เป็นเรื่องราวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสังคมไทยกับพฤติกรรมของคนไทยบางกลุ่มที่คิดหาผลประโยชน์จากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 มีการกักตุน โก่งราคาและกักตุน “หน้ากากอนามัย”

ถือว่าเลวร้ายแล้วในช่วงที่คนไทยต้องการหน้ากากอนามัยเพื่อใช้ป้องกันโรคที่ระบาดอย่างหนัก

ยังมีคนบางกลุ่มที่ทำเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีก ถึงขั้นคิดเอา “หน้ากากอนามัย” ชนิดที่ใช้ครั้งเดียวที่ถูกทิ้งนำกลับมาทำความสะอาด ซักรีดจัดบรรจุใส่ซองมาจำหน่ายเป็นหน้ากากของใหม่

ย้อมแมวขายคนไทยด้วยกัน

นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอวิหารแดง จ.สระบุรี นำเจ้าหน้าที่ สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี

มีข้อมูลว่า มีผู้ประกอบการบางคน หาช่องทางตลาดซื้อขายหน้ากากอนามัยขาดแคลน คิดชั่วๆนำหน้ากากอนามัยที่ถูกใช้แล้ว นำกลับมาซักทำความสะอาดบรรจุใส่ซองนำมาขายต่อให้ผู้ที่ต้องการหน้ากากอนามัย

ในที่เกิดเหตุพบชายวัยรุ่น 6 คน ช่วยกันคัดแยกหน้ากากอนามัยเพื่อนำไปซัก บางคนทำหน้าที่รีดแล้วนำไปพักไว้ในถุงพลาสติกเพื่อรอบรรจุลงถุงขนาดเล็กนำไปบรรจุในซองทำให้ดูเหมือนของใหม่นำมาขาย

ภายในร้านพบเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ 1 เครื่อง และหน้ากากอนามัยใช้แล้วรอการซักอยู่อีก 1 ถัง

ลานข้างร้านมีหน้ากากอนามัยใช้แล้วอยู่อีกหลายหมื่นชิ้นและถูกจำหน่ายออกไปแล้ว 2 แสนชิ้น

สอบสวนเจ้าของร้านบอกว่า รับซื้อหน้ากากอนามัยที่ผ่านการใช้แล้วจากโรงงานแห่งหนึ่งมาว่าจ้างให้ชายวัยรุ่นทั้ง 6 คน คัดแยกทำความสะอาด บรรจุถุงใหม่ เพื่อจัดส่งไปจำหน่าย โดยว่าจ้างกลุ่มวัยรุ่นอันละ 1 บาท

ตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด ไม่ให้เป็นแบบอย่างคนอื่น

ส่วนคนในสังคมที่เห็นข่าวต่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมของผู้ประกอบการรายนี้ ที่คิดเอาชีวิตความเป็นความตายของพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่มาเพื่อกอบโกยหาผลประโยชน์

...

ทำเพียงหวังผลกำไร

ไม่สนใจว่าคนไทยที่จำเป็นต้องซื้อหน้ากากอนามัยของเก่าใช้แล้ว ไปใช้เพื่อป้องกันโรคจะเป็นอย่างไร ลองคิดดูหน้ากากเก่าที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง นำมาซักขายใหม่คงไม่น่าจะมีส่วนช่วยป้องกันเชื้อโรคอะไรได้เลย

ยังไม่รวมหากมีเชื้อไวรัสคนที่ใช้แล้ว มีผลทำให้มีผู้เสียชีวิตจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำได้หรือไม่

วันนี้คนไทยทุกคนเป็นห่วงกังวลกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ เชื้อโรคไวรัสโควิด-19

แต่ยังมีคนไทยบางกลุ่มที่คิดเอาชีวิตคนอื่นมาเสี่ยง เพราะเห็นแก่เงินเห็นแก่ผลประโยชน์เท่านั้น

คนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th