเหตุผล คือ เดิมจากที่วางแผนให้มีการระดมฉีดวัคซีนทั่วประเทศได้ 100 ล้านโดส แผนเดิมที่วางไว้จะมี การเติมวัคซีนเข้ามาจากสองส่วนคือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตราเซเนกา คาดว่าจะให้รวมๆกันประมาณ 10 ล้านโดส แต่ไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ได้ในไตรมาส 4 ตามที่ตกลงกันไว้ และกำลังผลิตแอสตราเซเนกาที่คาดการณ์ว่าจะได้ 10 ล้านโดส อาจจะลดลงมาอยู่ที่ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ทำให้จำเป็นต้องจัดหาวัคซีนซิโนแวค เข้ามาเสริมในส่วนที่ขาดหายไป

สั่ง สธ.ซื้อ ATK ที่ อย.–WHO รับรอง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปก.สธ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดหาชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ ATK ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีจำหน่ายในไทย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) มีความแม่นยำในการตรวจเพื่อนำไปสู่การรักษาได้ทันท่วงที การจัดหาอาหารและสิ่งจำเป็นให้ผู้ป่วยติดเชื้อและประชาชนที่ด้อยโอกาส รวมถึงดูแลสภาพจิตใจของทั้งผู้ป่วย ผู้สูญเสีย คนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว ดังนั้น ต้องจับตาว่า เมื่อมีข้อสั่งการของนายกฯแล้ว กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการอย่างไร

...

ออสซียินดีช่วยวัคซีนไทย

วันเดียวกัน ที่ห้องโดมชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกฯออสเตรเลีย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชื่นชมออสเตรเลียที่ประกาศให้ความช่วยเหลือเรื่องวัคซีนแก่นานาประเทศ ตลอดจนความร่วมมือในกรอบอาเซียน-ออสเตรเลีย และขอบคุณที่สนับสนุนเงินด้านสาธารณสุข 2.8 ล้านดอลลาร์ให้แก่ไทย และขอให้นายกฯออสเตรเลียพิจารณาให้ความร่วมมือด้านวัคซีนแก่ไทยในรูปแบบที่พร้อมและเหมาะสม ซึ่งนายกฯออสเตรเลียตอบรับยินดีสนับสนุน

เชื่อล็อกดาวน์สิ้น ส.ค.ผ่านจุดพีก

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.35 น.พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ว่า หลังจากเริ่มมาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค.แม้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 2 หมื่นคน แต่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัว และมีสัญญาณผู้ป่วยที่หายดีมากกว่าผู้ติดเชื้อรายวัน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือผู้เสียชีวิต ที่แม้จะต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยทั่วโลก ยังมีบางวันที่สูงอยู่ ทุกคนไม่อยากให้มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว กระทรวงสาธารณสุขวิเคราะห์ หากเพิ่มประสิทธิภาพล็อกดาวน์ได้มากกว่านี้จะลดยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้มากขึ้น ศบค.จึงมีมติให้ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. อาจสามารถผ่านจุดสูงสุดของยอดการติดเชื้อได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องได้ในต้นเดือน ก.ย.

วอนป้องกันครอบจักรวาล

พล.อ.ประยุทธ์ระบุอีกว่า คณะแพทย์ที่ปรึกษา ศบค.ลงความเห็นเวลานี้ ประชาชนทุกคน ต้องยกระดับการป้องกันตัวเองด้วยหลักการที่เรียกว่า Universal Prevention หรือการป้องกันโรคขั้นสูงสุด 1.ออกจากบ้านเมื่อจําเป็นเท่านั้น 2.เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตรทุกสถานที่ 3.สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา 4.ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ต้องคิดว่าทุกสิ่งอย่างมีคนอื่นที่ติดเชื้อสัมผัส หรืออาจสัมผัสมาแล้วทั้งนั้น 5.หลีกเลี่ยงใช้มือสัมผัส หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ใบหน้า ตา ปาก จมูก ไม่จําเป็น 6.กลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรังให้เลี่ยงการออกนอกบ้าน จําเป็นจริงๆให้ใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด 7.ทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ 8.แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิดกับผู้อื่น 9.เลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ๆ แยกชุดหรือใช้ช้อนกลางส่วนตัว 10.หากสงสัยว่าเสี่ยงหรือมีอาการ ควรตรวจ ATK หรือให้ไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

