ปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทวีความรุนแรงและขยายเป็นวงกว้างไปทั่วโลก ถึงขั้นต้องยกระดับเป็นสงครามการต่อสู้ที่มวลมนุษย์ทุกคนต้องร่วมมือกัน มาตรการในการแก้ปัญหาเชื้อไวรัสต้องจริงจังและเด็ดขาด ทุกประเทศต้องยอมรับในการตัดสินใจของกันและกัน

เศรษฐกิจอาจถึงขั้นวิกฤติล่มสลายไปชั่วขณะ

เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสร้ายแรงตัวใหม่

ภาพที่ทุกคนเห็นปรากฏทางสื่อ กระทรวงสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ ทำงานกันอย่างหนัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือ สตม. เป็นอีกหน่วยงานที่ทำงานหนักไม่แพ้กัน เปรียบเสมือน “ผู้ปิดทองหลังพระ” พูดไม่ได้ทำอย่างเดียว เพราะไม่ได้มีหน้าที่หลัก แต่ต้องระดมกำลังทำงาน ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วทั้งประเทศ เพื่อช่วยในการค้นหาควบคุมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

ตั้งแต่เริ่มแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 หลังปีใหม่จนถึงปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งให้ นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ควบคุมดูแลโดยเฉพาะ มีหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง กรมควบคุมโรค หน่วยแพทย์ทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย กองบัญชาการกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

...

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ขับเคลื่อนการทำงานกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นๆอย่างใกล้ชิด โดยมี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.ควบคุมการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ชี้แจงทำความเข้าใจ

หลังรับคำสั่ง พล.ต.ท.สมพงษ์ ให้เจ้าหน้าที่ ตม.ทุกนาย ทั้งช่องทางบก ทางอากาศและทางน้ำ ร่วมกับแพทย์ประจำด่านควบคุมโรค เพิ่มความเข้มตรวจบุคคลที่มาจากจีน โดยเฉพาะที่มาจาก เมืองอู่ฮั่น หวงกัง อี้โจว และ มณฑลกวางโจว จัดตั้ง War Room Corona Virus เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ให้ผู้บังคับบัญชา สตม.ทุกระดับ โดยเฉพาะหัวหน้าด่าน ตม.ทุกจังหวัด รวมถึงด่านสนามบิน ติดตามสถานการณ์ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม. เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อร่วมกันประเมินติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด

บก.ตม.2 รับผิดชอบสนามบินทั่วประเทศ มีหน้าที่สรุปข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก การแจ้งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติที่มาจากเมืองและประเทศเสี่ยง แยกเป็นจังหวัดแล้วส่งต่อข้อมูลให้กับ ตม.จังหวัดทั่วประเทศไปตรวจสอบพักอยู่จริงหรือไม่ ตรวจวัดไข้ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดหรือแพทย์ประจำจังหวัดให้มั่นใจไม่มีผู้ที่ติดเชื้อและกำชับให้กักตัวอยู่ในที่พักไม่ออกไปไหนเป็นเวลา 14 วัน

ทำให้มั่นใจว่าชาวต่างชาติที่มาอยู่ในไทยไม่มีติดเชื้อร้อยเปอร์เซ็นต์

การออกตรวจสอบของ ตม.พบชาวต่างชาติกลุ่มเมืองเป้าหมายจากประเทศจีนที่เดินทางไปเที่ยวที่ จ.กระบี่ เกิดอาการป่วยที่ รพ.กระบี่ พบว่า ชาวต่างชาติติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดของชาวต่างชาติไว้ได้ หากไม่มีการติดตามอย่างใกล้ชิด อาจเกิดการแพร่ระบาดในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทย

ผลกระทบการแพร่ระบาดรุนแรงทำให้ประเทศจีนประกาศปิดเมืองหลายเมืองและไม่อนุญาตให้ประชาชนเดินทางเข้าออก สตม.ออกมาตรการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม ผ่อนผันการเปรียบเทียบปรับให้คนจีนที่ค้างอยู่ในไทย โดยที่การอนุญาตสิ้นสุดหรือวีซ่าขาด ทำให้คนจีนได้รับความสะดวกจนกว่าการแพร่ระบาดสิ้นสุดลง

การปฏิบัติการทางช่องทางน้ำ กรณีเรือ Westerndam หรือ Diamond Princess ที่หลายประเทศปฏิเสธการเข้าประเทศ เนื่องจากพบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก พล.ต.ท.สมพงษ์ งัดมาตรการเชิงรุก ขอให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุขส่งรายชื่อลูกเรือและผู้โดยสารทุกคนบนเรือ เพื่อนำมาบันทึกลงในระดับบุคคลที่ต้องเฝ้าดู หรือ Watch List จำนวน กว่า 5,000 คน เพื่อสะดวกในการตรวจสอบ หากภายหลังมีการเข้าประเทศไทยทางช่องทางอื่น เช่น สนามบิน

...

