ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมกลุ่มแพทย์แผนไทย-จีน จาก ม.แม่ฟ้าหลวง ม.ธรรมศาสตร์ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มรภ.สวนสุนันทา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นต้น เพื่อระดมการแพทย์ทุกศาสตร์เข้ามาช่วยกันจัดตั้ง “ภาคีความร่วมมือด้านการแพทย์แผนไทย-จีน อว.” ภายใน 10 วันสู้โควิด-19 ซึ่งจะมีคณะแพทย์แผนไทย-จีนในสถาบันอุดมศึกษา อว.รวมถึงกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกัน โดยเรื่องแรกที่จะเร่งดำเนินการคือการวางแผนผลิตยาสมุนไพรไทย-จีน ทั้งประเภทป้องกัน รักษาและฟื้นฟู เพื่อบรรจุลงในกล่อง อว.พารอด ซึ่งจะส่งไปถึงผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวหรือผู้ป่วยที่กักตัวอยู่ที่บ้านหรือในชุมชน

รมว.อว. กล่าวต่อว่า การตั้ง “ภาคีความร่วมมือด้านการแพทย์แผนไทย-จีน อว.” จะเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในการยกระดับการแพทย์แผนไทย-จีน และจะทำให้คนไทยได้ทราบถึงประสิทธิภาพในการรักษาของแพทย์ตะวันออกที่ไม่แพ้แพทย์ตะวันตก

ด้านนายฤทธิชัย พิมปา อาจารย์ประจำสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ สำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้รายงานถึงแนวทางการใช้สมุนไพรและตำรับยาในการป้องกัน รักษา และฟื้นฟูร่างกายในช่วงโควิดว่า การป้องกันโรคโควิด-19 ควรปรับสมดุลธาตุไฟให้บริบูรณ์โดยการเลือกรับประทานพืชผัก สมุนไพร หรือยาสมุนไพรที่มีรสร้อน รสเปรี้ยว เช่น กระเทียม กระชาย พริกไทย โหระพา เป็นต้น ส่วนยาตำรับที่สามารถปรับสมดุลธาตุ เช่น ยาตรีผลา ยาตรีพิกัด เป็นต้น

ส่วนการรักษาโรค เมื่อมีไวรัสหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย นอกจากรับการรักษาที่ถูกต้องตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ให้เลือกรับประทานพืชผักสมุนไพรที่มีรสขม เย็น จืด เพื่อปรับอิทธิพลของธาตุไฟ เช่น มะระ มะระขี้นก ตำลึง ใบบัวบก เป็นต้น ส่วนตำรับยา ได้แก่ ยาฟ้าทะลายโจร ยาเบญจโลกวิเชียร (ยาห้าราก) ยาจันทน์ลีลา ยาประสะจันทน์แดง เป็นต้น ขณะที่การฟื้นฟูสุขภาพให้เลือกรับประทานพืชผักสมุนไพรที่ปรับธาตุลมได้ เช่น ขิง ข่า เกสรดอกไม้ เป็นต้น ส่วนตำรับยาที่สามารถใช้ได้ในระยะนี้ได้แก่ ยาหอมนวโกฐ ยาหอมเทพจิตร ยาหอมแก้ลมวิงเวียน ยาขิง ตรีเกสรมาศ ยามันทธาตุ และยาธาตุบรรจบ เป็นต้น.

...