โคนมที่เลี้ยงในไทยมีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ หากส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยง จะทำให้มีภาระต้นทุนการจัดการฟาร์ม กรมปศุสัตว์จึงจัดโครงการพัฒนาและผลิตพ่อโคนมพันธุ์ดี (Master Bull Project) โดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) สนับสนุนทุนวิจัย “กรมปศุสัตว์พัฒนาปรับปรุงพันธุ์โคนมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสายพันธุ์โคให้ทนทานต่อโรค เหมาะกับสภาพแวดล้อมไทย ตรงกับพฤติกรรมคนไทยที่บริโภคนมพร้อมดื่ม ไม่เหมือนต่างประเทศที่น้ำนมดิบส่วนใหญ่จะถูกนำไปแปรรูป ดังนั้น การพัฒนาสายพันธุ์โคนมบ้านเราจึงเน้นปรับปรุงคัดเลือกให้ได้พันธุกรรมที่ให้ผลผลิตสูง โดยใช้โฮลสไตน์ฟรีเชียนผสมกับแม่โคพันธุ์พื้นเมืองหรือลูกผสมบราห์มันพื้นเมือง ซึ่งมีความสมบูรณ์พันธุ์ หากินเก่ง ทนร้อน ทนโรคแมลง เลือกลูกโคเพศผู้พันธุ์ดีนำมารีดน้ำเชื้อ (รุ่น 1) สร้างฝูงโคนมทรอปิคอล โฮลสไตน์ (TH)” ดร.สายัณห์ บัวบาน หัวหน้ากลุ่มวิจัยและประเมินพันธุกรรมสัตว์ สำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ บอกว่า โคนมทรอปิคอล โฮลสไตน์ (TH) มีการวิจัยและพัฒนามาตั้งแต่ปี 2534-2560 จากความร่วมมือของหน่วยงาน ในสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ ด้วยการผสมข้ามสายพันธุ์ ระบบฝูงเปิด (Open nucleus herd) ระหว่างโคพันธุ์พื้นเมืองในฟาร์มเกษตรกร กับน้ำเชื้อรุ่น 1 ด้วยวิธีการผสมเทียม สร้างสายเลือด (รุ่น 2) โฮลสไตน์ฟรีเชียน 87.5-93.75% นำไปผสมโคนมเพศเมียปีละ 87,500 ตัว ลูกที่ได้ (รุ่น 3) จะใช้วิธีคัดเลือกพันธุกรรมจีโนม (Genomic estimated breeding value) และ SNP ร่วมประเมินเพิ่มความถูกต้องแม่นยำทางพันธุกรรมวิธีนี้ช่วยร่นระยะเวลา การวิจัย 3 ปี สามารถคัดเลือก สายพันธุ์โคคุณภาพได้เร็วกว่าวิธีเดิมที่ใช้เวลานานถึง 6-7 ปี โคนมทรอปิคอล โฮลสไตน์ (TH) โคนมพันธุ์ไทย นอกจากปลอดโรคทางพันธุกรรม ปลอดโรคติดต่อทางระบบสืบพันธุ์ ไม่นำโรคใหม่ๆ เข้าประเทศ เหมาะกับสภาพแวดล้อมไทย ทนทานโรค รีดนมได้นานให้ปริมาณผลผลิตน้ำนม 4,200-4,300 กก.ต่อรอบการรีดน้ำนม 305 วัน...มากกว่าสายพันธุ์เดิมที่ให้ผลผลิตเพียง 3,800 กก.เลยส่งผลให้งานพัฒนาสร้างสายพันธุ์โคนม ได้รับคัดเลือกผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ระดับดีเด่นปี 2563 จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)...เกษตรกรสนใจน้ำเชื้อไปผสมพันธุ์ สอบถาม ได้ที่ 02-501-2438. เพ็ญพิชญา เตียว