ประเทศไทยยังอยู่ในช่วงฤดูฝน เอื้อต่อการแพร่ระบาดของโรคเชื้อราในพืช กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรผู้ปลูกเบญจมาศเฝ้าระวังการระบาดของโรคใบจุดที่เกิดจากเชื้อรา Septoria sp.จัดเป็นโรคพืชสำคัญชนิดหนึ่ง ทำให้คุณภาพผลผลิตของเบญจมาศลดลง ส่งผลกระทบต่อราคาขายที่เกษตรกรจะได้รับต่ำลง เนื่องจากเบญจมาศเป็นไม้ตัดดอก เมื่อใบซึ่งเป็นองค์ประกอบมีอาการโรคใบจุดหรือราสนิมติดไป พ่อค้ารับซื้อจะให้ราคาต่ำกว่าช่อ ดอกที่สมบูรณ์ปราศจากโรคเข้าทำลายเป็นโรคที่สามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของเบญจมาศ อาการของโรคมักเกิดกับใบล่างก่อน เริ่มแรกพบแผลจุดเล็กค่อนข้างกลมสีน้ำตาลเข้มบนใบ ต่อมาแผลขยายใหญ่ขึ้น บางครั้งขอบแผลมีสีเหลือง บริเวณแผลพบส่วนของ เชื้อราเป็นจุดสีดำเล็กๆ เกิดกระจายทั่วแผล หากระบาดรุนแรง แผลจะลามขยายติดกัน ทำให้ใบไหม้ ร่วงหล่น และ ลุกลามถึงใบยอดจนใบไหม้ทั้งต้นเมื่อพบโรคให้ตัดส่วนที่เป็นโรคและเก็บใบเป็นโรคที่ร่วงหล่นไปทำลายนอก แปลงปลูกหากโรคยังคงระบาดให้พ่นด้วย ไดฟีโนโคนาโซล 25% อีซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ โพรพิโคนาโซล 25% อีซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คลอโรทาโลนิล 50% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตรโดยพ่นสาร 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อพบ ครั้งต่อไปฉีดพ่นห่างกัน 7 วัน และหยุดพ่นสารก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต 7 วันหลังจากหมดฤดูปลูกแล้ว เกษตรกรควรทำความสะอาดและกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก โดยเก็บเศษซากพืชไปทำลายนอกแปลงปลูก จากนั้นตัดแต่งใบแก่ออก เพื่อให้ต้นโปร่งอากาศถ่ายเทสะดวกสำหรับแปลงที่เกิดโรคระบาด งดการให้น้ำแบบพ่นฝอย ให้เปลี่ยนมาใช้ระบบน้ำหยดแทน และพื้นที่ที่เกิดโรคระบาดควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน.สะ–เล–เต