เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ผู้ซื้อรถยนต์ที่ได้มาจากการประมูลของสำนักงาน ป.ป.ส. เข้าอู่เพื่อตรวจความเรียบร้อย แต่กลับพบยาบ้า 94,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในรถ เจ้าตัวรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ว่าผู้ชนะการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์จากการยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด ผู้ประมูลนำรถยนต์ไปซ่อมสีที่อู่ใน จ.เชียงใหม่ และช่างที่อู่พบว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกันชนหลังรถยนต์จำนวนมาก
เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบยาบ้ารวม 94,000 เม็ดอยู่ในรถจริง
รถคันนี้ตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้จับ นายวรกันต์ วังคีรี และ นายศรัณย์ภัทร เยอเบาะ พร้อมของกลางยาบ้า 100,000 เม็ด
บรรจุในถุงวางไว้ที่เบาะหลังของรถยนต์ ไม่ได้มีการปกปิด
ไม่ซุกซ่อนอำพราง
ต่อมา ป.ป.ส.มีคำสั่งยึดรถยนต์และพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้รับรถยนต์มาเก็บรักษาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2562 ได้ขออนุมัติและนำออกขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 15 ม.ค.
เลขาฯ ป.ป.ส.บอกว่า ตามระเบียบแล้วก่อนจะขายทอดตลาด เจ้าหน้าที่ก็เข้าตรวจสอบโดยละเอียด แต่ยอมรับว่ากรณีที่พบยาบ้า 94,000 เม็ด เกิดจากการบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ตรวจสอบโดยละเอียด
สำนักงาน ป.ป.ส.บอกว่า ขอบคุณเจ้าของรถยนต์ผู้ชนะการประมูลและช่างซ่อมรถยนต์ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบในทันทีที่พบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในกันชนหลังของรถยนต์
ผู้ชนะการประมูลเจ้าของรถยนต์และช่างซ่อมรถถือเป็นผู้ให้เบาะแส ซึ่งตามระเบียบของทางราชการมีเงินรางวัลตอบแทน ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส.ภ.5 ประสานดำเนินการตามระเบียบ
...
เป็นความผิดพลาดของ ป.ป.ส.
ก่อนที่จะนำรถออกขายทอดตลาด โดยเฉพาะรถของกลางในคดียาเสพติด พบของกลางยาเสพติดจำนวนมากภายในรถของกลาง เจ้าหน้าที่สมควรจะตรวจสอบทุกอย่างโดยละเอียดรอบคอบ
ถ้าหากว่า คนขับรถที่ชนะการประมูล ขับไปเจอด่านตรวจ แล้วถูกตำรวจตรวจค้นจับกุม
คงไม่มีใครเชื่อว่า ยาเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ในรถที่ชนะประมูล เป็นของกลางที่ตรวจยึดไปไม่หมด
คนที่ประมูลมีสิทธิ์ติดคุกหัวโตได้ เพราะคนที่จับอาจไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น...ทั้งที่เป็นความจริง
เป็นบทเรียนทั้งสำนักงาน ป.ป.ส.และผู้ที่ซื้อรถของกลางที่ชนะการประมูล
ต้องตรวจสอบให้ดี.
“เพลิงพยัคฆ์”