เชียงรายเจอติดเชื้อโควิด-19 อีก 6 คน มาจากท่าขี้เหล็ก แต่อยู่ในสถานกักตัวเรียบร้อย พบเตรียมเข้ามาอีกเพียบ รวมถึงที่ไปทำมาหากินในลาว หลังแขวงบ่อแก้วห้ามแล่นเรือผ่านพื้นที่เสี่ยง ด้านกรมควบคุมโรคย้ำให้ความมั่นใจ “เชียงใหม่-เชียงราย” เที่ยวได้ เหตุพื้นที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดี หนำซ้ำการติดเชื้อในประเทศมีน้อย ส่วนกองทัพเล็งใช้โดรนบินตรวจจับพวกลักลอบข้ามแดน ขณะเดียวกัน สมช.เสนอ รบ.ให้ต่างชาติอยู่ไทยได้ 45 วัน หวังกระตุ้นท่องเที่ยว

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในไทยน่าจะดีขึ้น แม้ยังพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ เป็นตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นคนติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ รวมถึงที่เดินทางมาจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แต่ไม่พบคนติดเชื้อในประเทศเพิ่ม

สาวจากท่าขี้เหล็กติดเชื้อเพิ่ม 6 คน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นพ.ทศเทพ บุญทอง สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์ รพ.เชียงราย ร่วมแถลงสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดเชียงราย ประจำวันที่ 7 ธ.ค. ว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 6 คน เป็นเพศหญิงทั้งหมด อายุระหว่าง 24-37 ปี ทำงาน ที่สถานบันเทิง 1G1 จำนวน 4 คน เข้าไทยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.และอีกสองรายทำงานที่ ฮอลลีวูดไนต์คลับและคาราโอเกะ เมืองท่าขี้เหล็ก เข้าไทยเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ทั้งหมดผ่านเข้ามาช่องทางปกติ มีการประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา (Thai-Myanmar Township Border Committee/TBC) ผ่านด่านควบคุมโรค ทั้งหมดไม่มีอาการ ทำให้ขณะนี้เชียงรายมีผู้ป่วยสะสม 26 ราย

...

มทภ.3 เสริมกำลังชายแดน

นายประจญกล่าวอีกว่าขณะนี้มีคนไทยจากฝั่งเมียนมาเข้ามาในไทยแล้ว 158 คน และในวันที่ 8 ธ.ค.มีคนไทยแจ้งผ่าน TBC จะเข้าประเทศที่ด่านแม่สายอีก 42 คน ขอยืนยันว่าจังหวัดมีสถานที่เพียงพอในการกักตัวและรักษา หากป่วยติดเชื้อโควิด-19 อย่างแน่นอน ขอให้มั่นใจ อย่าได้ลักลอบเข้ามา เพราะทางการเข้มงวดตามแนวชายแดน โดยแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ส่งกำลังเสริมอีก 26 ชุด จากที่มีอยู่เดิม 20 ชุด รวมเป็น 46 ชุด รวม 460 นาย และยังมี นปพ. กองบังคับการตำรวจภูธรเชียงราย อีก 1 กองร้อย ตรึงชายแดนไม่ให้มีผู้ลักลอบเข้ามา ส่วนวันที่ 10 ธ.ค.นี้ จะมีการทำ Big Cleaning day ทำความสะอาดทั้งจังหวัด เพื่อทำลายเชื้อโรค

