เป็นข่าวฉาววงการพระพุทธศาสนา พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.กก.1 บก.ป. จับกุม นายยอดชาย ทับทิมทอง หรือพระอธิการ ยอดชาย ยัติโก อายุ 41 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบ่อน้ำเงิน อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.3 ต.ซากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรีตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ลงวันที่ 28 ส.ค.2562 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไป จับได้ที่หน้าร้านอาหารตามสั่งในพื้นที่ ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานีช่วงเดือน ก.ค. ตำรวจ สภ.เขาคิชฌกูฏ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านให้ตรวจสอบวัดบ่อน้ำเงินราษฎร์บำรุง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.ซากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี หลังพบพระหลายรูปมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมั่วสุมยาเสพติด มั่วสีกาเปิดเพลงเสียงดัง ไม่ออกรับกิจนิมนต์จากชาวบ้าน และไม่ปฏิบัติตามวินัยของสงฆ์ ตรวจสอบพบที่วัดมีพระลูกวัด 4 รูป ตรวจปัสสาวะพระลูกวัด 2 รูป พบสารเสพติดในร่างกายพระลูกวัดรับสารภาพว่า ยาเสพติดที่นำมาเสพซื้อมาจากพระอธิการยอดชาย เจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระอธิการยอดชายไปตรวจปัสสาวะ แต่พระอธิการยอดชายกลับไม่ยินยอมรีบเดินเข้าไปในพระอุโบสถ อ้างว่าจะขอทำกิจของสงฆ์ ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองกันผ่านไปหลายชั่วโมงจึงยอมให้ตำรวจตรวจปัสสาวะ แต่มีข้อแม้ขอไปตรวจที่วัดวังทอง เพื่อให้เจ้าคณะตำบลรู้เห็น ขอเดินทางไปด้วยตนเอง ให้ตำรวจรออยู่ที่วัดบ่อน้ำเงิน ผ่านไปหลายชั่วโมงพระอธิการยอดชาย ไม่เดินทางกลับมาที่วัด จึงส่งตำรวจไปตรวจสอบที่วัดวังทอง พระอธิการยอดชาย ไม่ได้เดินทางมาตรวจปัสสาวะแต่กลับหลบหนีการตรวจสอบมีหญิงสาวอายุ 30 ปี เป็นช่างเสริมสวยขับรถกระบะมารับพาหลบหนี เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฏิของพระอธิการยอดชาย แต่ไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงสมุดบัญชีธนาคารของวัด ที่มียอดเงินติดบัญชีไม่ถึงร้อยบาท จึงได้นำสมุดบัญชีธนาคารไปตรวจสอบเส้นทางการเงินก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พระอธิการยอดชายแอบเบิกถอนเงินรายได้จากการจัดงานฝังลูกนิมิตจากบัญชีธนาคารของวัด 4 ล้านบาท นำออกไปใช้จ่ายส่วนตัวจนหมด จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับตำรวจกองปราบสืบทราบว่า พระอธิการยอดชายได้หลบหนีมาเปิดร้านอาหารตามสั่งในพื้นที่ จ.อุทัยธานี นำกำลังจับกุม สอบสวน พระอธิการยอดชายให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาลเป็นเรื่องเสียหายวงการสงฆ์.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th