ชื่อเล่นหลิว ชื่อจริง อ้อมใจ ศรีชู หลิวเป็นคนชอบเที่ยว ชอบพูดภาษาอังกฤษ ทำงานอยู่สายการบินเอมิเรตส์ เป็นแอร์โฮสเตสอยู่ที่เมืองดูไบ
หลิวบอกว่า ทำงานแรกๆตื่นเต้น สามปีก็เริ่มเบื่อ พอปีที่ 6 รู้สึกว่าเสียดายเวลา ตอนนั้นอายุ 26 ปี คิดว่าออกไปเดินทางดีกว่า หลิวมีเพื่อน ชื่อขิม มนิสร์พรรษ์ ไชยะเดชะ ขิมก็รู้สึกเหมือนหลิว จึงตัดสินใจลาออกพร้อมกัน หลิวอยากเที่ยว ขิมอยากทำรายการ ทั้งคู่จบนิเทศศาสตร์ จากจุฬาฯ
หลิวชวนขิมทำรายการเดินทางกลับบ้านแบบแบ็กแพ็ก จากดูไบมาเมืองไทย เดินทางแบบไม่บิน โดยทางรถ เรือ หรืออาจมีจักรยานร่วมด้วย ถ่ายกันเองสองคน รายการเป็นแนวท่องเที่ยว ดูวิถีชีวิตของคนในประเทศอิหร่าน อุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กิซสถาน บ้านเมืองเหล่านี้ ทั้งคู่เองก็ไม่รู้จัก
“แบ็กแพ็กข้ามพรมแดน เราชอบเดินทางช้าๆ”หลิวว่า “ไปคุยกับคนโน้นคนนี้ ด้วยเราเป็นผู้หญิง คนก็เห็นใจ ไปไหนก็มีคนช่วยเหลือ รายการเราทำให้คนดูเห็นว่าจริงๆแล้วโลกสวยงาม คนมีน้ำใจ การเดินทางให้อะไรมากกว่าการไปดูสถานที่ท่องเที่ยว”
หลิวบอกว่า เหมือนเป็นรายการสองข้างทาง เน้นการไปเจอคน ไปอยู่กับชาวบ้านจริงๆ เป็นคาแรกเตอร์ของรายการไปโดยปริยาย พอกลับมาเมืองไทย ก็ตัดต่อซีซันแรกมี 24 ตอน ชื่อรายการ Along way home สอง ข้าง ทาง เอาไปเสนอทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ผลตอบรับออกมาดี ไทยพีบีเอสก็โอเค
ผ่านไปสักพักก็ทำซีซันสอง เป็นแนวอาสาสมัคร หลิวกับขิมอยากไปที่เดียวกันคือ อเมริกาใต้การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางยาวไปหกเดือน ซีซันสอง รูปแบบรายการเน้นเรื่องอาสาสมัคร
เราทำเรื่องอาสาสมัครเยอะ เป็นการประหยัดเงิน หลายๆที่ที่ไป ส่วนใหญ่เป็นฟาร์ม และนี่เองที่บ่มเพาะทำให้เราชอบวิถีชีวิตแบบนี้
...