นักธุรกิจสุดทนเสียหายยับ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเชียงรายพบผู้ป่วยโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากยกเลิกการจองห้องพัก สร้างความเสียหายให้กับภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่กำลังเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว โดยมีการแจ้งกับสมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงรายว่าขณะนี้มีการยกเลิกการจองห้องทำให้เกิดความเสียหายจำนวน 62 โรงแรม ขณะเดียวกัน นายบดินทร์ภัทร์ นินเนินนนท์ อายุ 40 ปี เจ้าของสิริชัยแมนชั่น ม.3 ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย หนึ่งในนักธุรกิจที่เสียหาย จากการพบผู้ติดเชื้อในครั้งนี้ ได้อัดคลิปโพสต์บนโซเชียลระบายความอัดอั้นตันใจในความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้เป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมีหลายกลุ่มที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวในห้วงไฮซีซัน และผู้ประกอบการพอจะเริ่มมีรายได้กลับมาเลี้ยงธุรกิจและพนักงาน พอเกิดเหตุการณ์โควิดเข้ามาในประเทศอีก จึงทำให้เกิดความโกรธและอึดอัดใจ รวมถึงระบุว่าในนามส่วนตัวจะยื่นฟ้องผู้ป่วยโควิด-19 ที่ลักลอบเข้ามาจนทำให้ธุรกิจที่พักตนที่มีจำนวน 120 ห้อง ถูกยกเลิกกรุ๊ปทัวร์ที่จะเข้าพักรวมกว่า 50 คืน เสียหายทันที 5 หมื่นกว่าบาท

คาดคนไทยทะลักจากลาวเพียบ

อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมด่านศุลกากร อ.แม่สาย จ.เชียงราย พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 ได้รายงานในที่ประชุมการติดตามสถานการณ์โควิด-19 ต่อ พล.ท.บุญยืน อินกว่าง รองแม่ทัพน้อยที่ 3 กองทัพภาคที่ 3 และ พล.ต.สุริยะ เอี่ยมสุโร รองแม่ทัพภาค 3 ว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษดอกงิ้วคำ (คิงส์โรมัน) สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน มีข่าวพบผู้ติดเชื้อชาวจีน หนีจากเมียนมา ผ่านลาวไปถูกจับที่จีนตอนใต้ 2 คน และมีคนไทยราว 500 คน ทำงานที่คิงส์โรมัน ขณะนี้ แขวงบ่อแก้ว ไม่ให้มีการแล่นเรือบริเวณเมืองต้นผึ้ง และเขตเศรษฐกิจ จึงคาดว่าอาจจะมีคนไทยหลบหนีเข้าไทยได้ ขณะนี้ทหาร กกล.ผาเมือง ได้เพิ่มกำลังทหาร 23 ชุด ตั้งจุดตรวจสกัดตามแนวชายแดน 9 จุด 24 ชม. ดูแลเส้นทางหลักและทางรองกับทุกหน่วย 47 จุด ทำรั้วลวดหนาม ตามช่องทางล่อแหลม รวม 5 กม.

เฒ่า 70 ปีแม่สอดอาการดีขึ้น

ส่วนที่ จ.ตาก นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ว่าพบผู้ป่วย 4 คน ทั้งหมดลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย คนแรกเป็นชาวเมียนมาอาศัยในศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยสงครามอุ้มเปี้ยม ขณะนี้รักษาตัวหายเป็นปกติและกลับภูมิลำเนาแล้ว คนที่ 2 เป็นเยาวชนหญิง อายุ 17 ปี ที่ข้ามฝั่งมาจาก จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา เนื่องจากมีอาการป่วย ขณะนี้รักษาตามระยะเวลาครบแล้ว แต่ยังคงตรวจพบ “ซากเชื้อ” แพทย์ยังคงให้พักรักษาตัวต่อจนกว่าจะตรวจไม่พบซากเชื้อ ส่วนผู้ป่วยคนที่ 3 อายุ 70 ปี แม้จะมีอาการป่วยมากกว่ารายอื่น แต่อาการดีขึ้น และไม่ได้เสียชีวิตตามที่มีข่าวลือ และคนที่ 4 เป็นชาย อายุ 43 ปี ตอนนี้อาการปกติ ส่วนการควบคุมการแพร่ระบาด เบื้องต้นบุคคลใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมด เข้าอยู่ในสถานกักโรค และตรวจเชื้อแล้ว หากครบกำหนดแล้วไม่พบเชื้อ จะประกาศว่าควบคุมสถานการณ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการป้องกันคนลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ได้สั่งไปยังหน่วยงานตามชายแดนทั้ง 5 อำเภอบูรณาการร่วมกันตรวจตราการข้ามแดนของชาวจีน ชาวไทยและชาวเมียนมา ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าจังหวัดตากสามารถมาท่องเที่ยวได้ เพราะเหตุเกิดเพียงบางจุดเท่านั้น

...

