นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยหลังเข้าหารือคณะกรรมาธิการยุโรปด้านอาหารปลอดภัยและผู้บริโภค (DG SANTE) ด้านเกษตร (DG Agri) และด้านการค้า (DG Trade) ณ สำนักงานใหญ่สหภาพยุโรป กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า ได้ชี้แจงถึงความพร้อมในการรับคณะผู้ตรวจประเมินของอียู (Auditor) ที่จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมประเทศ ไทยระหว่าง 22 ม.ค.-4 ก.พ.62 เพื่อตรวจประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของกรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มโรงงานทั้งระบบ ในฐานะที่กรมปศุสัตว์เป็น Competent Authority ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลควบคุมการผลิตสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรปตรวจประเมินระบบการควบคุมและเฝ้าระวังยาสัตว์ตกค้าง (Residues control) ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีก น้ำผึ้ง และสัตว์น้ำที่ส่งออกไปอียู

...

นายธนวรรษ เทียนสิน อัครราชทูต ฝ่ายเกษตรประจำกรุงโรม เผยว่า จากมาตรฐานการผลิตสินค้าปศุสัตว์ไทยที่นอกจากมีมาตรฐานการผลิตเป็นที่ยอมรับของอียู สามารถผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของผู้นำเข้า โดยเฉพาะฝีมือในการตัดแต่งชิ้นส่วนเนื้อไก่สด และแปรรูปได้อย่างประณีต มีความหลายหลากของชนิดสินค้า ส่งผลให้เดือนธันวาคมที่ผ่านมา สินค้าประเภทเนื้อไก่แปรรูปทั้งในรูปของหั่นเป็นชิ้น เสียบไม้ ปรุงสุก ถูกส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น มีปริมาณการนำเข้า 50.1% สหภาพยุโรป 39.4% และประเทศอื่นๆ 10.5%

“ในส่วนคู่แข่งสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลกที่สำคัญวันนี้ประเทศที่ส่งออกอันดับต้นๆยังคงเป็นบราซิล อเมริกา ตุรกี อาร์เจนตินา การที่สินค้าเกษตรไทยส่งออกเพิ่มขึ้น นอกจากมาตรฐานการผลิตที่อียูยอมรับ อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ผลผลิตด้านการเกษตรภายในกลุ่มประเทศอียูมีไม่เพียงพอความต้องการบริโภค การที่สินค้าไทยสามารถผ่านมาตรฐานการตรวจและได้รับการรับรับรองจากอียู อันเป็นมาตรฐานขั้นสูงสุด จึงถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศอื่นๆทำได้ง่ายขึ้น” อัคร-ราชทูตฝ่ายเกษตรประจำกรุงโรมกล่าว.