“สมคิด พุ่มพวง เดอะ ไซโคพาธ (Psychopath) เมืองไทย”
ณ วินาทีนี้คงไม่มีข่าวไหนดังเท่าฆาตกรต่อเนื่อง “สมคิด พุ่มพวง” ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “คิด เดอะริปเปอร์” ซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่า สังคมน่าจะได้เรียนรู้อะไรมากกว่าการเรียกร้องให้มีการประหาร
“...เคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมผู้ชายคนหนึ่งที่รูปลักษณ์ไม่ได้เป็นที่ดึงดูดทางเพศ แต่กลับมีทักษะในการจีบผู้หญิงให้ตกหลุมรักได้หลายต่อหลายคน แสดงว่าผู้ชายคนนี้ต้องมีอะไรอย่างที่ไม่ธรรมดา และนี่คือ 11 เงื่อนไขของการเป็น Psychopath (ไซโคพาธคือหนึ่งในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม)”
หัวเรื่องและเนื้อหาเกริ่นนำน่าสนใจข้างต้นนี้โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กจากผู้ใช้นามว่า “Siwatt Pongpiachan” ขออนุญาตหยิบยกรายละเอียดทั้งหมดนำเสนอเป็นสาธารณะ เพื่อเปิดมุมมองที่หลากหลาย
ก่อนเข้าสู่เงื่อนไขของการเป็น...“ไซโคพาธ” มีลักษณะเฉพาะหลายอย่างที่เด่นชัด เช่น ขาดหิโรโอตตัปปะ ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของผู้อื่น ขาดการมีส่วนร่วมกับสังคม โกหกได้แทบทุกลมหายใจ ชอบเรื่องที่สร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิต ไม่มีความรับผิดชอบใดๆต่อการกระทำของตนเอง ไม่รู้สึกผิด มีความคิดว่าโลกและจักรวาลหมุนรอบตนเอง มักสร้างปัญหาตั้งแต่เด็ก...เหล่านี้คือลักษณะพื้นฐานที่เด่นชัด ถ้าจะเจาะลึกลงไปคือ
หนึ่ง...ทักษะในการพูดขั้นเทพ แน่นอนถ้าผู้ชายไม่เป็นฝ่ายเริ่มเข้าไปชวนคุยก่อน จะมีสาวที่ไหนมาตกหลุมรัก? จากการอ่านบทสัมภาษณ์ สมคิด มีทักษะขนาดหลอกคนได้ว่าตนเรียนจบทนายมา แสดงว่าต้องมีฝีปากที่ไม่ธรรมดา สอง...สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของเหยื่อได้อย่างแม่นยำ คนปกติทั่วไป หากไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี มักจะแยกแยะสีหน้าของคนที่กำลังอมทุกข์ หวาดกลัว วิตก หรือกำลังตื่นเต้นไม่ออก
...
แต่...พวกไซโคพาธ จะมีความสามารถพิเศษอยู่อย่างคือการมองสีหน้าคนได้ขาด ฟันธงได้ทันทีว่าตอนนี้เป้าหมายกำลังตกอยู่ในภาวะอะไร เพื่อจะได้เดินเกมต่อไปได้ถูก
สาม...มีลูกล่อลูกชน รู้จักการใช้ไม้แข็งไม้อ่อนกับเหยื่อ กรณีสุดคลาสสิกของพวกไซโคพาธ เช่น เวลาเห็นเพื่อนกำลังขัดสนเรื่องเงิน ก็เสนอตัวให้ยืมเงิน เพื่อจะได้ทวงบุญทวงคุณทีหลัง ที่เขาให้ยืมเพราะไม่ใช่มีจิตใจดี แต่เพราะต้องการ “อำนาจ” ในการต่อรอง เพื่อตนจะได้ถือไพ่เหนือกว่าเพื่อน
