ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ราย ใหม่อีก 3 คน มาจากบราซิล 1 เยเมน 2 คน ป่วยแบบไม่มีอาการ และตั้งแต่รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการให้คนไทยและต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ มาจาก 63 ประเทศ เกือบ 9.5 หมื่นคน พบผู้ติดเชื้อ แค่ 562 คน โดยมี 5 ประเทศเข้าไทยสูงสุด ด้าน สธ.ยอมรับไทยยังเสี่ยงต่อการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ ส่วนทั่วโลกยอดติดเชื้อลิ่วไปกว่า 30 ล้านคน ตายกว่า 9.5 แสนคน รักษาหายกว่า 22 ล้านคน ส่วนความคืบหน้าวัคซีน บริษัทดังในสหรัฐอเมริกา คาดผลิตได้ 20 ล้านโดสในสิ้นปีนี้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ในไทย เมื่อวันที่ 19 ก.ย.นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักตัว มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 10 ราย จึงมีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,338 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.37 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 103 ราย หรือร้อยละ 2.94 ของผู้ป่วยทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,500 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย รายแรกเป็นชายไทย อายุ 48 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางมาจากบราซิลถึงไทยวันที่ 7 ก.ย. เข้ากักตัวในสถานกักตัวที่รัฐกำหนด ใน กทม.พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 10 ก.ย.ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนใน กทม. โดยผู้ป่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักตัว ส่วนค่ารักษาพยาบาลเก็บจากประกันโควิด-19 ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 2 ราย เป็นนักศึกษาชายไทยอายุ 22 และ 27 ปี เดินทางจากประเทศเยเมนถึงไทยเมื่อวันที่ 11 ก.ย.เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ใน กทม. ตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 14 ก.ย. ผลไม่ชัดเจน เก็บใหม่วันที่ 16 ก.ย.ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่สถาบันประสาท กทม.ก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 4 ราย ซึ่งทุกรายได้เข้าสู่ระบบกักกันและส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาล สำหรับผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นคนไทยที่ติดเชื้อจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. และถูกส่งกลับมารักษาที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 ก.ย. เสียชีวิตวันที่ 18 ก.ย.รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย
...
ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยขณะนี้ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ภายหลังที่รัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการอนุญาตให้คนไทยจากต่างประเทศและชาวต่าง ชาติในกลุ่มที่ได้รับสิทธิให้สามารถเดินทางเข้าประเทศไทย อาทิ คู่สมรสต่างชาติและบุตรของผู้ที่มีสัญชาติไทย, กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน คณะทูต คณะกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งทุกรายต้องกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (SQ), สถานกักตัวที่รัฐกำหนด (ASQ) หรือสถานพยาบาลทางเลือก (AHQ) และรับการตรวจหาเชื้อตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด โดยตั้งแต่เปิดให้เดินทางเข้าประเทศได้จนถึงขณะนี้ มีผู้ที่เดินทางจาก 63 ประเทศ เข้ารับการกักตัวแล้ว 94,970 ราย พบผู้ติดเชื้อ 562 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 0.59 ของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทั้งหมด โดยประเทศที่เดินทางเข้ามามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย ผ่านด่านพรมแดน สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน ญี่ปุ่น และอินเดีย สำหรับสถานกักตัวประเภทสถานกักตัวที่รัฐกำหนด หรือสถานพยาบาลทางเลือก ผู้ที่เดินทางจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง หากติดเชื้อจะคิดค่าใช้จ่ายการรักษาจากประกันโควิด-19 ที่ทำไว้ก่อนการเดินทางเข้าประเทศ
ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไปกล่าวด้วยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่ อาจเกิดการแพร่และสัมผัสเชื้อระหว่างกันได้ ขอให้ผู้ไปร่วมชุมนุมในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย/ หน้ากากผ้าตลอดเวลา และเปลี่ยนบ่อยๆ หรือเมื่อ หน้ากากเกิดความชื้น ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูก ปาก เลี่ยงการตะโกนเนื่องจากอาจเกิดฝอยละอองน้ำลาย น้ำมูกกระจายและสัมผัสสู่ผู้อื่นได้ หากเป็นไปได้ขอให้ไม่ปะปนกันในกลุ่มขนาดใหญ่ ให้รวมกลุ่มขนาดเล็กและตั้งกลุ่มไลน์ระหว่างกัน หากพบการติดเชื้อจะสามารถติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรคได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้ามีคนใดคนหนึ่งป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก ขอให้ไปรับการตรวจวินิจฉัยทันที และขอให้งดการร่วมชุมนุมเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
