ปัจจุบันการท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ตกำลังกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง และต้องการท่องเที่ยวแบบพรีเมียม
แต่ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ต คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ริมน้ำส่วนใหญ่ไม่มีท่าจอดเรือ หรือท่าเทียบเรือ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่สามารถจอดเรือเพื่อขึ้นไปท่องเที่ยวได้
ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงจัดกิจกรรม “Speed Boat Premium Route @ Ayutthaya by TAT” ภายใต้โครงการ Premium Nostalgia More Legacy เพื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว และขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ
โดยนำ นักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ นำร่องเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ต เมื่อวันที่ 25-26 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา รวม 2 วัน 1 คืน มีนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพเข้าร่วมกิจกรรม 60 คน พร้อมเรือสปีดโบ๊ต 15 ลำ
...
กิจกรรมครั้งนี้เริ่มต้นจาก ท่าน้ำวัดแดงธรรมชาติ อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งมี พระปางนาคปรก องค์ใหญ่ ตั้งเด่นตระหง่านสวยงามอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา
แวะรับประทานอาหารที่ โรงสีสตูดิโอ (เกาะเกร็ด) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นโฮมสเตย์คาเฟ่ และร้านอาหารริมแม่น้ำสุดชิกแห่งใหม่ของเกาะเกร็ด ที่ดัดแปลงมาจากโรงข้าวอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี
อิ่มท้องแล้วล่องเรือต่อไปยัง วัดโบสถ์ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี สักการะ หลวงพ่อโสธร และ หลวงพ่อโต องค์ใหญ่ ก่อนจะล่องเรือต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ จุดจอดเรือรักษ์บางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ใกล้กับ พระราชวังบางปะอิน และ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร
นายไพรัตน์ เพชรยวน นายอำเภอบางปะอิน ไปคอยให้การต้อนรับ พร้อมนำคณะนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในอาคารรักษ์บางปะอินซึ่งเคยเป็นที่ว่าการอำเภอบางปะอินเก่ามาก่อน
จากนั้นออกเดินทางต่อโดยรถบัสปรับอากาศไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเด็ด เนื้อเซอร์ลอยด์จากออสเตรเลีย และหมูดำคุโรบุตะที่ ร้านกรุงเก่าเตี๋ยวเรือ (วัดตูม) สี่แยกโรงพักอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา
ก่อนจะเดินทางไปไหว้พระที่ วัดพนัญเชิงวรวิหาร และ วิหารพระมงคลบพิตร หลังอิ่มบุญกันแล้วเข้าสู่ที่พักโรงแรมคลาสสิค คามิโอ พระนครศรีอยุธยา รับประทานอาหารเย็น พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตสุดเอกซ์คลูซีฟจากศิลปิน ชมพู–ฟรุตตี้
...
...
วันกลับนักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อของฝากที่ตลาดโก้งโค้ง และเยี่ยมชมความงดงามของ วัดไทย ที่สร้างแบบโบสถ์คริสต์ รูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิคที่ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร อ.บางปะอิน
จากนั้นมาขึ้นเรือที่ จุดจอดเรือรักษ์บางปะอิน เพื่อล่องเรือไปรับประทานกุ้งใหญ่แม่น้ำเผา ที่ร้านอาหารริมน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ
กิจกรรมในครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมิรู้ลืม...พร้อมเรียกร้องให้จัดอย่างกว้างขวาง
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผอ.ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ททท. ได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวภาคกลางทางรถยนต์ระดับพรีเมียมมาแล้ว เช่น ซุปเปอร์คาร์ และบิ๊กไบค์
...
ในครั้งนี้ ททท.จึงได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำ ในชื่อกิจกรรม “Speed Boat Premium Route @ Ayutthaya by TAT” เป็นการเดินทางท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ตครั้งแรก และเป็นทริปนำร่องการท่องเที่ยวทางน้ำระดับเอกซ์คลูซีฟ
ภาคกลางมีตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ในด้านตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อคนต่อครั้งยังต่ำอยู่ราว 1,800 บาทเท่านั้น ททท.จึงได้มุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีรายได้สูง หรือกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายได้หันมาท่องเที่ยวในเมืองไทยให้มากขึ้น
“เมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังไม่ได้สัมผัส โดยมีเป้าหมายเพื่อจะขยับตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้ได้ 2,000 บาทต่อคนต่อครั้ง ที่สำคัญยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น รวมถึงสร้างสมดุลให้กับผู้ประกอบการนำเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย” นายอภิชัย กล่าว
นายอภิชัย เผยอีกว่า ททท.ยังวางแผนเพื่อต่อยอดการท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ มีความปลอดภัยสูง เพราะ แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ยังมีความสดใหม่
โดยเฉพาะ จ.ปทุมธานี มีทุ่งนาเขียวขจีน้ำใสสะอาด มองแล้วสบายตา รวมถึงวัฒนธรรมของชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นราชธานีเมืองเก่า เมืองมรดกโลก มีกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในพื้นที่มากมาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เป็นวิถีแห่งสายน้ำ โดยเฉพาะในภาคกลางกับ 7 ลุ่มน้ำที่มีความสำคัญของประเทศ
ขณะที่ นายวิทวัส สุวรรณสุทธิ หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดเส้นทางท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ตสามารถเกิดขึ้นได้จริง
อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวทางน้ำด้วยเรือสปีดโบ๊ตอีกด้วย.
ทีมข่าวภูมิภาค รายงาน