ถั่วฝักยาว เป็นพืช 1 ใน 7 ใช้น้ำน้อยอีกชนิดที่บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด แนะนำให้ปลูกหน้าแล้ง...ใช้น้ำแค่ไร่ละ 458.55 ลบ.ม. ปลูก 55-60 วัน เก็บเกี่ยวผลผลิต...จัดเป็นพืชใช้น้ำน้อย ที่ทำเงินได้มากถึงไร่ละ 54,950 บาท เป็นอันดับสองรองจากพริก
แต่ต้องแลกด้วยการดูแลเอาใจใส่อย่างดี...เพราะโรคแมลงรุมเร้าค่อนข้างเยอะ
ก่อนลงปลูก...วิธีการไม่ต่างจากพืชใช้ค้างอื่น ปักค้างห่างกัน 50 ซม. 1 ไร่ ปลูกได้ 4,260 ต้น การเตรียมดิน หว่านปุ๋ยสูตร 15-15-15 จำนวน 80 กรัม ปุ๋ยคอก 3 กก. คลุกเคล้ากับดินทุก 2 เมตร ปลูกได้ทั้งแบบเพาะกล้า และหยอดเมล็ด...หลังปลูกได้ 20 วัน ใส่ปุ๋ยสูตรเดิม 2 กรัม ที่ปลายรากบริเวณโคนต้น ลึกประมาณ 2.5 ซม. (ใส่ปุ๋ยทุก 10 วัน) วันที่ 30 และ 40 เพิ่มปุ๋ย 15-15-15 เป็น 2.5 กรัม และสูตร 13-13-21 ปริมาณ 2.5 กรัม เมื่ออายุได้ 50 วันขึ้นไป ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ปริมาณ 5 กรัม
โรคแมลงที่พบบ่อย หนอนแมลงวัน...กัดกินใบอ่อน ฝักอ่อน จนทำให้ต้นตาย ฝักลีบ เป็นรู แก้ไขโดยใช้ ฟูราคาน 2 กรัม รองก้นหลุมก่อนปลูก แต่หากพบระบาดช่วงต้นโต ให้ใช้ ไดเมทโธเอท ฉีดพ่น ทุก 5-7 วัน

...
เพลี้ยอ่อน...คอยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อน ยอดอ่อน ทำให้ใบเหี่ยวตาย ต้นแคระแกร็น ฝักลีบ บิดงอ กำจัดโดยใช้ ทามารอน หรือ โซนาต้ามอลต้า
โรคเหี่ยวจากรา...ต้นเหี่ยวช้ำน้ำ มีเส้นใยขาวบางคลุมโคนต้น ไส้กลางลำต้นติดดินเน่าแห้งกลวง ใบแก่เหลือง เมื่อพบอาการให้ถอนต้นนั้นออกจากแปลงทันที แล้วราดโคนต้นที่ยังไม่มีอาการด้วย คาร์เบนดาซิม
โรคราแป้ง...ใบแก่จะมีขุยสีขาวกระจายปกคลุมไปทั่ว ต่อมาใบจะเหลืองและร่วง ป้องกันและควบคุมได้โดยพ่นสารในกลุ่ม โพรคลอราซ หรือ แมนโคเซบ
โรคราสนิม...ใบแก่หรือใต้ก้านใบพบจุดนูนมีผงสีน้ำตาลคล้ายสนิมกระจายทั่ว กำจัดโดยใช้สารในกลุ่ม อะซ็อกซีสโตรบิน และพ่นป้องกันด้วยการใช้ คลอโรทานิล หรือ ไตรอะดิมีฟอน
โรคแอนแทรกโนส...แผลที่ใบจะกลมขอบเข้มตรงกลางซีด อาการรุนแรงจะเป็นแผลไหม้ตามเส้นและก้านใบ ฝักช้ำน้ำสีม่วงคล้ำจนเน่า ให้ฉีดพ่นสารในกลุ่ม แมนโคเซบ หรือ มาเนบ แต่ถ้าระบาดหนักให้ฉีดพ่น อะซ็อกซีสโตรบิน สลับกับ แมนโคเซบ หรือ มาเนบ แต่ไม่ควรพ่นติดต่อกันเกิน 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการดื้อยา.
สะ–เล–เต