วันเดียวกัน ที่มัสยิดบุสตานุ้ลอารีฟีน อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา นายแซะห์ ซีรอต บาการี ผู้นำการละหมาดทางศาสนาให้นายหมัด มะมิน อายุ 54 ปี ล่ามประจำสำนักงานที่ปรึกษาการประชาสัมพันธ์ ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ป่วยโรคโควิด-19 ก่อนรักษาหาย และเดินทางกลับมาประเทศไทย แล้วมีโรคแทรกซ้อนทางปอด จนเสียชีวิตที่ รพ.ราชวิถี โดยนายประสงค์ คงเคารพธรรม รอง ผวจ.ฉะเชิงเทรา อัญเชิญดินพระราชทานวางบนหลุมศพ มีนายปรีดา เชื้อผู้ดี ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ นางอนุรักษ์ มะมิน ภรรยา ญาติมิตร และตัวแทนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตัวแทนจากปลัดกระทรวงแรงงาน ร่วมไว้อาลัยเนืองแน่น
นายหมัดได้ปฏิบัติงานอยู่ในสำนักงานแรงงานฯ มากว่า 22 ปี มีผลงานได้ช่วยแรงงานไทยทั้งใน ซาอุดีอาระเบีย คูเวต บาห์เรน เลบานอนมามากมาย ได้ออกไปทำงานเพื่อช่วยให้คนไทยที่เจ็บป่วยได้เดินทางกลับบ้านจนสำเร็จลุล่วง จนทำให้ตัวเองต้องล้มป่วยจากโควิด-19 กระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก สำนักข่าวต่างประเทศรายงานยอดผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะ ณ วันที่ 19 ก.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 30,697,825 คน เสียชีวิต 956,446 คน รักษาหาย 22,339,958 คน โดยสหรัฐอเมริกา อินเดีย และบราซิล ยังเป็น 3 ประเทศอันดับแรกของโลกที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงสุด เฉพาะที่สหรัฐฯ ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อใกล้แตะ 7 ล้านคน อยู่ที่ 6,925,941 คน เสียชีวิตรวม 203,171 คน อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 93,337 คน รวมเป็น 5,308,014 คน เสียชีวิตอีก 1,247 คน รวมเป็น 85,625 คน ตามด้วยบราซิลที่ผู้ติดเชื้อยอดสะสมอยู่ที่ 4,491,434 คน เสียชีวิตรวม 135,857 คน ส่วนรัสเซียซึ่งอยู่อันดับ 4 ของโลก มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6,065 คน เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 6,000 คน ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 1,097,251 คน เสียชีวิตอีก 144 คน รวมเป็น 19,339 คน
...
ด้านรัฐบาลรัฐควิเบกในแคนาดา ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1,000 นายเข้าตรวจพื้นที่ตามผับ บาร์ และร้านอาหารต่างๆ ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 141,000 คน เสียชีวิตอีก 9,240 คน และทางการยังออกกฎใหม่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังเที่ยงคืน รวมถึงห้ามเต้นรำและร้องเพลงคาราโอเกะ
ขณะที่ในยุโรป หลายพื้นที่ในกรุงมาดริด ของสเปนมีคำสั่งล็อกดาวน์ด้วยเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรปเกือบ 660,000 คน เสียชีวิตอีกกว่า 30,000 คน ทำให้ชาวกรุงมาดริดกว่า 850,000 คน ต้องถูกจำกัดพื้นที่ทั้งการเดินทางและการรวมตัวกันไม่เกิน 6 คน สวนสาธารณะและห้างร้านต้องปิดให้บริการก่อน 22.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น นับแต่วันจันทร์ที่ 21 ก.ย.นี้
ส่วนฝรั่งเศส เป็นประเทศที่ผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดทำสถิตินับแต่มีการแพร่ระบาด หลังพบเพิ่ม 13,215 คน กระโดดเพิ่มขึ้นมาเกือบ 3,000 คนในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 428,000 คน รวมนายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลัง ที่พบผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกแต่ไม่แสดงอาการ เสียชีวิตรวมกว่า 31,000 คน เช่นเดียวกับอังกฤษที่พบผู้ติดเชื้อทำสถิติ 4,322 คน เสียชีวิตอีก 27 คน ถือว่ามากสุดนับแต่วันที่ 8 พ.ค.ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 385,000 คน และเสียชีวิตกว่า 41,000 คนตามลำดับ ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน เตือนการระบาดระลอก 2 เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะเดียวกัน บริษัท โมเดอร์นา อิงค์ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐฯ คาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนภายในสิ้นปีนี้จำนวน 20 ล้านโดส และจะขยายกำลังการผลิตสำหรับปีหน้า 500 ถึง 1,000 ล้านโดส แม้ยังไม่มีวัคซีนตัวใดที่ได้รับการอนุมัติจากทางการของสหรัฐฯ แต่ทางโมเดอร์นาเตรียมแผนขออนุมัติฉุกเฉินเพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงเข้าถึงก่อนหากพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพว่าได้ผลอย่างน้อยร้อยละ 70
...