ได้แต่ขอให้ประชาชนอดทน

นายกฯระบุว่า ผมรับรู้ความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องปิดกิจการ หรือสูญเสียรายได้จากมาตรการต่างๆของรัฐ หรือแม้แต่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากโรคร้ายนี้ “ผมเจ็บปวดและเศร้าใจทุกครั้งที่ได้อ่านข่าวผู้เสียชีวิตจากโควิด และเป็นสิ่งเตือนใจตลอดเวลาว่า จะต้องทำให้ได้ดีกว่านี้” วิกฤติครั้งนี้หนักหนาสาหัสอย่างที่โลกไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน ระบาดระลอกนี้ทำให้แผนการที่เราวางไว้บางอย่างอาจยังไม่บรรลุเป้าหมาย หรือต้องปรับเปลี่ยนแผน แต่ขอให้พวกเราทุกคนอดทน ช่วยกันประคองให้ผ่านไปให้ได้ก่อน ขอขอบคุณที่เข้าใจ อดทนทำตามมาตรการของรัฐ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ที่เสียสละ เสี่ยงภัยอันตราย

แพทย์ชนบทย้ำข้อสั่งการนายกฯ

ขณะเดียวกัน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 4 ระบุว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 ส.ค.มีวาระรับทราบมติ ศบค.หลายๆเรื่อง หนึ่งในนั้นมีเรื่องข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องการจัดซื้อ ATK ระบุว่า “การเร่งดำเนินการจัดหาชุดตรวจเชื้อโควิด-19 แบบแอนติเจน (Antigen Test Kit : ATK) ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีจำหน่ายในไทย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมทั้งต้องมีความแม่นยำในการตรวจเพื่อนำสู่การรักษาที่ทันท่วงที และพร้อมจัดส่งให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด” ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในมติ ครม.นี้มีความชัดเจนมาก สอดคล้องกับการแก้ปัญหาการระบาดหนักของโรคโควิด สำหรับขั้นตอนการจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชุดนั้นยังอยู่ระหว่างการจัดทำสัญญา ยังมีขั้นตอนการลงนามในสัญญาอีกหลายขั้นตอน จึงยังทันที่จะระงับการลงนามในสัญญาเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว

ยอดตายสูงเพราะตกหล่น

ด้าน นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงเรื่องที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตในวันที่ 18 ส.ค. สูงถึง 312 คนว่าจากการตรวจสอบข้อมูลกับกองระบาดวิทยา พบว่าทั้ง 312 คน ไม่ได้เสียชีวิตพร้อมกันในช่วง 1-3 วันที่ผ่านมา บางส่วนเป็นการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตมาระยะหนึ่ง เนื่องจากพบว่าบางกรณีเป็นผู้ป่วยที่เสียชีวิตมาก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากมีการตรวจสอบรายละเอียดเพราะบางกรณีผู้ป่วยเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องส่งตรวจหาเชื้อโควิด รวมทั้งการมีการรายงานผู้เสียชีวิตตกหล่นประมาณ 100 คน มีข้อมูลที่ระบุวันเสียชีวิตรวบรวมย้อนหลังจาก 20 จังหวัด พบว่าเป็นผู้เสียชีวิตก่อนเดือน เม.ย. 50 คน อีก 50 คนเสียชีวิตตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. หากตัดจำนวนข้อมูลที่ตกหล่น 100 คน จะเห็นว่าผู้เสียชีวิตจริงในวันที่ 18 ส.ค.จะเป็นตัวเลข 212 คน

กว่าครึ่งที่ตายยังไม่ได้วัคซีน

นพ.เฉวตสรรกล่าวต่อว่า สำหรับประวัติการรับวัคซีนของผู้เสียชีวิตทั้ง 312 คน พบว่า ไม่เคยรับวัคซีน 147 คน ในจำนวนนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ทำหน้าที่เวรเปล รพ.แม่สอด จ.ตาก 1 คน ส่วนผู้รับวัคซีนเข็มเดียว 33 คน อยู่ระหว่างตรวจสอบ 132 คน หากตัดส่วนที่ต้องรอตรวจสอบข้อมูลออกไปจะเห็นว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยหรือฉีดยังไม่ครบ การรับวัคซีนครบโดสโดยเร็วช่วยลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตได้