หลิวบอกว่า มีอยู่ที่หนึ่งอยู่กันแบบชุมชนเล็กๆ ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ เราไปอยู่แล้วรู้สึกชอบชีวิตแบบนี้ มีความสุข แม้ไม่ได้มีเงินทองเยอะ แต่รู้สึกมั่นคงมาก ทำให้ยิ่งสนใจในวิถีชีวิตแบบนี้มากขึ้นไปอีก
เมื่อจบการเดินทางถ่ายทำสารคดีในซีซันที่สอง หลิวตัดสินใจมาอยู่กับธรรมชาติ โดยตั้งใจจะมาลองใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตัวเองมากๆ พึ่งเงินและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้น้อยลง ในสวนมะพร้าวที่ซื้อเอาไว้ ปลูกเป็นบ้านเลขที่ 78/2 หมู่ 8 ตำบลนาชะอัง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
ที่ดินที่หลิวซื้อไว้เมื่อหลายปีก่อน จึงเป็นห้องทดลองชีวิตแบบที่หลิวอยากจะทำ การย้ายถิ่นฐานมาในสถานที่ใหม่ ที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีคนรู้จัก หรือแม้แต่ภาษาพูดที่แตกต่าง หลิวเป็นคนพิจิตร จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่คงเป็นเพราะด้วยความรักสิ่งแปลกใหม่ ผู้คนและวัฒนธรรมที่แตกต่างเป็นทุนเดิม อีกทั้งยังเป็นจังหวะชีวิตที่หลิวได้พบกับรูเบน ปาติโญ่ เดอเลรา หนุ่มสเปนเพื่อนเก่าที่เคยเจอกันระหว่างการเดินทางที่ทิเบต ทำให้การเริ่มต้นชีวิตบนผืนแผ่นดินที่ไม่คุ้นเคยนั้นกลับไม่ยากอย่างที่คิด
รูเบนเป็นนักเคมีวิทยา ทำงานด้านการบำบัดน้ำเสียของโรงงานรีไซเคิล ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน แต่หลังจากผ่านชีวิตการทำงานมากกว่า 10 ปี รูเบนไม่รู้สึกอิ่มตัวกับสังคมเมือง อีกทั้งยังเห็นถึงปัญหาต่างๆทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองใหญ่ ที่นับวันก็ยิ่งแตกต่าง
รูเบนตัดสินใจเดินทางไปเป็นอาสาสมัครที่ประเทศเซเนกัล การได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร ทั้งด้านสาธารณูปโภคและอาหารการกินที่จำกัด ได้ฝึกฝนความอดทนเป็นอย่างมาก
การเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวคนท้องถิ่นนั้น หมายความว่า เมื่อเขากินแค่ข้าวฟ่างเป็นอาหารประทังชีวิต นั่นคือสิ่งที่รูเบนต้องกิน เมื่อต้องออกไปทำไร่กลางพื้นที่แห้งแล้ง ไร้ซึ่งร่มเงาของต้นไม้ใดๆ นั่นก็คือสิ่งที่รูเบนต้องทำ
แปดเดือนกับการเป็นอาสาสมัครเป็นช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดในชีวิต แต่แปดเดือนนั้นทำให้ได้ค้นพบกับความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจนมากขึ้น
หลังจบการทำงานอาสาสมัคร รูเบนตัดสินใจออกเดินทางโดยตั้งใจไว้ว่าจะไม่กลับบ้านก่อนอายุ 30 รูเบนเดินทางจากสเปนมาสู่เอเชีย บนเส้นทางทรานไซบีเรีย ประเทศไทยเป็นจุดหมายแรกในการเดินทางของเขา
หลังจากที่รูเบนรู้ว่าหลิวตั้งใจอยากมาลองใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตัวเองในสวนมะพร้าว รูเบนเองก็อยากที่จะมาช่วยและเรียนรู้การใช้ชีวิต สิ่งแรก ของเส้นทางการพึ่งพาตัวเองคือ อาหาร ทั้งคู่จึงพยายามสร้างแหล่งอาหารบนผืนดินทรายติดทะเล ที่หลายต่อหลายคนบอกว่าไม่เหมาะกับการเพาะปลูกใดๆนอกจากมะพร้าว
สามปีกับความพยายามปรับปรุงพื้นดิน ทั้งคู่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะไม่ใช้สารเคมีใดๆในที่ดิน จากที่ไม่เคยรู้จักการใส่ปุ๋ย ก็เริ่มมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้ ผืนดินที่เคยมีแต่ต้นมะพร้าวก็เริ่มมีพืชผักสวนครัวไม้ดอกไม้ผลอยู่ทั่วสวน
ตอนนี้ปลูกแต่ผักพื้นบ้าน เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว มะระขี้นก ผักหวาน มะรุม ผักพวกนี้มีประโยชน์มาก เราจะไม่สู้กับธรรมชาติ ผักไหน ปลูกไม่ได้ เราก็ไม่ปลูก เพราะดินเราไม่เหมาะ “เราไม่ได้คิดถึงการขาย” หลิวว่า “เป้าหมายของเราคือการปลูกโดยไม่ต้องซื้อจากข้างนอกได้ 100% ถือว่าประสบความสำเร็จ เราไม่ได้กินข้าวนอกบ้านก็เลยกินมังสวิรัติไปโดยปริยาย”
หลิวบอกว่า ผลผลิตทางการเกษตร ถ้าขายสดๆไม่ได้อะไรเท่าไหร่ ต้องเอามาแปรรูปถึงจะเพิ่มมูลค่า ที่นี่มีแต่มะพร้าว เราสนใจเรื่องสุขภาพ ก็อยากทำน้ำมันมะพร้าว แต่หลังๆตลาดน้ำมันมะพร้าวมีมาก ก็เอาน้ำมันมะพร้าวมาทำสบู่
เราทำกันเองสองคน ทำเท่าที่ทำได้ เอาความรู้จากอินเตอร์เน็ตมาทดลองทำ ตอนแรกแค่คิดว่าอยากจะใช้เอง ไม่อยากซื้อ เราก็ทำไปเรื่อยๆ เอาให้คนอื่นลองใช้แล้วเขาก็ชอบ ก็เริ่มทำขาย สบู่ทำมาแล้วสองปี แล้วมาขายทางเฟซบุ๊ก อีกอย่างเราชอบอยู่บ้าน ก็เปิดร้านเล็กๆอยู่ที่บ้าน
...
