หลังช่วยคลี่คลายสถานการณ์ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลายอำเภอในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 เริ่มเดินหน้าแนวคิดที่จะสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ บช.ภ.3 และแก้ไขสภาพปัญหาการจราจรติดขัดในเขตเมืองนครราชสีมา

ด้วยเหตุที่เมืองนครราชสีมาขยายตัว เมืองแบ่งอำนาจสอบสวนเป็น 4 โรงพัก ทำให้ขาดเอกภาพในการสั่งงานจราจร ซึ่งต้องแก้ไขแบบ single command และต้องมีศูนย์ ccoc มาแก้ไขแบบเมืองเชียงใหม่

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ นำร่องที่โครงการ “1 อำเภอ 1 Safety Zone” ยึดตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่เน้นการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน มาช่วยงานตำรวจ สร้างสังคมชุมชนให้ปลอดภัย

ติดตั้งกล้อง cctv ในพื้นที่เสี่ยง

ครอบคลุมในย่านชุมชน ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าทอง แหล่งธุรกิจ แหล่งท่องเที่ยว ทางร่วมทางแยก

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ให้แต่ละจังหวัดไปจัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด คัดเลือก สภ.ในพื้นที่ที่มีจุดเสี่ยง มีศักยภาพในการทำงานร่วมกับชุมชน ท้องถิ่นขึ้นมา เพื่อทำโครงการ “เซฟตี้โซน”

สภ.ที่ถูกคัดเลือก ต้องไปกำหนดพื้นที่จุดเสี่ยง ทำข้อมูลพื้นฐานของชุมชน ประวัติกลุ่มบุคคลเสี่ยง คนที่เคยกระทำความผิด รวมทั้งข้อมูลอื่นๆของชุมชนโดยละเอียด มาประกอบการจัดเป็นฐานข้อมูลของพื้นที่

จุดสำคัญของโครงการนี้ คือ กล้องวงจรปิด หรือ cctv ต้องไปสำรวจว่ามีกี่จุด ยังใช้การได้หรือไม่ ต้องขอรับสนับสนุนเพิ่มกี่จุด

จากนั้นทำโครงการเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อร่วมกันพิจารณาแก้ไข และส่งต่อไปยังภาคประชาชน เปิดโอกาสให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในกำหนดโครงการ

...

เดินหน้าทำงานไปด้วยกัน

มีการปรับปรุงสถานที่ เพิ่มแสงสว่าง ปรับภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมพื้นที่สุ่มเสี่ยงให้ดูปลอดภัย

มีประชาคมหมู่บ้านร่วมกันทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจสายตรวจ และตำรวจบ้าน

จัดเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้กล้องวงจรปิดคอยตรวจสอบสภาพการใช้งานของกล้องวงจรปิด และเชื่อมระบบ cctv ลงในแผนที่ที่ดูได้โดยง่าย

หลักการเบื้องต้นที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ให้แนวทางกับตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อไปทำโครงการ เพื่อให้ชุมชนปลอดภัย ควบคุมป้องกันไม่ให้อาชญากรรมเกิด หรือถ้ามีเหตุเกิดขึ้นต้องจับได้เร็ว ประชาชนได้ประโยชน์

ผบช.ภ.3 ผลักดันโครงการแรก “1 อำเภอ 1 Safety Zone” เป็นของขวัญคนอีสานใต้ในช่วงปีใหม่

ทำให้คนพื้นที่ปลอดภัยจากอาชญากรรม.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th