อาทิตย์ 12 กรกฎาคม 2563 เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ประทานพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ แก่พระอาจารย์ ดร.พระครูสุธีปริยัติโกศล ประธานสาขาพุทธศาสตร์ คณะศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย และ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดสวัสดิวารีสีมาราม กรุงเทพฯ และจะอัญเชิญต่อไปประดิษฐาน ณ วัดมัชฌิมวัน (วัดดงกลาง) อ.เขาสมิง จ.ตราดเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตเป็นชาวตราด เกิดที่บ้านเกาะเกตุ ตำบลชำราก ดร.พระครูสุธีปริยัติโกศลเป็นชาวตราด เกิดที่บ้านท่าเรือจ้าง ตำบลบางพระ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมวัน (วัดดงกลาง) และ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐก็เป็นชาวตราด เกิดที่บ้านดงกลาง ตำบลเขาสมิง23 ตุลาคม 2563 จะมีขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประกอบพิธีบรรจุ ณ มณฑปอาคารปฏิบัติธรรม ซึ่งอยู่ชั้นล่างขององค์พระพุทธมงคลธรรมบพิตร24 ตุลาคม 2563 เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร จะมีการทอดกฐินสามัคคี ณ วัดมัชฌิมวัน (วัดดงกลาง) โดยมี ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐเป็นประธานฝ่ายฆราวาส พ่อผมเกิดในยุคที่ป่าดงดิบบ้านดงกลางยังไม่มีวัด วัดมัชฌิมวัน (วัดดงกลาง) เพิ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2513 เวลาหมุนเวียนมาจนถึงปีนี้ ก็ครบ 50 ปีพอดี25 ตุลาคม 2563 จะมีการทอดกฐินสามัคคีที่วัดรัตนวนาราม สมเด็จพระวันรัต อ.บ่อไร่ จ.ตราด หากใครไปจังหวัดตราดระหว่าง 23-25 ตุลาคม 2563 ท่านสามารถร่วมงานบุญได้ถึง 3 วัน ซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อกันทั้งวันปิยะมหาราช วันเสาร์ และวันอาทิตย์ พลังงานที่เกิดจากการปฏิบัติจนหลุดพ้นอาสวกิเลสขณะยังมีชีวิต สามารถฟอกธาตุขันธ์ให้กลายเป็นพระธาตุ พลังงานดังกล่าวไม่ได้ฟอกเฉพาะอัฐิธาตุหรือกระดูกเท่านั้น ทว่าสามารถเปลี่ยนอวัยวะทุกส่วนที่เกี่ยวกับร่างกายให้กลายเป็นพระธาตุได้ทั้งผม เล็บ ฟัน หนัง น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง หรือแม้แต่คราบไคลลักษณะ สี สัณฐาน และขนาดของพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุมีลักษณะเป็นมันเลื่อมและมีสีต่างๆ บางองค์มีสีทองอุไร บางองค์ใสดังแก้วผลึก บางองค์เป็นสีดอกพิกุลแห้ง เรื่องสัณฐาน ก็มีทั้งกลม ยาวรี หรือเป็นเหลี่ยม ส่วนขนาดก็มีตั้งแต่เท่าเมล็ดถั่วแตก เมล็ดข้าวสารหัก บางองค์มีขนาดเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาด ฯลฯผู้อ่านท่านที่เคารพ ตราดเป็นจังหวัดเงียบๆ เรียบๆ แต่ที่มีสถานที่ที่น่าไปเยือนจำนวนมาก ที่ผมขออนุญาตแนะนำในฐานะลูกหลานชาวตราดก็คือ ศาลหลักเมือง ซึ่งสันนิษฐานกันว่าพระเจ้าตากสินเป็นผู้สร้างศาลนี้ เมื่อครั้งที่มารวมพลที่จังหวัดตราดเพื่อกอบกู้เอกราช ส่วนในตัวเมืองใกล้จวนผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีเรสิดังต์กัมปอด เป็นจวนผู้ว่าฯ สมัยฝรั่งเศสยึดครองจังหวัดตราดที่อำเภอแหลมงอบก็มีที่น่าไปเยือนทั้งบ้านน้ำเชี่ยว อ่าวตาลคู่ และเกาะปุย ถ้าใครมีเวลาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 318 ก็จะเจอทั้งน้ำตกสะพานหิน หาดทรายงาม หาดทรายเงิน หาดทรายแก้ว หาดทับทิม ชายหาดเขาล้าน หาดไม้รูด หาดบานชื่น หาดศาลเจ้า ฯลฯ ตราดมีเกาะแก่งมากมายหลายแห่ง ทั้งเกาะช้าง เกาะไม้ตั้ง เกาะรัง เกาะหวาย เกาะเหลายา เกาะกระ เกาะขาม เกาะหมาก เกาะกูด เกาะไม้แดง เกาะเทียน เกาะกระดาด ฯลฯตราดเป็นประตูต้อนรับผู้คนจากกัมพูชาและเวียดนาม พ้นชายแดนตราดก็จะเป็นจังหวัดเกาะกงของกัมพูชาที่ต่อไปยังจังหวัดกัมปอตและจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งตอนนี้มีการลงทุนของนักธุรกิจจีนจำนวนมาก จีนพัฒนาพื้นที่ชายทะเลและริมแม่น้ำสายสำคัญของกัมพูชาในภูมิภาคนี้จนแทบไม่เหลือสภาพเดิม ความดั้งเดิมที่หาแทบไม่ได้ในกัมพูชา ท่านยังสัมผัสได้ในจังหวัดตราดวันนี้ขออนุญาตเขียนถึงวัดและจังหวัดบ้านเกิดของคุณพ่อหน่อยครับ ขอเชิญอีกครั้งครับ 23-25 ตุลาคม 2563 เชิญไปทำบุญและเยือนจังหวัดตราด ขอแนะนำให้ท่านจองที่พักเสียแต่เนิ่นๆป.ล.วัดมัชฌิมวัน (วัดดงกลาง) เริ่มสร้างโบสถ์เมื่อ พ.ศ.2542 บัดนี้ สีของโบสถ์จางไปตามกาลเวลา ท่านใดจะรับเป็นเจ้าภาพทาสีภายนอกโบสถ์ ก็จะเป็นกุศลอย่างยิ่งครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com