ระยองป่วย 333 ราย ตาย 2

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ต่างจังหวัด ที่ จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.เผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิง 1 ราย อายุ 53 ปี ชาย 1 ราย อายุ 78 ปี อยู่ ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง ทั้งคู่มีโรค ส่วนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 333 ราย อยู่ใน อ.เมืองระยอง 131 ราย อ.ปลวกแดง 80 ราย อ.แกลง 66 ราย อ.วังจันทร์ 14 ราย อ.บ้านค่าย 10 ราย อ.นิคมพัฒนา 8 ราย อ.บ้านฉาง 7 ราย อ.เขาชะเมา 3 ราย และจากต่างจังหวัดเข้ามารักษาตัว 14 ราย

เกาะพีพีพร้อมรับท่องเที่ยว

ที่ จ.กระบี่ วันเดียวกัน บรรดาผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บนเกาะพีพี เริ่มให้พนักงานเดินทางกลับไปเกาะพีพี หลัง ศบค.มีมติให้เกาะพีพี อ่าวไร่เลย์ และเกาะไหง เปิดรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้งโดยเชื่อมโยงจากโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 7+7” หรือ Island Hopping พนักงานที่เดินทางไปเกาะพีพีได้ต้องเป็นกลุ่มที่ฉีดวัคซีนครบ มีผลตรวจเชื้อไม่เกิน 72 ชม. สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาเที่ยวที่เกาะพีพีและแหล่งท่องเที่ยวอีก 2 แห่ง ต้องเป็นกลุ่มที่เข้ามาทางโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 7+7” นายวีรภัสร์ จันทโร ตัวแทนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวบนเกาะพีพีเผยว่า โครงการนี้เป็นความหวังของผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะพีพีที่จะสร้างรายได้ให้ทุกภาคส่วน สถานประกอบการบนเกาะพีพีเตรียมความพร้อมรองรับไว้แล้วและจะปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเข้มงวด

ยะลาผ่อนปรนละหมาด

ที่ จ.ยะลา พบผู้ป่วยใหม่ อีก 180 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย วัย 61 ปี ชาว ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา ในฐานะประธาน ศบค.จ.ยะลา มีคำสั่งที่ห้ามเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน และให้งดการปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิดบาลาเซาะห์ บ้านแอร้อง ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา ส่วนที่บ้านจะรังตาดง ต.ท่าธง อ.รามัน ที่สถานการณ์คลี่คลายลง ได้มีคำสั่งยกเลิกพื้นที่เสี่ยงและผ่อนปรนการละหมาดที่มัสยิดในหมู่บ้านได้

ตำรวจแจกข้าวกล่องกลางฝน

ที่ศูนย์บริการประชาชน (ป้อมจราจร) สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ร่วมกับแม่บ้านตำรวจและเยาวชนจิตอาสาจัดทำข้าวกล่องมื้อเย็น พร้อมผลไม้ น้ำดื่มรวม 1,000 ชุด แจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก รวมทั้งมอบข้าวกล่องผ่าน อสม.ให้นำไปแจกจ่ายประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ถูกกักตัวดูอาการ 14 วัน ยังศูนย์กักตัว 6 แห่ง ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ขณะที่ พ.ต.อ.เจฟฟรีย์และนายตำรวจ กำลังแจกข้าวกล่องได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ประชาชนที่เข้าแถวยาวเยียดกว่า 200 เมตร รวมทั้งตัว พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ต่างเปียกปอนแต่ไม่ยอมยกเลิกการแจกอาหาร ขณะที่ผู้มารับข้าวกล่องแม้เปียกฝนแต่ก็ยืนรับของแบบเว้นระยะห่าง สำหรับนราธิวาสพบผู้ป่วยใหม่อีก 231 คน

