ภาคใต้เป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดแทบไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาฝนตกชุก ก่อเกิดโรคหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคราสนิม โรคใบไหม้แผลเล็ก โรคใบไหม้แผลใหญ่ และโรคไวรัสใบด่างแต่วันนี้ด้วยผลงานของ ดร.โชคชัย เอกทัศนวรรณ ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์... สามารถปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดหวานให้ปลูกในภาคใต้ได้แล้ว ด้วยการผสมเดี่ยวระหว่างข้าวโพดหวาน SSWI 114 สายพันธุ์แท้ กับพันธุ์ KSei 14004 กระทั่งกลายมาเป็นข้าวโพดหวานลูกผสมเดี่ยว...พันธุ์อินทรีย์ 2ผลการปลูกทดสอบพันธุ์ใน 7 ฤดู 6 ปี (2537-2542) ที่ไร่สุวรรณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปรียบเทียบกับข้าวโพดหวานพันธุ์อินทรีย์ 1 ...พันธุ์อินทรีย์ 2 ให้ผลผลิตสูงกว่าให้น้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกไร่ละ 2,430 กก. และน้ำหนักฝักสดปอกเปลือกที่ดี 1,377 กก.ต่อไร่ สูงกว่า 5.7 และ 9.0% ให้เปอร์เซ็นต์เมล็ดที่ตัด 34.17% และความหวาน 15.0% บริกซ์สูงกว่า มีความนุ่ม และทุกฝักมีรสชาติใกล้เคียงกัน แต่มีขนาดฝักใหญ่กว่า และเมื่อนำไปทดสอบพันธุ์ตามสถานีทดลองต่างๆใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ที่โดดเด่นน่าสนใจ การปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสงขลา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะยังไม่มีข้าวโพดหวานพันธุ์ไหนให้ผลผลิตเท่าอินทรีย์ 2...ให้น้ำหนักฝักสดทั้งเปลือกเฉลี่ยไร่ละ 2,330 กก. แม้ต่ำกว่าไร่สุวรรณ 100 กก. แต่น้ำหนักฝักสดปอกเปลือกดี 1,540 กก.ต่อไร่ สูงกว่าปลูกที่ไร่สุวรรณ ไร่ละ 163 กก.นอกจากนี้ยังได้มีการปลูกทดสอบผลผลิตป้อนโรงงานข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องส่งออก...พันธุ์อินทรีย์ 2 ให้น้ำหนักฝักสดทั้งเปลือก 2,097 กก.ต่อไร่ น้ำหนักฝักสดปอกเปลือกไร่ละ 1,422 กก. ได้ผลผลิตบรรจุกระป๋อง 766 กก.ต่อไร่ มีความหวาน 15% บริกซ์ เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม เมล็ดไม่ยุบตัว เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วสามารถอยู่ได้อีก 2-3 วัน...ในขณะที่สายพันธุ์อื่น ปลูกในพื้นที่ภาคใต้ เก็บได้แค่ 1 วันจะเริ่มเหี่ยวแล้วความโดดเด่นของข้าวโพดหวานลูกผสมเดี่ยวพันธุ์อินทรีย์ 2 มีระบบรากชอนไชได้ดี ต้นตรงไม่ล้มเอนง่าย ทนลมแรง ที่สำคัญ มีฝักยาวที่ปลายฝักปิดมิดชิด ทำให้น้ำฝนไม่สามารถเข้าไปสู่ฝักได้ ไม่ทำให้เกิดโรคฝักเน่า โรคราสนิม โรคใบไหม้แผลเล็ก โรคใบไหม้แผลใหญ่ และโรคไวรัสใบด่าง อีกทั้งหนอนเข้าทำลายได้ยาก ดร.โชคชัย เน้นย้ำสิ่งที่เกษตรกรควรรู้ก่อนจะลงมือปลูก...ต้องวางแผนการตลาดให้แน่นอนเสียก่อน อย่างน้อยต้องขายได้ในราคาฝักละ 10 บาท หรืออาจจะมีช่องทางขายออนไลน์จะดีมาก ไม่เช่นนั้นจะขาดทุน.ไชยรัตน์ ส้มฉุน