เผย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เตรียมทาบทาม “เดชา ศิริภัทร” ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เข้าร่วมเป็นเครือข่ายต่อยอดงานวิจัยกัญชาทางการแพทย์เพราะมีองค์ความรู้เรื่องนี้รอบด้าน ขณะที่เจ้าตัวเสนอความคิดกับเลขาฯ ป.ป.ส. ขอให้ถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 เพราะมีข้อจำกัดทางกฎหมายเยอะมาก คนป่วยไม่สามารถรอได้ ด้านรองเลขาฯ อย. ยืนยันนโยบายปลดล็อกกัญชา เปิดโอกาสให้ครอบครองกัญชาเพื่อการแพทย์ ไม่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

กรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 7 สนธิกำลังทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นที่ทำการมูลนิธิข้าวขวัญ อ.เมืองสุพรรณบุรี จับกุมนายพรชัย ชูเลิศ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ พร้อมของกลางกัญชา 200 ต้น น้ำกัญชาสกัดและอื่นๆอีกหลายรายการ ก่อนออกหมายเรียกนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ มารับทราบข้อหาฐานร่วมกันผลิตกัญชาและครอบครองกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต จนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น

ความคืบหน้า ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 เม.ย. นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี น.ส.รสนา โตสิตระกูล ตัวแทนมูลนิธิสุขภาพไทย พร้อมคณะ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีครอบครองกัญชาเพื่อการแพทย์ ที่อยู่ระหว่างยื่นคำร้องขอนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562

นายนิยมเปิดเผยว่า จากการหารือกับคณะผู้จับกุมนายพรชัย ชูเลิศ เจ้าหน้าที่มูลนิธิข้าวขวัญ ฐานผลิตและครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าใจว่าการตีความกฎหมายของแต่ละฝ่ายไม่เหมือนกัน เพราะมีเงื่อนไขในช่วงนิรโทษกรรมผู้ครอบครองกัญชาในกรอบเวลา 90 วัน ป.ป.ส.ขอชี้แจงว่า หากผู้ต้องการครอบครองกัญชาจะต้องยื่นเรื่องขออนุญาตไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือสาธารณสุขจังหวัดเสียก่อน หากถูกจับกุมระหว่างยื่นเรื่องก็จะมีข้อมูลตรวจสอบได้

...

“สำหรับการยื่นเรื่องขออนุญาตครอบครองนั้น นายเดชาขอเป็นรายบุคคลและไม่ได้ทำในนามมูลนิธิฯ ส่วนของกลางที่ยึดมา เช่น ต้นกัญชา น้ำมันสกัดจากกัญชา หรือเมล็ดกัญชา รวมทั้งเรื่องคดีความ ของนายพรชัย ให้เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนท้องที่ เป็นผู้ดำเนินการ ยืนยันยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเดชา นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับเกี่ยวกับการทำกัญชาเพื่อการแพทย์รักษาผู้ป่วยในอนาคตเพื่อหาทางออกร่วมกันอีกด้วย” นายนิยมกล่าว

ด้านนายเดชากล่าวว่า พูดคุยถึงจุดยืนกับนายนิยมให้เข้าใจว่า ตนไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ทำเพื่อรักษาผู้ป่วย ยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้น มาจากการตีความหมายต่างกัน สำหรับการจับกุมนายพรชัยในระหว่างที่ตนเดินทางไปต่างประเทศนั้น เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำตามกฎหมาย ความคิดเห็นส่วนตัวอยากเสนอถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 เพราะติดปัญหาตรงจุดนี้มากมาย ขอให้มองไปถึงอนาคตว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาได้อย่างไร เพราะข้อจำกัดของกฎหมายในปัจจุบันเยอะมาก ขณะที่ผู้ป่วยไม่สามารถรอได้

วันเดียวกัน ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากประสบการณ์ของ นายเดชา ถือเป็นหมอพื้นบ้านโดยพฤตินัยอยู่แล้ว ขณะนี้เตรียมเข้าร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยของสถาบันศึกษาที่ดำเนินการในเรื่องนี้ โดยให้นายเดชาเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการวิจัย เพราะมีประสบการณ์ องค์ความรู้ในเรื่องของการปลูก การสกัดและการเอากัญชามาใช้อยู่แล้ว เพื่อนำมาต่อยอดขยายติดตามให้เป็นระบบมากขึ้น โดยพัฒนาเป็นศูนย์หลายๆแห่ง เพื่อรองรับการเข้าถึงของประชาชน

“ความร่วมมือนี้เป็นการนำทุนทางสังคมที่มีคุณค่าไปใช้ และมีการพัฒนาต่อยอด ซึ่งไม่ใช่ การทำให้ราคาแพงขึ้น แต่ต้องทำให้มีความถูกต้องในเรื่องขนาดการใช้ ผลข้างเคียง โดยมี รพ.เจ้าพระยา–อภัยภูเบศรเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาและประสานควบคุมคุณภาพ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น” ภญ.สุภาภรณ์กล่าว

ขณะที่ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ชี้แจงถึงกรณีหน่วยงานถูกตั้งคำถามจากสังคม นโยบายปลดล็อกกัญชาทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงหรือไม่ หลังจากที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิข้าวขวัญใน จ.สุพรรณบุรี ถูกจับฐานครอบครองต้นกัญชาและเมล็ดกัญชาว่ากรณีนี้เป็นการดำเนินคดีของตำรวจที่ตีความกฎหมายไปตามที่เห็นสมควร อย.ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ ทั้งนี้การครอบครองกัญชาตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ออกมานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการนิรโทษกรรม 90 วัน นับตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยสิ้นสุดในวันที่ 19 พ.ค.62 ยืนยันว่า อย.เปิดโอกาสให้มีการครอบครองกัญชาเพื่อการแพทย์ ไม่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง