หลังจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปลดล็อก เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก และ ใบ (ยกเว้นช่อดอก) ของกัญชา-กัญชง ให้พ้นจากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และอนุญาตให้นำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่มได้

ปัจจุบันมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และเครื่องดื่ม ให้เห็นกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่...หลายคนคงอยากทราบรายละเอียด เขามีหลักเกณฑ์ ขั้นตอน วิธีการอย่างไรในการขอ รวมถึงรายละเอียดในการนำมาปรุงอาหาร

ร้านอาหารแนววินเทจ ปานามา คาเฟ่ อิน ร้านอาหารผสมกัญชาร้านแรกของกรุงเทพฯ มีคำตอบ

“หลังจากเดินทางกลับจากเนเธอร์แลนด์ ในช่วงกักตัวโควิดรอบแรก อยู่ที่นั่นเห็นบ้านเมืองเขาเปิดเสรีกัญชา โดยเฉพาะการนำมาผสมอาหาร เลยลองนำใบกัญชามาจิ้มน้ำพริก กินแกล้มส้มตำ ปรากฏว่าอร่อยมาก จึงเริ่มสนใจศึกษาข้อมูลเรื่องกัญชาเรื่อยมา ต่อมามีแนวคิดเปิดบ้านที่สะสมของโบราณจำนวนมากเป็นร้านอาหาร พอมีข่าวว่าจะปลดล็อกให้สามารถนำมาผสมในอาหารได้ ช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงศึกษารายละเอียด และเดินเรื่องขอใบอนุญาตเป็นคนแรกๆ จนกลายเป็นร้านอาหารร้านแรกของกรุงเทพฯ ที่มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มผสมกัญชา”

...

จรินทร์ธร ชนะธีรโรจน์ หรือ แหม่ม ปานามา นักร้องดังยุค 90 เจ้าของ ปานามา คาเฟ่ อิน ซอยลาดพร้าว 93 บอกถึงที่มาของการเปิดเมนูเด็ดอาหาร เครื่องดื่มผสมกัญชา

ส่วนวิธีการที่จะนำใบกัญชามาผสมในอาหารและเครื่องดื่มได้แบบถูกกฎหมาย...อันดับแรกต้องแจ้งความจำนงขอซื้อใบไปยังวิสาหกิจชุมชน ที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชาจากภาครัฐก่อน โดยยื่นบัตรประชาชน และใบจดทะเบียนร้านอาหารกับวิสาหกิจชุมชนที่เราจะซื้อกัญชามาผสมอาหาร

สำหรับที่ร้านปานามา คาเฟ่ อิน จะใช้กัญชาที่ปลูกโดยวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์เพชรลานนา จ.ลำปาง

จากนั้นวิสาหกิจชุมชนจะแจ้งกับ อย. หรือสาธารณสุขจังหวัด ว่าร้านนี้ต้องการใช้ใบมาประกอบอาหารและเครื่องดื่มจำนวนเท่าไร ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาเบ็ดเสร็จประมาณ 1 สัปดาห์ จึงทราบผล

และเมื่อวิสาหกิจชุมชนส่งช่อดอกให้กับสถานพยาบาลที่มีข้อตกลงกันไว้แล้ว จะส่งเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก หรือใบ ตามที่เราสั่งซื้อมาให้ร้านอาหาร แต่ที่ร้านแห่งนี้รับซื้อเฉพาะใบสด กับใบแห้ง

เมื่อได้รับใบหรือส่วนที่สั่งซื้อแล้ว สามารถนำมาประกอบอาหารได้ตามระเบียบที่ อย.กำหนด

เรื่องของราคาและปริมาณ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างวิสาหกิจชุมชนกับร้านอาหาร แต่ราคากลางใบสดจะอยู่ระหว่าง กก.ละ 5,000–20,000 บาท ใบแห้ง กก.ละ 25,000-50,000 บาท

สำหรับที่นี่ซื้อใบสด กก.ละ 5,000 บาท ใบแห้ง กก.ละ 25,000 บาท

“ระเบียบส่วนใหญ่ของ อย. เมื่อนำมาปรุงอาหาร ต้องระวังอย่าใส่กัญชามากเกินไป เพราะในกัญชามีสารเทอร์พีน ที่มีผลต่อความไวในการตอบสนองของมนุษย์ ร้านของเราจึงใส่กัญชาเมนูละ 1-2 ใบเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นใบแห้งบดผสมไปในอาหาร 1 ใบ และมีใบสดวางโชว์ในจานเพื่อความสวยงามอีก 1 ใบ

ส่วนเครื่องดื่มจะนำใบสดไปต้มก่อน เพราะสาร THC และ CBD จะหลั่งออกมาได้จากการผ่านความร้อน แต่ไม่ควรนำใบสดมาผัดหรือทอดในน้ำมันร่วมกับอาหารโดยตรง เพราะน้ำมันอาจทำให้สารต่างๆ กลายเป็นโทษมากกว่าคุณ”

ที่สำคัญ แม้ผู้ที่บริโภคอาหารและเครื่องดื่มผสมกัญชา จะได้รับความรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี นอนหลับสบาย แต่ควรมีการแจ้งเตือนให้หลีกเลี่ยงสำหรับคนบางกลุ่ม อาทิ ผู้มีโรค ประจำตัว เด็กเล็ก ผู้เป็นโรคหัวใจ สตรีมีครรภ์ ผู้เป็นโรคตับไตระยะรุนแรง ผู้มีภาวะซึมเศร้า หรือมีอาการทางจิต เพราะอาจเกิดผลกระทบตามมาได้... สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 09-3064-2727.

...

กรวัฒน์ วีนิล