ข่าวการปรับปลด ครม.โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อาจารย์ยักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นั้นเป็นเพียงข่าวปล่อยที่ไร้สาระเพราะถ้าจะพิจารณาถึงความเอาจริงเอาจังในการทำงานแล้วต้องนับว่า อาจารย์ยักษ์ มีผลงานอยู่แถวหน้าเป็นรัฐมนตรีที่น่าเชื่อถือศรัทธามากที่สุดคนหนึ่ง ผลงานการเดินหน้าในเรื่อง เกษตรอินทรีย์ที่ไร้สารพิษและการต่อต้านสารเคมีที่ใช้ในยาปราบศัตรูพืชเป็นการทำหน้าที่เพื่อเกษตรกรโดยแท้ และเมื่อเอ่ยถึงเกษตรอินทรีย์แล้วผลงานเยี่ยมยอดอยู่ที่ จังหวัดยโสธร จังหวัดเล็กๆทางภาคอีสานที่ทำเรื่องนี้มายาวนานแต่พอมีการตื่นตัวในเรื่องนี้กลับถูกจังหวัดอื่นชุบมือเปิบแอบอ้างเป็นต้นแบบของเกษตรอินทรีย์ไปเสียนี่

นำร่องด้วยเรื่องราวทางการเกษตรเช่นนี้ก็ขอตามต่อด้วยการโยกย้ายที่ผ่านการอนุมัติจาก ครม.ประจำสัปดาห์ ของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการวางตัวในระดับ รองปลัดกระทรวง อธิบดี ซึ่งเป็นตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงทดแทนคนเกษียณและสับเปลี่ยนตามความเหมาะสมคือ 3 รองปลัดกระทรวง มาจากที่ต่างๆกันได้แก่ สุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็น รองปลัดกระทรวง สุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เป็น รองปลัดกระทรวง มีศักดิ์ ภักดีคง ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น รองปลัดกระทรวง

5 อธิบดี และตำแหน่งที่เทียบเท่าแต่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น คือ เสริมสุข สลักเพ็ชร์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เป็น อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เบญจพร ชาครานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน จูอะดี พงศ์มณีรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเป็น เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ จริยา สุทธิไชยา รองปลัดกระทรวง เป็น เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็น เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แถมด้วย อมรรัตน์ เสริมวัฒนากุล ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำและพรรณไม้น้ำสวยงาม (นักวิชาการประมงเชี่ยวชาญ) กรมประมง เป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการประมง (นักวิชาการประมงทรงคุณวุฒิ) กรมประมง

...

จากนั้นเป็นของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่งตั้ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง 4 ราย ดังนี้ จีระศักดิ์ ศรีพรหมมา มาจากรองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พรสม เปาปราโมทย์ มาจากรองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สราญภัทร อนุมัติราชกิจ มาจากผู้ช่วยปลัดกระทรวง สุทธิ จันทรวงษ์ มาจากรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน.....

ติดตามด้วยการแต่งตั้ง รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ จำนวน 2 ราย คือ สมหมาย ลักขณานุรักษ์ มาจากที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ พิมพร โอวาสิทธิ์ ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ ในขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแต่งตั้ง อัญชลิตา กองอรรถ กรรมการร่างกฎหมายประจำ (นักกฎหมายกฤษฎีกาเชี่ยวชาญ) เป็น กรรมการร่างกฎหมายประจำ (นักกฎหมายกฤษฎีกาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ส่วนกระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ จำนวน 4 คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560 ดังนี้ อาคม เวพาสยนันท์ ผู้แทนสมาคมนักผังเมืองไทย จุฑาทิพย์ มณีพงษ์ ผู้แทนสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย สมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้มีคุณวุฒิทางด้านการพัฒนาเมืองและการจัดรูปที่ดิน สุพล ศรีพันธุ์ ผู้มีคุณวุฒิทางด้านการพัฒนาเมืองและการจัดรูปที่ดิน

สำหรับตำแหน่งที่ปรึกษา ด้านต่างๆของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ว่างแล้วว่างเล่าเพราะแต่งตั้งได้ไม่ทันไรก็ได้สิทธิออกไปเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด เสียแล้ว นัยว่านี่เป็นบันไดสำหรับ เด็กสร้าง มากกว่าจะเอาไว้ปรึกษาจริงจังอะไร ตอนนี้มีตั้งใหม่ 2 รายคือ สุธี ทองแย้ม จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็น ที่ปรึกษาด้านการปกครอง และ ชรัส บุณณสะ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็น ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง หวังว่าคำสั่งต่อไปที่จะแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคงไม่มี 2 ชื่อนี้เข้ามาแซงคิวหรอกนะ

“ซี.12”