เชียงใหม่ไม่พบติดเชื้อเพิ่ม

ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำรถโมบายพระราชทานไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ตลาดธานินทร์ ต.ช้างเผือก อ.เมือง เป็นวันที่ 2 โดยมีประชาชนมารอยืนเข้าคิวเพื่อรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่เช้าแล้วไปตรวจต่อที่สถานบันเทิงที่ย่านสันติธรรม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุดได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของพนักงานร้านคิงเวย์ ทั้งหมด 40 คน ซึ่งเป็นบาร์โฮส ที่ผู้ป่วย โควิดหญิงรายที่ 42 อายุ 29 ปี เดินทางไปเที่ยว เพื่อหาเชื้อเพิ่มอีกรอบ เป็นการยืนยันผลของพนักงานทั้งหมด ทั้งนี้เชียงใหม่ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 5 คน เป็นหญิง 4 และชาย 1 ทั้งหมดติดเชื้อมาจากนอกประเทศและเป็นกลุ่มที่ทำงานในสถานบันเทิง 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

อุทัยธานีลุ้นพบพม่าไข้สูง

วันเดียวกัน นายอลงกต วรกี รอง ผวจ.อุทัยธานี เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุทัยธานี มีนายณรงค์ รักร้อย ผวจ.อุทัยธานี เป็นประธาน สืบเนื่องจากการตรวจคัดกรองแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบหญิงชาวพม่าในโรงงานแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไร่ มีไข้สูงเกิน 37.5 อยู่ในข่ายต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ผลตรวจเป็นลบ จึงให้หญิงคนดังกล่าวกักตัวดูอาการอยู่ในบ้านพักคนงาน และที่ประชุมมีมติให้ปิดห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และร้านอาหารในพื้นที่ในเวลา 22.00 น.โดย ผวจ.อุทัยธานี จะลงนามคำสั่งในวันที่ 8 ธ.ค. พร้อมกันนี้จะมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนา งานเลี้ยงตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

...

เล็งขยายเวลาต่างชาติอยู่ไทย

ด้านนายจาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้เพิ่ม โดยทางกระทรวงได้นำเสนอที่ประชุม เพื่อให้นายกฯเห็นชอบเพิ่มเติมกรณีของผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยว เดิมอนุญาตให้เข้ามา 30 วัน จาก 56 ประเทศ ที่ประชุมได้เสนอให้อยู่ในประเทศไทยได้ 45 วัน รวมเวลาในการกักตัว 14 วันด้วย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจุบันใน กทม.มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15,000 ห้อง จึงเพียงพอที่จะรับนักท่องเที่ยวเข้ามาวันละ 1,000 คน หวังว่าจากมาตรการนี้จะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้เดือนละมากกว่า 20,000 คน

จ่อใช้โดรนบินตรวจชายแดน

ด้าน พล.ต.จักรพงษ์กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) กวดขันตรวจตราพื้นที่ชายแดนอย่างเข้มข้น โดยแบ่งพื้นที่ 3 ส่วน ส่วนแรก คือพื้นที่ชายแดน เน้นตรวจตราพื้นที่ทางธรรมชาติ แต่เนื่องจากเขตชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านยาว 2,400 กิโลเมตร จึงต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วย เช่น ใช้โดรนของกองทัพอากาศ ตรวจตรา ติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่ม วางเครื่องกีดขวาง รวมทั้งร่วมมือด้านการข่าวเพื่อสกัดการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ส่วนสอง พื้นที่ชายแดนถึงพื้นที่ตอนใน เป็นการสนธิกำลังระหว่างตำรวจ ทหาร อส. สกัดตามพื้นที่ที่คาดว่าจะลักลอบเข้าเมือง ตรวจค้นพาหนะที่ได้รับแจ้ง เป็นต้น ส่วนที่สาม คือพื้นที่ตอนใน ซึ่งตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ จัดชุดปฏิบัติการตรวจค้นสอบสวนสถานประกอบการ โรงงาน ที่มีคนต่างด้าวทำงาน หรือสถานที่ที่ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยแจ้งเบาะแสมาได้ที่สายด่วน 1138, 1559, 191

...

