สภาพอากาศในระยะนี้เอื้อให้เชื้อราก่อโรคพืชแพร่ระบาดได้ดีกรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกถั่วลิสงให้หมั่นสังเกตอาการ โรคใบจุดสีดำ และ โรคใบจุดสีน้ำตาลโรคใบจุดสีดำ จะพบการระบาดทั่วประเทศ ทำความเสียหายให้กับถั่วลิสงมากในฤดูฝนอาการของโรคจะเกิดแผลที่ใบ เริ่มจากใบตอนล่างก่อน แผลจะมีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม รูปร่างค่อนข้างกลม ขนาดไม่แน่นอน ใหญ่สุดประมาณ 5-8 มม. ขอบแผลอาจมีวงสีเหลืองล้อมรอบหากอาการรุนแรง แผลจะขยายขนาดมาชนกัน ใบจะเหลือง ขอบใบบิดเบี้ยว ใบไหม้เป็นสีน้ำตาลดำ และร่วงก่อนกำหนด โรคจะลุกลามขึ้นสู่ใบด้านบน หรืออาจพบอาการของโรคบนหูใบ ก้าน ลำต้น และขั้วฝักส่วน โรคใบจุดสีน้ำตาล อาการของโรคในระยะเริ่มแรก จะมีแผลจุดสีน้ำตาลบนใบที่อยู่ด้านล่าง ขอบแผลอาจมีวงสีเหลืองล้อมรอบ หากอาการของโรครุนแรง จะพบอาการของโรคบนหูใบ ก้าน ลำต้น และขั้วฝัก ทำให้ใบร่วงก่อนกำหนด และโรคจะลุกลามขึ้นสู่ใบด้านบนสำหรับการป้องกันกำจัด 2 โรคนี้ ให้เกษตรกรหมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากในแปลงปลูกถั่วลิสงเริ่มพบแสดงอาการของทั้ง 2 โรค ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เบโนมิล 50% ดับเบิลยูพี อัตรา 15-20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือแมนโคเซบ 80% ดับเบิลยูพี อัตรา 20-30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นทุก 7-10 วันภายหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตถั่วลิสง ควรทำลายซากต้นถั่วลิสงด้วยการไถกลบให้ลึก เพื่อตัดวงจรเชื้อราก่อโรคไม่ให้แพร่ระบาดในฤดูถัดไปในแปลงที่พบการระบาดของโรคนี้แล้ว เกษตรกรควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และข้าวโพด เป็นต้น อีกทั้งควรล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ทางการเกษตรต่างๆให้สะอาด และผึ่งแดดให้แห้งหลังการใช้งานทุกครั้งอยู่เสมอ เมื่อได้นำไปใช้กับต้นที่เป็นโรคในแปลงที่มีการระบาดก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ในครั้งต่อไป.สะ–เล–เต