ต้องยอมรับวิกฤติเชื้อโควิดทำ “ธุรกิจสีเทา” ซบเซาชั่วคราว
ภายหลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 กำหนดมาตรการเข้มเพื่อสกัดการระบาดของ “ไวรัสหวัดมรณะ” ไม่ให้ลุกลามกระจายจนยากแก่การควบคุม
ปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง
ถึงกระนั้นยังมีผู้ประกอบการจาก “ธุรกิจสีเทา” ดึงดัน “ฝ่ากฎเหล็ก” ไม่สนคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถมได้แรง ข้าราชการในเครื่องแบบบางคน หนุนส่งด้วยเพราะหวังผลจาก “เงินนอกระบบ” เอามาประคบจุนเจือกระเป๋าตัวเอง
บ่อนพนันรายใหญ่อาจปิดทำการเนื่องจากไม่อยากเสี่ยงเป็นตัวการแพร่เชื้อโรค ทว่ากิจการรายย่อยจำพวก “ตู้สลอต ตู้ม้าไฟฟ้า” ยังคงโผล่เกลื่อนตามตรอกซอกซอย ไม่รวมถึง “เครือข่ายพนันออนไลน์” เอาใจคนอยู่บ้านที่เปิดทำกันฟู่ฟ่า
ไม่รู้มีอะไร “บังตา” ผู้รักษากฎหมาย
จังหวัดชายทะเลภาคตะวันออก นายทุนใหญ่ 2 เจ้าดัง ห้าวไม่หยุด หลังได้รับสัญญาณ “ไฟเขียว” ผ่านเกือบทุกแยก
ว่ากันว่า มี “อาตี๋เล็ก” ครองอาณาจักร “ตู้ม้า” ระบาดหนักพื้นที่จังหวัดชลบุรี กินโควตาเต็มย่านพัทยา บางละมุง ห้ามเจ้าอื่นเข้าไปยุ่งเอี่ยวผลประโยชน์
ส่วน “หลงจู๊ชาย” ยึดฐานใหญ่เมืองระยองและฉะเชิงเทรา เคยแวะเวียนมาทำบ่อนในเมืองหลวง และเป็น “กระเป๋า” ให้ “เสี่ยจอมปลอม” ไปสวมบท “เศรษฐีนักบุญ” ตระเวนแจกเงินตามชุมชน
...
ตอบแทนผลงาน “โชว์ไลฟ์” ผ่านโลกออนไลน์ชวน “ผีพนัน” ติดกันงอมแงม
ชาวภาคตะวันออกกำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดจาก “พิษไวรัสโควิด” แต่กลับมีบางกลุ่มคิดกอบโกย อาศัย “ความหิวโหย” ของคนในเครื่องแบบ
ชายทะเลแถบนี้ถึงแทบไม่เคยจางหายจากคราบธุรกิจสีเทา.
สหบาท