สตม. มีฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า ระบบ Biometric ซึ่งจะเก็บข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือ 10 นิ้ว และภาพถ่ายใบหน้าของบุคคลที่เดินทางเข้าออกประเทศ สามารถตรวจสอบข้อมูลการเข้า-ออกได้อย่างแม่นยำ ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนหนังสือ เดินทาง หรือเปลี่ยนชื่อเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

ผบช.สตม.อนุญาตให้กระทรวงสาธารณสุขเชื่อมต่อระบบ Biometric เพื่อสืบค้นข้อมูลบุคคลต่างด้าวเข้า-ออกหรือยังคงอยู่ในประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตาม ตรวจสอบประวัติคนไข้ถึงการเดินทางเข้าออกประเทศ เพื่อป้องกันการปกปิดข้อมูล กรณีคุณปู่ที่กลับจากเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ปกปิดข้อมูลการเดินทาง จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไปยังหลานและภรรยาของตน ซึ่งโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งจะเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และทันเหตุการณ์

หลังกระทรวงสาธารณสุขประกาศพื้นที่โรคติดต่อรุนแรงคือ จีน (ฮ่องกง, มาเก๊า) อิตาลี, อิหร่าน และสาธารณรัฐเกาหลี ลงราชกิจจานุเบกษา 5 มี.ค. ทำให้แรงงานไทยที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรืออยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ “ผีน้อย” ในประเทศเกาหลีใต้กลัวว่าอาจจะติดเชื้อ จึงประสานขอความช่วยเหลือจากประเทศเกาหลีใต้ส่งกลับประเทศไทย ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศเบื้องต้นมีมากกว่า 5,000 คน

สตม.ออกมาตรการเฝ้าระวังเช่นเดียวกับคนต่างด้าวที่มาจากประเทศจีนหรือประเทศกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ประสานกระทรวงสาธารณสุขและผู้ว่าราชการจังหวัด ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับแพทย์หรือสาธารณสุขจังหวัดติดตามตรวจวัดไข้ทุกรายล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ ตม.ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นรายแรก

สตม.เป็นด่านแรกที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับคนต่างด้าวที่เดินทางเข้า-ออกหลีกเลี่ยงไม่ได้

...

น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานหนักอยู่เบื้องหลัง เสมือน “คนปิดทองหลังพระ” วอนประชาชนเห็นใจ ให้กำลังใจและอย่าตำหนิเมื่อมีอะไรผิดพลาด จะเห็นได้จากในช่วงแรกของการระบาดของเชื้อโควิด-19 ประเทศไทยมียอดผู้ป่วยเป็นอันดับสองรองจากจีน แต่มาถึงปัจจุบันยอดผู้ป่วยคนเสียชีวิตของประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 30 ของโลก ทำให้เห็นว่าทุกภาคส่วนของประเทศ ไทยได้ช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่องจริงจัง

เริ่มทำกันตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดใหม่ๆ หากเราไม่มีมาตรการที่ดี ไม่มีการป้องกัน การติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมายที่อาจติดเชื้อ และมาแพร่กระจายโรคให้พี่น้องประชาชนคนไทย เราอาจเป็นเหมือนประเทศไต้หวัน ประเทศอิตาลี และประเทศในแถบยุโรป ที่กำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรงขณะนี้

สังคมต้องการความร่วมมือร่วมแรง ไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดคนหนึ่ง หรือจะมานั่งบอกว่า ไม่ใช่หน้าที่ คงไม่ได้แล้ว เวลานี้ทุกคนต้องช่วยกัน ใครมีอะไรต้องหยิบยื่นออกมาให้กันและกัน เราจึงจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้

“ทีมข่าวอาชญากรรม” ขอเป็นกำลังใจ ให้ รัฐบาล ผบ.ตร. และ ผบช.สตม. ตำรวจตรวจ คนเข้าเมือง แพทย์ พยาบาล ทหาร มหาดไทย และ “จิตอาสา” ทุกท่านที่ร่วมกันทุ่มเท เสียสละ และเสี่ยงเข้ามาช่วยกัน

ในภารกิจสำคัญยิ่งของชาติไทยในครั้งนี้.

ทีมข่าวอาชญากรรม