จี้ วชช.เก็บตกผู้เข้าไม่ถึงการศึกษา

ดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การขับเคลื่อนการปฏิบัติงานมุ่งผลสัมฤทธิ์ของวิทยาลัยในยุค New Normal” ที่โรงแรมแม่น้ำรามาดาพลาซา เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ว่า ช่วง 4 ปีจากนี้วิทยาลัยชุมชน (วชช.) ต้องเดินหน้าขับเคลื่อนงานให้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เป้าหมายอยู่ในกระดาษ โดย วชช.มีเป้าหมายจะต้องเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนโดยแท้จริง

ด้าน ดร.ถนอม อินทรกำเนิด ประธานที่ปรึกษาสถาบันวิทยาลัยชุมชน บรรยายเรื่อง “ทิศทางการปรับโฉมสถาบันวิทยาลัยชุมชนภายในปี 2570 : การพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ (Area Based and Community)” ว่า วชช.ตั้งมา 18 ปีแล้ว แต่ยังทำงานแบบซ้ำๆซากๆ เน้นการจัดการศึกษาระดับอนุปริญญาเป็นหลัก ขณะที่ วชช.ยังมีหน้าที่หลายเรื่อง เช่น การวิจัย การฝึกอบรมและการบริการทางวิชาการเพื่อพัฒนาชุมชน เป็นต้น นอกจากนี้ สถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคตก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ วชช.ต้องมาทบทวนตนเองว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือผู้ขาดโอกาส และผู้เข้าไม่ถึงการศึกษา ที่สำคัญต้องปรับโฉมระบบสถาบันวิทยาลัยชุมชน โดยจะต้องสำรวจจำนวนเป้าหมายในแต่ละ วชช. เพื่อจัดทำบัญชีให้ชัดเจนว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหนกันบ้าง จากนั้นต้องจัดหลักสูตรให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันต้องทำงานตามแผนงานและโครงการให้ชัดเจน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนยุทธศาสตร์สถาบันวิทยาลัยชุมชน ต้องติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการทำงาน รวมไปถึงจัดทำรายงานเสนอต่อสภาวิทยาลัยและสภาสถาบัน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปรับปรุงต่อไป

นางสีลาภรณ์ บัวสาย กรรมการสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน อภิปรายเรื่อง “ความอยู่รอดของ วชช.ในยุค New Normal : คนต้องปรับ ระบบต้องเปลี่ยน?” ว่า ยุค New Normal วชช.จะอยู่รอดได้ต้องปรับตัว และที่ผ่านมาเราก็เห็นว่ามี วชช.หลายแห่งที่ทำงานประสบความสำเร็จ เพราะมีการวางเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน มีการทำงานเป็นขั้นตอน และมีความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก

ขณะที่ รศ.ฐาปนีย์ ธรรมเมธา กรรมการสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน กล่าวถึงแผนปฏิรูปสถาบันวิทยาลัยชุมชน : การพัฒนา วชช.สู่ Digital Community College ภายในปี 2565 ว่า การพัฒนา วชช.ไปสู่ Digital Community College เพื่อต้องการปรับการเรียนการสอนของ วชช. ให้สามารถเข้าถึงผู้เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา มีการใช้ทรัพยากรของ วชช. ร่วมกันทั่วประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ วชช.ด้วย.