นับวันการทำฟาร์มโคเนื้อในบ้านเรา ได้รับการยอมรับในมาตรฐานมากขึ้น คุณภาพไม่แพ้เนื้อจากยุโรปหรือญี่ปุ่น...ล่าสุดสามารถส่งออกเนื้อโคขุนไปยังเมียนมาได้แล้ว
“หากมุ่งแต่ส่งออก ไม่ส่งเสริมการเลี้ยง นอกจากจะไม่เพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศ อนาคตอาจต้องนำเข้ามา เพราะปัจจุบันโคขุนในไทยมีอยู่เพียง 5 ล้านตัว เพื่อเพิ่มจำนวนให้เพียงพอกับการจำหน่ายในประเทศและส่งออก กรมปศุสัตว์ร่วมกับ บริษัท พรีเมี่ยม บีฟ จำกัด จัดทำโครงการเครือข่ายโคเนื้อไทย”

น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ บอกว่า ปัจจุบันไทยได้เปรียบด้านอาหารเลี้ยง ทั้งสภาพแวดล้อมเหมาะสม ต้นทุนไม่แพง ทำให้เราสามารถผลิตเนื้อโคคุณภาพเทียบเท่าเนื้อโคที่มาจากยุโรป
แม้ไทยจะมีปัญหาสภาพอากาศ แต่แก้ไขได้ด้วยการจัดทำฟาร์มมาตรฐานเพื่อการส่งออก ทั้งด้านการบริหารจัดการในฟาร์ม ตามหลักมาตรฐานสากล การจัดการคอกสะอาด ไม่มีแมลงรบกวน ให้โคกินอิ่มนอนหลับมีแหล่งน้ำสะอาด หญ้าอาหารสัตว์ที่ปลูกไม่มียาฆ่าแมลง ทำให้คุณภาพโคที่เลี้ยงดี
...

ด้าน นายสุริยศักดิ์ ภูริปฐิติพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท พรีเมี่ยม บีฟ จำกัด เผยถึงแนวทางการส่งเสริมการเลี้ยงโคขุนคุณภาพ...การวิจัยพัฒนาพันธุ์จะต้องให้สอดคล้องกับรูปแบบตลาดนำการผลิต
“เรามีการทดลองวิจัยการเลี้ยง การแปรรูป และมีร้านอาหารเป็นของตัวเองเพื่อนำมาจำหน่ายพร้อมกับวัดผลความพึงพอใจของผู้บริโภค เมื่อได้รายละเอียดของข้อมูลว่าลูกค้าชอบแบบไหน เราถึงจะนำสายพันธุ์โคที่เหมาะสมไปส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงทุกฟาร์มเลี้ยงต้องได้รับรองมาตรฐานฟาร์ม GAP จากกรมปศุสัตว์ และเข้าสู่กระบวนการแปรรูปที่ได้มาตรฐานปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) โรค Rinderpest และโรควัวบ้า (BSE)”

ส่วนการเลี้ยงในแต่ละพื้นที่...สิ่งสำคัญที่สุด ต้องเลือกสายพันธุ์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในแต่ละภูมิภาค ซึ่งแต่ละพื้นที่สายพันธุ์โคที่นำไปส่งเสริมแตกต่างกันไป
พื้นที่ภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ น่าน สภาพอากาศเย็นกลางคืน ส่วนกลางวัน ร้อน ต้องเลี้ยงโค พันธุ์บีฟมาสเตอร์ พันธุ์ลูกผสมเลือดอเมริกา 50% เลือดยุโรป 25% เพราะทนกับสภาพอากาศแล้ง


...
ภาคกลาง สายพันธุ์ที่เหมาะสมเป็นโค พันธุ์ตาก ลูกผสมอเมริกันบราห์มันผสมกับชาร์โรเลส์ สายพันธุ์นี้ทนต่อสภาพอากาศร้อน เลี้ยงง่าย หากินเก่ง...ภาคใต้ สภาพภูมิประเทศอากาศเย็น ไม่มีแดด แต่มีลม สายพันธุ์โคที่เหมาะสมคือ พันธุ์กำแพงแสน และ สายพันธุ์วากิว....ภาคตะวันออก ในพื้นที่ชลบุรี ระยอง ตราด มีแมลงชุกชุม สายพันธุ์โคที่เหมาะสม โคสายพันธุ์กบินทร์บุรี
จากการส่งสายพันธุ์ที่เหมาะสมไปให้แต่ละพื้นที่ขุนเลี้ยง ทำให้ได้คุณภาพซากเนื้อตรงกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค...ทำให้ล่าสุดสามารถส่งออกเนื้อโคไปยังพม่า และอนาคตวางเป้าหมายจะส่งไปยังพนมเปญ เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา มาเลเซีย ลาว ดูไบ และบรูไน.
เพ็ญพิชญา เตียว