คนร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรม ผู้ร้องเล่าว่า วันที่ 28 ม.ค. เวลา 18.00 น.ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระบริเวณป้อมจราจรตู้ 401 หน้าวัดอรัญเขต อ.แม่สอด จ.ตาก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาตามใบสั่งจราจรข้อหา “ไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่ชำระภาษี”
คนร้องบอกว่า ยอมรับข้อกล่าวหาว่าผิดจริงตามข้อกล่าวหาของเจ้าพนักงานจราจร แต่ข้องใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจร
วันนั้นเห็นตำรวจนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์บริเวณหน้าป้อมจราจร
ไม่มีการตั้งด่านตรวจ
แต่ตำรวจคอยเรียกตรวจผู้กระทำความผิด โดยผลัดกันเรียกไปตามคิวของเจ้าหน้าที่ ระหว่างที่ออกใบสั่งให้อยู่นั้น มีผู้ชายและผู้หญิงอิสลาม ซึ่งเป็นคนไทยนับถือศาสนาอิสลามขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เรียกตรวจ
ชายและหญิงนับถือศาสนาอิสลามไม่สวมหมวกนิรภัยทั้งคู่ผู้ชายสวมหมวกผ้า และผู้หญิงสวมผ้าคลุมศีรษะ ถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไม ไม่จับกุม แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งถือว่าละเว้นและเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร
คนร้องบอกว่า อยากถามว่าในกฎหมายให้อภิสิทธิ์แก่ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามที่ไม่ต้องสวมหมวกนิรภัยเวลาขี่รถจักรยานยนต์ด้วยหรือไม่
ระหว่างนั้นมีชายชาวพม่าขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยผ่านมาถูกตำรวจเรียกตรวจ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก แต่มีแถบกระดาษเขียนชื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรดู เจ้าหน้าที่ไม่จับกุมและออกใบสั่งให้ชายชาวพม่ารายนี้
สอบถามไปยังชายชาวพม่าเป็นภาษาพม่าได้รับคำตอบว่า ชายคนนี้เสียรายเดือนให้กับตู้จราจรแห่งนี้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
...
แต่จะอยู่ด้านในตู้จราจร
คอยเก็บเงินและออกใบกระดาษให้แก่ผู้ที่มาติดต่อจ่ายรายเดือน เมื่อเหมากระดาษจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ โดยจะเก็บเงินรายเดือนสำหรับรถจักรยานยนต์ 300 บาท สามล้อเครื่อง 1,000 บาท
คนร้องบอกว่า หากอยากทราบข้อเท็จจริงติดต่อที่ตู้จราจรแห่งนี้ได้ และขอให้ตรวจสอบการทำงานของตำรวจจราจร อ.แม่สอด ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตและยุติธรรม ด้วยความถูกต้อง ซื่อสัตย์ต่ออาชีพตำรวจ
และบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th