ท้อง 9 เดือน-ลูกรอดแม่ตาย

ที่วัดโพธิยาราม ต.สารจิตร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ตอนสายวันที่ 18 ส.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทพนิมิตรจุดสารจิตร นำร่าง น.ส.ธิรารัตน์ วงศ์จักร หรือเจน อายุ 28 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.สารจิตร ทำพิธีเผาทันที หลังเสียชีวิตจากโควิด-19 เมื่อเช้าวันเดียวกันมีญาติไม่กี่คนร่วมพิธีและมีการวิดีโอคอลให้สามีผู้เสียชีวิตที่รักษาตัวอยู่กับลูกสาวอายุ 8 ขวบ ที่ รพ.ศรีสัชนาลัย พร้อมญาติที่อยู่ต่างจังหวัดได้ร่วมส่งวิญญาณ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า สำหรับ น.ส.ธิรารัตน์เป็นแม่ค้าออนไลน์เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 35 ของ จ.สุโขทัย กำลังตั้งครรภ์ได้ 36 สัปดาห์ รูปร่างอ้วนหนัก 152 ก.ก. เริ่มมีอาการหายใจเหนื่อยหอบนอนราบไม่ได้ ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.วันที่ 16 ส.ค.อาเจียนเป็นเลือดและไอ ซื้อชุดตรวจ ATK จากร้านขายยา มาตรวจผลเป็นบวกทั้งตัวเองและสามี ไปตรวจซ้ำที่ รพ.ศรีสัชนาลัย วันที่ 17 ส.ค.พบติดเชื้อโควิด-19 ทั้งคู่ รถพยาบาล รพ.ศรีสัชนาลัยมารับตัวไปรักษา ผู้เสียชีวิตอาการหนักจึงส่งต่อไป รพ.ศรีสังวร แพทย์เกรงทารกในครรภ์จะเป็นอันตราย ผ่าตัดทำคลอดให้ในเวลา 22.30 น. เป็นชาย น้ำหนักกว่า 3,470 กรัม แข็งแรงดี ต่อมาผู้เป็นแม่อาการทรุดหนักลง กระทั่งเวลา 06.55 น. ได้เสียชีวิตยังไม่ได้เห็นหน้าลูก ต่อมาเจ้าหน้าที่รับตัวลูกสาววัย 8 ขวบไปตรวจร่างกายผลเป็นบวกรับใว้รักษาตัว

คุณยายฉีดวัคซีนเบิ้ลยังปกติ

วันเดียวกัน นพ.นพดล พิษณุวงษ์ รอง ผอ.รพ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ไปเยี่ยมนางสมหวัง จูกูล อายุ 70 ปี ชาว อ.นางรอง ที่ฉีดวัคซีนแอส–ตราเซเนกาวันเดียว 2 เข็มรวด เนื่องจากมีการประสานงานกันผิดพลาดประกอบกับยายไม่รู้ว่าจะต้องฉีดครั้งละกี่เข็ม จากการตรวจเยี่ยมนางสมหวัง ยังปกติ ไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน ท่ามกลางการลุ้นระทึกของบุตรหลานว่าหลังจากนี้ยายจะมีอาการอื่นเข้ามาแทรกซ้อนหรือมีความผิดปกติในร่างกายหรือไม่ นพ.นพดลกล่าวว่า จากการตรวจสอบอาการหลังผ่านการฉีดวัคซีนมา 4 วัน อาการของยายเหมือนคนฉีดวัคซีนทั่วไปคือ ปวดเมื่อยเล็กน้อย ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะมีอาการแทรกซ้อน เพราะจากการตรวจสุขภาพพบว่าเป็นคนแข็งแรง แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านเข้ามาตรวจอาการทุกวันหากมีความผิดปกติจะหาแนวทางแก้ไขต่อไป ขณะที่นางสมหวังเผยว่า ตอนนี้ยังใช้ตามชีวิตปกติไม่มีปัญหาอะไร ขอบคุณญาติพี่น้องและทุกคนที่เป็นห่วง