สี่...เล่นกับอารมณ์คนได้เก่ง มีทักษะในการสร้างดราม่า ผู้หญิงส่วนใหญ่หากได้คุยกับพวกไซโคพาธ มักจะตกหลุมรักได้ง่าย เพราะคนพวกนี้สามารถสร้างความรู้สึกให้ผู้หญิงอยากเป็นที่ยอมรับ ไม่อยากถูกเกลียดได้ง่าย ห้า...ผู้หญิงไม่ได้มองผู้ชายแค่หน้าตาอย่างเดียว คำพูด อากัปกิริยา ท่าทาง การแสดงออกทางใบหน้า ทั้งหมดรวมกันคือการตัดสินว่าผู้ชายคนนี้หล่อ หรือไม่หล่อ ไซโคพาธไม่เคยพูดหรือแสดงออก ในด้านลบของตนเอง จัดเป็นพวกสร้างภาพบวก...“Positive Self Image” ในสายตาเพศตรงข้ามจึงดูหล่อขึ้นมาทันที
หก...ไซโคพาธส่วนใหญ่มีความผิดปกติของสารเคมีในสมอง มนุษย์ทั่วไปเวลาเจอเหตุการณ์คับขันตึงเครียด สมองจะหลั่งฮอร์โมนออกมาทำให้เกิดอาการกระวนกระวาย ซึ่งไซโคพาธจะไม่มีอาการเหล่านี้ พวกเขาเลยดูนิ่ง เท่ แม้ในยามวิกฤติ...จึงดูใจเย็น เรียบเฉย “Keep Look Cool” ได้ตลอดเวลา
เจ็ด...ถ้าคิดว่าเป็นคนดีแล้วผู้หญิงจะตกหลุมรักแล้วละก็บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด เกิน 50% ของผู้ชายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เมินล้วนแล้วแต่มีภาพลักษณ์ของคนดีด้วยกันทั้งสิ้น ไซโคพาธมีความเป็น “Bad Boy” อยู่ในสัญชาตญาณอยู่แล้วจึงไม่แปลกใจว่าทำไมผู้หญิงถึงตกหลุมรักได้ง่าย
แปด...มนุษย์ส่วนใหญ่ใบหน้าซีกซ้ายและซีกขวาจะแตกต่างกัน แต่พวกไซโคพาธ จะมีใบหน้าทั้งสองด้านที่มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน จึงทำให้เกิดความแตกต่างเวลาจ้องมอง ไซโคพาธส่วนใหญ่มักหน้าตาดี
เก้า...First Impression ความประทับใจแรกดีมาก เจอกันแค่ครั้งเดียวก็มักจะได้รับการจดจำ เพราะพูดเก่ง คุยสนุก ใครๆก็ชอบ เท่าที่อ่านข่าว สมคิดเองก็เป็นที่รักเวลาอยู่ในเรือนจำ รู้จักวิธีเอาใจผู้คุม
สิบ...ส่วนใหญ่พวกที่เป็นไซโคพาธ มักจะมีสถานะทางสังคมที่สูง เช่น แพทย์ ทนายความ เจ้าของธุรกิจ ดารา ซึ่งเขาเองก็แอบอ้างตนว่าเป็นทนาย เพื่อใช้สถานภาพทางสังคมเอื้อประโยชน์ในการเข้าหาเหยื่อ สิบเอ็ด...ไซโคพาธส่วนใหญ่หน้าด้าน ประเภทด้านได้อายอด สามารถรุกเข้าไปจีบผู้หญิงได้ตลอดเวลา
ความเป็นจริงที่น่าเศร้าคือจะมีผู้หญิงอยู่กลุ่มหนึ่งที่แพ้ทางผู้ชายสายตื๊อ ยิ่งถูกผู้ชายตื๊อมากเท่าไหร่ ยิ่งสำคัญผิดคิดว่าตนเป็นที่พึ่งของพวกเขา ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่...เขาไม่ได้เข้าหาเพราะต้องการความช่วยเหลือ แต่เพราะเขามองคุณเป็น “เหยื่อ” ต่างหาก
เหลี่ยมมิติฆาตกรรม กรณี “สมคิด พุ่มพวง” เป็นกระแสร้อนแรง อีกโพสต์หนึ่งถูกแชร์ส่งต่อๆกันมา ไม่แน่ใจต้นทางมาจากไหน แต่เป็นอีกมุมคิดที่ควรรู้ ขออนุญาตเผยแพร่ไว้ ณ ที่นี้...จากกรณีนายสมคิด พุ่มพวง ที่สื่อทางประเทศไทย และคนไทยกำลังให้ความสนใจแล้วก็ตื่นตระหนกกับคำว่า “ฆาตกรต่อเนื่อง”
แล้วก็กลายเป็นข่าวดังในช่วงข้ามวันข้ามคืน กลายเป็นประเด็นที่ทุกคนสนใจแล้วก็จับเชื่อมโยงไปต่างๆนานา...การวินิจฉัยว่า “ฆาตกร” คนไหนเป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” ยังไม่เคยมีใครนิยามคำจำกัดความได้อย่างชัดเจนเลย มีแต่พูดบอกต่อๆกันไปโดยอ้างอิงข้อมูลเปรียบเทียบจากในภาพยนตร์ที่เคยดูมาเท่านั้น
...
