เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่า ความแออัดยัดเยียดของนักโทษในเรือนจำเมืองไทยแทบทุกแห่งที่เข้าขั้น “ล้นคุก” เข้าข่ายอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศ
ท่ามกลางความกังวลของนักโทษ และญาติผู้ถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งตามมาตรการดำเนินการอย่างเข้มงวดเป็นระบบของกรมราชทัณฑ์ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อน้อยมาก แทบไม่มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ
น่าสนใจระบบป้องกันในเรือนจำ
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทวีความรุนแรงขึ้น ในประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 2,369 ราย และเสียชีวิต 32 ราย
กรมราชทัณฑ์ได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดภายในเรือนจำ ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 มาตรการกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ 14 วัน การยกเลิกการนำผู้ต้องขังออกไปฝึกวิชาชีพภายนอกเรือนจำ การงดเยี่ยมญาติ การวัดไข้
สังเกตอาการผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด
การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับผู้ต้องขังในเรื่องการป้องกันการระบาดของโรค
จากหลายมาตรการส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้ต้องขังป่วยเป็นโรคโควิด-19 เพียง 2 ราย ซึ่งได้รับการดูแลรักษาจนหายดีแล้วและมี เจ้าหน้าที่ป่วยเพียง 1 ราย ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า มาตรการที่จัดวางไว้ยังสามารถรับมือกับโรคระบาดได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีผู้ต้องขังบางส่วน มีอาการเครียดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
กรมราชทัณฑ์ ได้เพิ่มมาตรการในการรับมือกับโรคระบาดและช่วยให้ผู้ต้องขังกับญาติคลายความกังวลใจลง ได้จัดสรรเงินจำนวน 200,000 บาท เป็นเงินเยียวยาสำหรับช่วยเหลือครอบครัวของผู้ต้องขังที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 มาตรการดังกล่าวจะสามารถลดความวิตกกังวลให้กับผู้ต้องขังและญาติได้
...
สร้างความเชื่อมั่นในระบบป้องกัน
กรมราชทัณฑ์ ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนอย่างดียิ่งจาก กระทรวงสาธารณสุข และ กรมควบคุมโรค ขอให้พี่น้อง ประชาชนที่มีญาติมิตรอยู่ในเรือนจำต่างๆ อย่าได้วิตกกังวล
ได้วางมาตรการในการป้องกันไว้อย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังกว่า 380,000 ราย และเจ้าหน้าที่กว่า 13,000 คน ติดเชื้อไวรัส โควิด-19
ทำทุกทางเพื่อความสบายใจของนักโทษและญาติ.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th