ตั้งเอาผิดลัดคิวฉีดไฟเซอร์

ที่ จ.นครราชสีมา นพ.วิชาญ คิดเห็น รองสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ประธานคณะกรรม การสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีภรรยาผู้อำนวยการและ สามีหัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรม รพ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ทำงานคลินิกเอกชนและร้านขายยา ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ทั้งที่ไม่ใช่บุคลากรด่านหน้า เปิดเผยความคืบหน้าว่า ได้สอบปากคำผู้อำนวยการและฝ่ายบริหารผู้เกี่ยวข้องใน รพ.เฉลิมพระเกียรติแล้ว ได้ข้อเท็จจริงว่า รพ.ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 144 โดส ฉีดให้บุคลากรด่านหน้าตามเงื่อนไขถูกต้อง 141 โดส อีก 3 โดส ฉีดให้กับภรรยา ผอ.รพ. รวมทั้ง ฉีดให้สามีของหัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรมของ รพ.ที่ทำงานเป็นเภสัชกรร้านขายยาและฉีดให้พนักงานร้านขายยาเดียวกัน การฉีด 3 โดสหลังนี้ เป็นการทำผิดเงื่อนไขชัดเจน ฝ่ายผู้ถูกสอบสวนชี้แจงว่า กระทำการโดยเข้าใจว่าเป็นบุคลากรด่านหน้าเช่นกัน เพราะลักษณะงานใกล้ชิดเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อ จึงได้รับสิทธิ์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ แต่สาธารณสุขจังหวัดกำหนดเงื่อนไขไว้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ละโรงพยาบาลมีคณะกรรมการรับรู้รับทราบข้อชี้แจงจึงฟังไม่ขึ้น หลังจากนี้จะให้นิติกรทำรายงานเสนอต่อนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตั้งคณะกรรมการพิจารณาบท ลงโทษทางวินัย ส่วนจะมีบทลงโทษทางอาญาที่อาจเข้าข่ายยักยอกทรัพย์สินของทางราชการหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณา ส่วนผู้ป่วยใหม่ในพื้นที่พบ 439 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงอายุ 46 ปี ชาว อ.โนนไทย

บ้านหนุ่มรถไฟชนติดยกครัว

ส่วนการเสียชีวิตของนายณรงค์เดช สตางค์นันทอง อายุ 32 ปี หนุ่มยอดกตัญญูเดินเท้าวันละ 12 กม. หาเงินเลี้ยงแม่และยาย ที่ถูกรถไฟชนเสียชีวิต เมื่อเช้ามืดวันที่ 17 ส.ค. แพทย์สวอบหาเชื้อโควิด-19 ผลนายณรงค์เดชติดเชื้อโควิด-19 ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทราต้องเคลื่อนย้ายร่างนายณรงค์เดชไปเผาทันทีที่วัดอุดมมงคล ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค. ทำให้นางเฉลียวและนางแฉล่ม นันทอง แม่กับยายของนายณรงค์เดช ที่อยู่บ้านหลังเดียวกันเป็นผู้เสี่ยงสูงทันที ต่อมาบ่ายวันที่ 18 ส.ค. นายประเทือง อยู่เกษม นอภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 145 ม.15 ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ของนางเฉลียวแม่นายณรงค์เดช ตรวจหาเชื้อโควิดคนในครอบครัวและตรวจเชิงรุกรอบบ้านนางเฉลียวอีก 5 หลัง นำผู้พักอาศัยทั้งหมด 13 คน มาตรวจหาเชื้อผลเป็นบวก 9 ราย ส่วนนางเฉลียวผู้เป็นแม่มีผลบวก นางแฉล้มผู้เป็นยายผลเป็นลบ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้มีผลบวกเข้าสู่กระบวนการรักษา ส่วนการดูแลและความเป็นอยู่ จะประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อบต.ท่าไข่ มาช่วยดูแล

ป่วยรอเตียงตายคาบ้านอีก

เรื่องน่าเศร้าอีกราย ร.ต.อ.ไพรัตน์ นวนตะคุ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี ไปตรวจสอบเหตุผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตในบ้านที่ชุมชนหลังวัดพลับพลา ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไปเก็บศพ เจ้าหน้าที่มูลนิธิที่สวมชุด PPE นำรถเข็นเดินเท้าเข้าไปในชุมชนประมาณ 200 เมตร พบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบร่างนางสงวน จันทร์กระพ้อ อายุ 92 ปี นอนอยู่บนเตียงที่ชั้นล่างของบ้าน เจ้าหน้าที่ใช้แอลกอฮอล์ฉีดพ่นฆ่าเชื้อก่อนเก็บร่างนำใส่ถุงซิป 3 ชั้น ใส่รถเข็นออกมาบรรจุใส่โลง นำไปเผาที่เมรุวัดเขมาภิร-ตารามทันที มีนางสุพัตรา จันทร์กระพ้อ อายุ 66 ปี ลูกสาว เดินกอดรูปภาพแม่ไว้แนบอก