“... การพยายามพูดถึงคำว่าฆาตกรต่อเนื่องอาจจะมีประโยชน์สำหรับสื่อมวลชนคือทำให้ขายข่าวได้มากขึ้น...แต่ถามว่าเกิดผลเสียไหม อาจจะเกิดผลเสียได้ครับ...ก็คือทำให้ประชาชนตื่นตระหนกแล้วก็หวาดกลัวกันมากจนเกินไป แต่ก็อาจจะได้ประโยชน์ในการช่วยติดตามตัวฆาตกรมาลงโทษบ้าง ...เพราะฉะนั้นการนำเสนอข้อมูลก็คงจะต้องมีความระมัดระวัง เสมือนดาบสองคม...”
ไม่แน่ใจว่าผู้ที่วินิจฉัยจากพฤติการณ์แห่งคดีเหล่านี้ว่าเป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง”... เอาข้อมูลทั้งหมดโดยละเอียดมาจากไหน แล้วเริ่มต้นจากนิยามอะไร?...เรามักจะสับสนกับคำว่าการที่มีการฆาตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยคิดว่าผู้ที่ก่อเหตุจะต้องเป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” หรือ “serial murderer” เสมอ...ซึ่งไม่จริง...
...ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณเป็นนักการเมืองที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนต่างๆแล้ววันนึงมีคนมาขัดผลประโยชน์ของคุณ สัก 10 คนแล้วคุณก็จ้างวานฆ่าทีละคน 2 คน 3 คนจนครบ 10 คนอย่างต่อเนื่อง อันนี้ก็ถือว่าเป็นอาชญากรที่เราเรียกว่า อาชญากรที่มีปัญหาทางด้านบุคลิกภาพ เช่น Psychopathic disorder, Psychpathy หรือ Antisocial personality disorder ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ...“สันดานโจร”
แบบนี้ก็มีการฆาตกรรมอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องมิใช่หรือ...
ในชีวิตจริงเรามีคนที่มีลักษณะเป็นฆาตกรแบบนี้อยู่เยอะแยะมากมายซึ่งอาจจะคาดไม่ถึงและอาจจะเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดรอบตัวคุณโดยที่คุณไม่ทันสังเกต แต่จริงๆแล้วก็มีวิธีการสังเกตและอาจไม่ยากนัก เช่น...การให้เวลาในการคบหาสมาคมกับคนที่รู้จักแล้วศึกษานิสัยใจคอของเขา...การไม่หลงในรูปลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือคำพูดที่ดูมีเสน่ห์ของคนเหล่านั้น
บางคนอาจจะดูมีเสน่ห์มากเกินไปจนทำให้เกิดความลุ่มหลงแล้วขาดสติ ที่เราเรียกว่า superficial charming คือมีเสน่ห์แบบฉาบฉวย...แต่ลึกๆแล้วก็คนที่มีนิสัยสันดานก้าวร้าวรุนแรง
...
...แล้ววันหนึ่งคนที่คุณใช้ชีวิตอยู่กับเขาก็ออกลายออกมาทำให้คุณเดือดร้อน โดยเฉพาะการแสดงความก้าวร้าวรุนแรงออกมาในรูปแบบต่างๆตามข่าวที่เราเห็นกันรายวัน
สำคัญว่า...จะทำตัวอย่างไรไม่ให้ตกเป็น “เหยื่อ” ของ “อาชญากร” หรือ “ฆาตกร” เหล่านี้.