หลิวบอกว่า เป้าหมายของเราไม่ต้องการอะไรเยอะ ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงิน แค่ลดการใช้จ่าย ถ้าไม่จำเป็นจะต้องซื้อ ก็ไม่จำเป็นจะต้องหาเยอะ อย่างมากก็แค่มีเงินไว้ในความมั่นคงของอนาคต เพราะเรามีบ้านอยู่แล้ว เราพยายามฝึกใช้เงินให้น้อยมากกว่าการหาเงินให้เยอะๆ เหมือนเป็นการลดกิเลส
ตอนหลิวเป็นแอร์ ถือเป็นอาชีพที่ค่อนข้างได้เงินมาก แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ใช่ความสุข ถ้าเราลาออกจากการเป็นแอร์ก็คือจบ คิดว่าตรงนี้ไม่ใช่ความมั่นคง
แต่ตอนเดินทางได้ไปอยู่ในฟาร์มที่สามารถผลิตทุกอย่างเองได้ รู้สึกว่าอันนี้คือความมั่นคง ไม่มีความกลัวว่าต่อไปเราจะยังไง ด้วยตัวเองไม่ได้เป็นคนติดกับแบรนด์ หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เราก็เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาก พออยู่ต่างจังหวัดก็รู้สึกว่าชีวิตง่ายกว่า รู้สึกเข้ากับตัวเองมากกว่า
หลิวไม่คิดว่างานแอร์จะเป็นงานไฮโซ หรูหรา แต่หลิวคิดว่าอยู่ที่คาแรกเตอร์ของคน ขิมก็มาแนวเดียวกัน กำลังสร้างบ้านดินอยู่ที่ชลบุรี
เราคิดว่าก่อนหน้านี้เราไปลองมีเงินมาบ้างแล้ว อยากจะซื้ออะไรก็ซื้อได้ แต่ตอนนั้นไม่คิดว่ามีความสุข สิ่งเดียวที่ชอบคือชอบเที่ยว ชอบเจอผู้คน ก็คิดว่าไม่ได้สำคัญมาก ต้องขอบคุณอาชีพแอร์โฮสเตส ถ้ายังไม่ได้เป็น อาจจะยังอยากกระเสือกกระสนที่จะเป็น อยากหาตังค์ อยากรวย
แต่พอไปถึงจุดหนึ่ง เรารู้สึกว่าไม่รู้จะเอาเงินไปใช้อะไรและไม่มีความสุขด้วย
อนาคตเราอยากให้คนมาที่บ้าน ก็ทำร้าน มีอะไรก็เอาไปวางขาย ของที่เราทำหรือของที่รูเบนปลูกขายได้ พอจะดำรงชีพ เราก็มีความสุขแล้ว เราชอบดูชาวบ้านเป็นตัวอย่าง วิถีชีวิตแบบชาวบ้าน เรามั่นใจว่ามีความสุขกว่าคนเมือง
หลิวและรูเบนวางแผนเก็บเงินสดเพื่ออนาคต เตรียมเงินสำหรับลูก เป้าหมายจะขยายไปพื้นที่ด้านหลัง ปีนี้จะลองปลูกข้าว ข้าวเป็นอะไรที่เราอยากปลูกตั้งแต่แรก แต่ยังไม่พร้อมและไม่มีความรู้.
...