ผู้ว่าฯสมุทรสาครลั่นยังสู้ไหว

ที่ จ.สมุทรสาคร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ความตอนหนึ่งว่า พลิกฟื้นสมุทรสาคร เช้าประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด บ่ายไปเทศบาลสวนหลวง ทดสอบระบบการตรวจ ATK เชิงรุกทั้งตำบล มีทั้งระบบ Drive Thru ที่ไม่ใช่เฉพาะรถยนต์ แต่รวมมอเตอร์ไซค์ด้วย และ Walk In เทศบาลเตรียมการได้ดีมาก กันคนแออัดมากเกินไป ด้วยบริการจองผ่านแอปของเทศบาล กำหนดวันเวลาที่สะดวก รู้ผลได้ภายในไม่กี่นาที เริ่มเปิดบริการประชาชนทั่วไปตั้งแต่พฤหัสบดีนี้ ผมเน้นความพร้อม อ้อ...ลืมบอกไปที่เป็นข่าวว่าผมท้อ สู้ไม่ไหว มันจบแล้ว คนเข้าใจและตีความว่า สถานการณ์ในสมุทรสาคร คงแย่เกินเยียวยา ตรงกันข้ามตอนนี้เราเดินมาถูกทางแล้วครับ สู้ไม่ไหว คือร่างกายผม แต่สมุทรสาครยังสู้ไหว สถานการณ์ในโรงพยาบาลทั้ง 3 อำเภอเริ่มดีขึ้นมาก ภาพคนไข้ต้องนอนรอริมทางเดิน ตอนนี้ไม่มีแล้วภายในสิงหาคม ผู้ติดเชื้อต่อวันต้องไม่เกิน 1,000 ราย อาจมีบางส่วนที่ต้องแก้ไขปรับปรุงบ้างร่วมกัน “พลิกฟื้นสมุทรสาคร” สู้กันครับ

ขี่ จยย.หาเชื้อฟุบหน้าโรงพัก

ส่วนเคสสะเทือนใจที่เกิดในกรุงเทพฯ เมื่อสามทุ่มวันที่ 17 ส.ค. มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง อายุประมาณ 35-40 ปี ขี่รถ จยย. เข้ามาจอดที่ สน.พระโขนงขอความช่วยเหลือจากตำรวจ เนื่องจากภรรยามีอาการหายใจไม่ออกเจ้าหน้าที่ประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ สอบถามทั้ง 2 คนได้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ ขี่รถ จยย.ไปขอตรวจโควิดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านบางรัก แต่ถูกปฏิเสธไปขอตรวจอีกโรงพยาบาลหนึ่งย่านพระรามสี่ถูกปฏิเสธด้วยเช่นกัน ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่ย่านอุดมสุข ระหว่างทางอาการของภรรยาเกิดทรุดหนัก อ่อนแรง หายใจไม่ออก ตัดสินใจเข้ามาขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ได้นำชุดตรวจ ATK มาตรวจพบว่า 2 สามีภรรยาติดเชื้อโควิดทั้งคู่ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้ป่วยหญิงส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ส่วนฝ่ายชายนำส่งโรงพยาบาลบางนา

มะกันทะลุพัน-ลาวเดลตาพลัส

สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ยอดติดเชื้อสะสมพุ่งเป็น 209,467,627 คน เสียชีวิต 4,396,178 คน เป็นการติดเชื้อในวันเดียว 649,028 คน เสียชีวิตในวันเดียว 9,937 คน ขณะที่ประเทศไทย มีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 1 ล้านคน ภายในวันที่ 20 ส.ค. หลังยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 968,957 คน ทิศทางการติดเชื้ออยู่ที่วันละกว่า 20,000 คน ที่สหรัฐฯ พบติดเชื้อในวันเดียว 144,297 คน ยอดผู้เสียชีวิตในวันเดียวกลับมาทะลุ 1,000 คน เหมือนช่วงเดือน มี.ค. แล้ว ส่วนที่ สปป.ลาว กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ตรวจพบเชื้อกลายพันธุ์เดลตาพลัส ในแรงงานที่เดินทางกลับมาจากประเทศเพื่อนบ้าน 2 คน แต่ไม่ชี้แจงว่าเป็นประเทศใด ระบุด้วยว่าลาวตรวจพบติดเชื้อในวันเดียว 207 คน เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 184 คน ติดเชื้อในประเทศ 23 คน สอบถามแหล่งข่าวฝั่่ง สปป.ลาว ชี้แจงด้วยว่า เชื้อเดลตาพลัสพบในกรุงเวียงจันทน์ และอยู่ในศูนย์กักตัว