พบ 11 ต่างชาติเข้าไทยติดเชื้อ

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น กรมควบคุมโรค แจ้งว่าพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 21 ราย เป็นชาวต่างชาติเดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา 2 คน, ส่วนอินเดีย, เยอรมนี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอสโตเนีย ประเทศละ 1 คน ชาวไทยเดินทางมาจากสิงคโปร์ 2 คน, สหราชอาณาจักร 4 คน และเมียนมา 9 คน ซึ่งเป็นกลุ่มสาวมาจากท่าขี้เหล็กที่จังหวัดเชียงราย ระบุไว้เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,107 คน กลับบ้านเพิ่ม 15 คน รวมยอดสะสม 3,868 คน ยังรักษาใน รพ. 179 คน ผู้เสียชีวิตคงที่ 60 คน

อังกฤษเริ่มใช้วัคซีน 8 ธ.ค.นี้

สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศ ยอดติดเชื้อรวมทั่วโลกเพิ่มเป็น 67.4 ล้านคนเสียชีวิตรวมกว่า 1.54 ล้านคน โดยที่สหรัฐอเมริกา ยอดติดเชื้อรวม 15.1 ล้านคน เสียชีวิตรวม 288,906 คน ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯเปิดเผยว่า นายรูดี กิวลิอานี ทนายส่วนตัวของผู้นำทรัมป์ ที่เดินสายฟ้องร้องหวังพลิกผลการเลือกตั้ง ได้ติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจอร์จทาวน์ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งทางการอยู่ระหว่างตามรอยว่านายกิวลิอานีได้พบปะกับใครและมากน้อยแค่ไหน ขณะที่อังกฤษยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 1.72 ล้านคน เสียชีวิตรวม 61,245 คน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทเวชภัณฑ์ไฟเซอร์ ประเทศสหรัฐฯ ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทไบออนเทค ประเทศเยอรมนี แก่บุคลากรการแพทย์ในโรงพยาบาล 50 แห่งทั่วประเทศเป็นลำดับแรกในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ส่วนคนที่อายุเกิน 80 ปี จะได้รับวัคซีนเป็นลำดับต่อไป ซึ่งอาจรวมถึงสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งราชวงศ์อังกฤษ

ญี่ปุ่นผงะพบกลับมาระบาดใหม่

ขณะที่นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ชาติจุดศูนย์กลาง แพร่ระดับอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า วัคซีนต้านไวรัสของบริษัทซิโนแวค ประเทศจีน ลอตแรก 1.2 ล้านโดส ได้ส่งมาถึงกรุงจาการ์ตาแล้ว และอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาแห่งชาติอินโดนีเซีย (BPOM) เพื่อเริ่มกระบวนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ และในเดือน ม.ค.นี้ อินโดนีเซียจะได้รับวัคซีนซิโนแวคของจีนเพิ่มอีก 1.8 ล้านโดส วันเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมความพร้อมในการส่งพยาบาลของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นไปยังจังหวัดฮอกไกโด หลังตรวจพบการแพร่ระบาดใหม่ 2 กลุ่มก้อนในโรงพยาบาล 2 แห่ง รวมถึงเตรียมส่งพยาบาลทหารไปยังนครโอซากา หลังพบผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 300 คน เป็นเวลา 6 วันติดต่อกัน โดยยอดติดเชื้อรวมของญี่ปุ่นอยู่ที่ 160,098 คน เสียชีวิตรวม 2,315 คน