กรณีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี แต่งตัวไฮโซ ใช้ของแบรนด์เนม ตั้งแต่หัวจดเท้า ติดต่อซื้อนาฬิกาหรูระดับไฮเอนด์ “ริชาร์ด มิลล์” ราคากว่า 5 ล้านบาท จาก นายณเสฏฐ์ ทวีพสิษฐ์กุล อายุ 34 ปี เสี่ยหนุ่มชาวหาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าของธุรกิจขายเหล็ก และมีอาชีพเสริมซื้อขายแลกเปลี่ยนนาฬิกาหรู ที่ถูกคนร้ายติดต่อซื้อขายนาฬิกาหรูทางเฟซบุ๊ก หลอกล่อนัดขอดูนาฬิกาที่โรงแรมเดอะ ควอเตอร์ ลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 4

เหตุเกิดช่วง 02.00 น. ของวันที่ 26 เม.ย. ซึ่งคนร้ายติดต่อนัดเจ้าของนาฬิกานำสินค้าราคาแพงของจริงไปให้ดูที่โรงแรม พอสบโอกาสคนร้ายชักอาวุธปืน 9 มม. จี้เอานาฬิกาแบรนด์ดัง ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

ฉกนาฬิกาเรือนล้านไปดื้อๆ

ระหว่างหลบหนีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่สกัดไม่ให้ผู้เสียหายติดตามไปเอาของคืน คดีนี้ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สน.สุทธิสาร เร่งตรวจสอบแผนประทุษกรรมของคนร้ายที่เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้

ตำรวจไล่ติดตามภาพกล้องวงจรปิดทุกเส้นทางทั้งช่วงก่อนและหลังก่อเหตุ

ตรวจสอบยานพาหนะที่คนร้ายใช้หลบหนีเป็น จยย.ซึ่งไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

ตำรวจตั้งข้อสังเกตว่า การนัดซื้อ-ขายนาฬิกาหรูผ่านเฟซบุ๊ก ที่มีคนติดต่อซื้อขาย 2 ครั้ง โดยใช้เฟซบุ๊กคนละชื่อกัน และช่วงเวลาที่มีการนัดซื้อ-ขาย ช่วงดึก ซึ่งมีพยานยืนยันคนร้ายขับรถมาดูเส้นทางหลายรอบ

คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะรู้จัก หรือมีความรู้เกี่ยวกับนาฬิกาอย่างดี

ตำรวจ ตรวจสอบ “ตลาดมืด” ที่รับซื้อขายเทรดนาฬิกามือ 2 แต่ยังไม่พบข้อมูลขายต่อมือ

แต่ที่น่าสนใจคือ พฤติกรรมการซื้อขายสินค้าทั้งใน เฟซบุ๊ก-ไลน์ หรือ สื่อออนไลน์ต่างๆ ในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก หลายครั้งผู้ซื้อถูกหลอกคนขายไม่ส่งสินค้า หรือส่งสินค้าที่ไม่ได้ตามแบบที่ผู้สั่งซื้อ

...

สินค้าที่ส่งมาเป็นเศษกระดาษหรือกล่องเปล่าๆ แล้วคนขายปิดเฟซบุ๊กหลบหนี ติดตามตัวไม่ได้

เป็นคดีความมาบ่อยๆ

แต่สำหรับคดีล่าสุดผู้ขายสินค้าออนไลน์ตกเป็น “เหยื่อ” ถูกคนร้ายที่ติดต่อสั่งซื้อนาฬิกาหรูผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก และนัดดูสินค้ากันตามลำพัง ก่อนคนร้ายฉวยโอกาสใช้อาวุธปืนจี้ชิงนาฬิกาต่อหน้าต่อตาคนขาย

น่าห่วงอย่างมากสำหรับคดีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนมาเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุฉกชิงทรัพย์สินมีค่า

เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่คิดซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน

พอมีปัญหาเกิดขึ้นคนที่ต้องมารับผิดชอบคือ ตำรวจท้องที่ติดตามหาตัวคนร้าย

ทั้งที่เป็นเรื่องที่คิดป้องกันไว้ดีกว่า.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th