เมื่อเช้าวันที่ 7 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ผ่านรายการ “PM POSCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง” ทางเพจไทยคู่ฟ้าว่า รัฐบาลพยายามริเริ่มจัดหาตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.63 ตั้งแต่ยังไม่ทราบผลการทดลองในมนุษย์ สถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมควบคุมโรค จึงปรึกษาหน่วยงานด้านกฎหมายในประเทศ ได้รับหนังสือตอบจากกรมบัญชีกลางว่าไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อตาม พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างได้ มีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตามมาตรา 18 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ เพื่อให้สามารถจองวัคซีนล่วงหน้าได้ตามกฎหมาย และยอมรับว่าแผนการฉีดวัคซีนเพียงร้อยละ 21.5 ของจำนวนประชากร ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่สังคมได้ จึงจัดหาเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่หยุดยั้งในการหายี่ห้ออื่น โดยวันนี้จัดหาได้ 63 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรประมาณ 31.5 ล้านคน และจะจัดหาเพิ่มเติมให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มเป้าหมายตามความสมัครใจ และระบุถึงการจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกาและซิโนแวคนั้นต้องพิจารณาจองซื้อในสิ่งที่ประเทศไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย พิจารณาการ บริหารจัดการทั้งหมด โดยมอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติประเมินศักยภาพผู้ผลิตวัคซีนในประเทศทุกแห่ง
แอสตราฯเลือกสยามไบโอไซฯ
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีไม่ให้องค์การเภสัชกรรม ที่มีโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นผู้ผลิตวัคซีนแทนบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่ต้องรอโรงงานให้พร้อมก่อนผลิตใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 เดือนนั้น ว่าเป็นสิ่งที่เข้าใจผิด เพราะองค์การเภสัชกรรมไม่สามารถผลิตวัคซีนชนิด Viral vector ได้เนื่องจากวัคซีนไม่เหมือนกัน และสยามไบโอไซเอนซ์ ไม่ได้รอทำโรงงานให้พร้อม แต่ที่รอคือการผลิตจริงตามมาตรฐานแอสตราเซเนกา ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ ธ.ค.63 เพื่อให้มีการขึ้นทะเบียนโดย อย.ไทย และเตรียมความพร้อมของบริษัทที่วันนี้เขาพร้อม เมื่อได้วัคซีนมาจะดำเนินการได้ทันที เราจะเป็นสายการผลิตหนึ่ง ยังมีบริษัทอื่นที่ร่วมมือกับแอสตราเซเนกาอีก พร้อมกันนี้ นายกฯยังอธิบายถึงสาเหตุที่ให้สยามไบโอไซเอนซ์ที่มีผลประกอบการขาดทุน 500 กว่าล้านบาท ผูกขาดผลิตวัคซีนในประเทศไทยด้วยว่า การที่เราจะเอาวัคซีนมาผลิตเองในประเทศ ขึ้นอยู่แอสตราเซเนกาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เป็นผู้คัดเลือกเอกชนที่จะร่วมดำเนินการ โดยพิจารณาความสามารถ บุคลากร และเครื่องมือที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีของแอสตราเซเนกา ไม่เกี่ยวกับผลประกอบการเดิม และย้ำว่าสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นวิสัยทัศน์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงตั้งไว้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีวัคซีนที่จำเป็น ไม่ได้หวังผลกำไร รัฐบาลได้ให้หลายบริษัทเข้ามาเสนอแล้ว แต่แอสตราเซเนกาเลือกที่นี่ ส่วนราคาวัคซีนเป็นเรื่องที่แอสตราเซเนกาเป็นผู้กำหนดราคาและสิทธิบัตรเป็นของแอสตราเซเนกาทั้งหมด เนื่องจากเราซื้อมาจากเขา ส่วนเทคโนโลยีนั้นเราจะนำมาเป็นความรู้ เพื่อพัฒนาวัคซีนของเราเองในประเทศ
...
ไม่กีดกันขึ้นทะเบียนวัคซีน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันด้วยว่ารัฐบาลไม่ได้กีดกันบริษัทเอกชนนำเข้าวัคซีน อย.ยินดีให้ทุกบริษัทมาขอขึ้นทะเบียน ปัจจุบันมีผู้มาขอขึ้นทะเบียนแล้ว 3 ราย ได้รับทะเบียนแล้ว 1 รายคือบริษัท แอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนความจำเป็นในการฉีดวัคซีนทุกคนนั้น การมีภูมิต้านทานไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันโรคได้ แต่ตอนนี้เรารอไม่ได้ เพราะมีการแพร่ระบาด มีคนตายทั่วโลกเป็นล้านคน ฉะนั้น เรามีช่องทางที่เรียกว่าการอนุมัติแบบฉุกเฉิน ให้มีการฉีดไปก่อน หากมีปัญหาเราก็แก้ไขไป ผลตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าป้องกันการติดเชื้อได้หรือไม่ เพราะต้องรอให้ครบ 1 ปี แต่มีผลเบื้องต้นว่าอย่างน้อยผลข้างเคียงไม่เยอะ เป็นที่ยอมรับได้ ข้อมูลปัจจุบันของวัคซีนโควิด-19 ถ้านับเป็นล้านคนจะตายประมาณ 11 คน คือสถิติที่ถือได้ว่ายอมรับในทางการแพทย์ ถ้าฉีดวัคซีนโอกาสติดเชื้อก็มี แต่โอกาสที่จะป่วยน้อยลง หรืออาจจะเป็น แต่ไม่รุนแรง และอัตราการตายน้อยลงกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่ที่ยังบอกไม่ได้คือฉีดไปแล้วจะป้องกันการแพร่เชื้อได้หรือไม่ แต่อาจจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นทำให้การแพร่ระบาดลดลง
ปฏิบัติตามกฎอย่ารอแต่วัคซีน
ส่วนกลุ่มที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนก่อนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า มีบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มที่มีโรคร่วม เช่น เบาหวาน ความดัน กลุ่มผู้สูงวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว คนเหล่านี้ถ้าติดเชื้ออาการจะรุนแรง รวมถึงจะพิจารณาความเสี่ยงส่วนตัวและความเสี่ยงในพื้นที่ เช่น ที่จังหวัดสมุทรสาคร ก็น่าจะครอบคลุมพิจารณาถึงกลุ่มแรงงานและประชาชนในพื้นที่ จังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมยืนยันการมีวัคซีนป้องกันแต่ไม่แน่ว่าจะป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่วัคซีนเป็นความหวัง เชื่อว่าการผลิตวัคซีน การพัฒนา กว่าจะนำมาฉีดให้กับคนทั่วโลกอย่างน้อยต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปี ไม่ใช่ว่าต้องรอวัคซีนเพียงอย่างเดียว มาตรการสำคัญสูงสุดที่ย้ำเสมอคือ การขอความร่วมมือทั้งจากประชาชน เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบธุรกิจ สถานประกอบการต้องช่วยกันรับผิดชอบ ที่ทำได้เลยคือการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ การเว้นระยะห่างทางสังคม ขอความร่วมมือว่าอย่าเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ขอให้ลงทะเบียนไทยชนะ หมอชนะ เพื่อจะได้ตามตัวได้ว่ามีการแพร่กระจายไปในพื้นที่ใดบ้าง ถือเป็นความรับผิดชอบทางสังคมของทุกคน นี่คือวัคซีนอีกประเภทหนึ่ง เป็นวัคซีนที่ทุกคนทำได้เอง ขอให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดออกมา