ฤดูฝนแม้จะเป็นฤดูเหมาะต่อการเพาะปลูก แต่โรคที่มากับฝนนั้นมีไม่น้อย โดยเฉพาะโรคจากเชื้อรา กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรชาวสวนลำไยเฝ้าระวัง...โรคราน้ำฝน ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora capsici Leonian

ได้ยินแค่ชื่อรู้ทันทีจะระบาดในฤดูไหน จะมากเป็นพิเศษในช่วงต้นกันยายน-ตุลาคม โดยเชื้อราก่อโรคจะผลิตสปอร์แพร่ไปกับน้ำฝน เข้าทำลายใบอ่อนในช่วงผลิตใบอ่อนหลังเก็บเกี่ยว และเข้าทำลายผลในช่วงติดผลอ่อน

อาการที่ใบ กิ่ง และยอด ใบอ่อน กิ่งอ่อน และยอดอ่อนไหม้เป็นสีน้ำตาลเข้ม มักพบเส้นใยสีขาวขึ้นฟูปกคลุมกิ่งอ่อนและยอดอ่อน ต่อมาส่วนที่เป็นโรคจะแห้งตายอย่างรวดเร็ว หากระบาดรุนแรง จะทำให้ใบและยอดไหม้ทั่วทั้งต้น

อาการที่ผล ในระยะผลอ่อนบริเวณเปลือกผลอ่อนและขั้วผลมีสีน้ำตาลเข้ม ส่วนในระยะผลที่ยังแก่ไม่เต็มที่ จะพบผลแตกและเน่า มักพบเส้นใยสีขาวขึ้นฟูคลุม และผลจะหลุดร่วงในที่สุด

เมื่อเริ่มพบการระบาดให้หมั่นทำความสะอาด กำจัดวัชพืชโคนต้น เก็บกวาดเศษซากพืชส่วนกิ่ง ใบ ผลที่เป็นโรคใต้ต้นไปเผาทำลายนอกสวนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกชุก...จากนั้นตัดแต่งกิ่ง ใบ และทรงพุ่มต้นลำไยให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก อีกทั้งเกษตรกรควรล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางการเกษตรต่างๆให้สะอาด และผึ่งแดดให้แห้งหลังการใช้งานทุกครั้งอยู่เสมอ เมื่อได้นำไปใช้กับต้นที่เป็นโรค

สำหรับสวนที่พบการระบาดของโรคนี้เป็นประจำ หลังตัดแต่งกิ่ง ทำความสะอาดโคนต้น ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เมทาแลกซิล 25% ดับเบิลยูพี อัตรา 50-60 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟอสอีทิลอะลูมิเนียม 80% ดับเบิลยูพี อัตรา 80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ+เมทาแลกซิลเอ็ม 68% ดับเบิลยูจี อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วทั้งต้น ทุก 5-7 วัน

...

หยุดพ่นก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยอย่างน้อย 15 วัน.


สะ-เล-เต