ทิเบตถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยความงดงามของธรรมชาติยากจะหาคำบรรยาย จากภูมิประเทศตั้งอยู่บนที่สูงที่สุดในโลก เกือบ 4,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนพื้นที่ประมาณ 2.5 ล้านตารางกิโลเมตร รวมทั้งมนต์เสน่ห์ของวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จิตวิญญาณอันลึกซึ้ง กับวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่ที่ยังคงรักษาไว้จนถึงทุกวันนี้ในโอกาสพิเศษที่ปีนี้รัฐบาลจีนจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี การประกาศการก่อตั้ง “เขตปกครองตนเองทิเบต” หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการของจีนว่า “ซีจ้าง” เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2508 ร่วมด้วย “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน” ครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน ทีมข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้รับโอกาสไปเยือนดินแดนแห่งหลังคาโลกแห่งนี้ ร่วมกับคณะผู้สื่อข่าวและนักวิชาการจาก อินเดีย ญี่ปุ่น มองโกเลีย เนปาล ศรีลังกา รวมไปถึง รัสเซีย และสวิตเซอร์แลนด์ ตามคำเชิญของกระทรวงการต่างประเทศจีน ผ่านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อสัมผัสความงดงามตามธรรมชาติ และการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและวิถีชีวิตในสังคมปัจจุบัน ท่ามกลางความร่ำรวยทางด้านวัฒนธรรมและประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิมต้องยอมรับว่าการเดินทางไปทิเบตครั้งนี้เป็นประสบการณ์น่าจดจำไม่รู้ลืม นอกจากจะเป็นการไปเยือนดินแดนของจีนเป็นครั้งแรกแล้ว ยังประเดิมด้วยดินแดนสูงเสียดฟ้าเป็นจุดเริ่มต้น จึงนับเป็นเรื่องพิเศษ ขณะที่การเดินทางจาก นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ยังใช้เวลาไม่นาน เพียงประมาณสองชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึง ท่าอากาศยานนานาชาติลาซา กงการ์ ซึ่งตั้งอยู่บนที่สูง 3,570 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในสนามบินสูงสุดในโลก รายล้อมด้วยขุนเขา มองเห็นกลุ่มเมฆล่องลอยอยู่ใกล้ตัว เปรียบเสมือนประตูสู่ความมหัศจรรย์ของทิเบตไม่นานนักเจ้าภาพได้มาต้อนรับทั้งคณะด้วยการคล้องคอด้วย “ผ้าคาตะ” สีขาวบริสุทธิ์ ตามธรรมเนียม คิดว่าไม่ต่างจากการมอบพวงมาลัยต้อนรับขับสู้ผู้มาเยือนของคนไทยแน่นอนว่าการมาเยือนภูมิภาคที่สูงที่สุดในโลก อาจทำให้เกิดความกังวลถึงผลกระทบต่อสุขภาพตามคำขู่ของผู้มีประสบการณ์หลายท่านอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ไกด์ชาวทิเบตได้ให้คำแนะนำว่า “อย่าไปกังวลจดจ้องแต่เรื่องความสูง ปล่อยให้ร่างกายค่อยๆปรับตัวตามธรรมชาติ เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมพร้อมรับอุณหภูมิที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันและกลางคืน พร้อมย้ำด้วยว่าไม่แนะนำให้อาบน้ำในวันแรกที่มาถึง ที่สำคัญยังเตือนให้ดื่มน้ำมากๆ เดินช้าๆ กินช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน” นอกจากนั้นต้องไม่ลืมที่จะให้เกียรติเคารพวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น รวมทั้งปฏิบัติตามแผนการเดินทาง ไม่แอบหนีเถลไถลออกนอกเส้นทางและเมื่อพักผ่อนให้ร่างกายปรับตัวได้กับการอยู่บนพื้นที่สูงอากาศเบาบาง ปริมาณออกซิเจนน้อยลงพอประมาณแล้ว จากนี้ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะมาหยุดยั้งการสำรวจความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของทิเบตของเราได้ หนึ่งในจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ แนะนำว่าไม่ควรพลาดก็คือ “จุดชมวิวข่าติ้งโกว” ในหุบเขา “ข่าติ้ง” มีความหมายตามภาษาทิเบตว่า “a fairly land on earth” หรือจะแปลว่า “แดนสวรรค์บนปฐพี” ก็คงไม่เกินจริงข่าติ้งโกวตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,980 เมตร เป็นอีกสถานที่หนึ่งเต็มไปด้วยทิวทัศน์ตระการตา ต้นไม้เขียวชอุ่มทั้งไม้ใบกว้าง ป่าไผ่ และต้นสนรวมทั้งไซเปรส เบื้องหน้ามองเห็นภูเขาสูงตระหง่านทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ และหุบเขาลึก ให้ความรู้สึกราวกับเดินเข้าป่ายุคดึกดำบรรพ์ เมื่อมองเห็นแวบแรกยังชวนให้จินตนาการถึงฉากสำคัญในนวนิยายกำลังภายในที่เหล่าจอมยุทธ์เดินทางมาประลองฝีมือบนยอดเขาสูงเพื่อชิงความเป็นเจ้ายุทธจักรทั้งที่ในความจริงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีนหนาตาทั้งหนุ่มสาวและผู้สูงอายุกลุ่มใหญ่หลายกลุ่มอย่างไรก็ตาม สถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ “น้ำตกศักดิ์สิทธิ์เทียนโฟ” ไหลตรงดิ่งลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 200 เมตร ไกด์ยังแนะนำว่าตอนปีนเขาขึ้นไปใกล้ถึงน้ำตก อย่าลืมพยายามสังเกตดูทางด้านซ้ายของน้ำตก จะมองเห็นหินและหน้าผาก่อตัวมีรูปทรงคล้ายพระพักตร์ของพระศรีอริยเมต ไตรย หรือที่ชาวทิเบตเรียกกันว่า Qiangba เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับรูปร่างลวดลายขององค์ดาไล ลามะ รวมทั้งเจ้าแม่กวนอิม และเทพผู้พิทักษ์ทั้งหลาย บนหน้าผาไม่ไกลกันนัก ซึ่งชาวทิเบตผู้ศรัทธาแรงกล้าเชื่อกันว่าเป็นของขวัญจากสวรรค์ และสัญลักษณ์ของการปกป้องคุ้มครองจากทวยเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เดินป่าปีนเขาดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงเวลาร่ำลาทั้งนี้การเดินทางเข้าเขตปกครองตนเองทิเบต หรือซีจ้าง ทิเบตนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องมีใบอนุญาตเดินทางเข้าทิเบตโดยเฉพาะ แม้ว่าปัจจุบันคนไทยสามารถเดินทางเข้าจีนโดยไม่ต้องขอวีซ่าก็ตาม ขณะที่บริษัททัวร์ในท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาตจากทางการจะเป็นผู้ดำเนินการให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติยังต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เช่น ต้องเดินทางไปกับทัวร์ท้องถิ่นที่มีไกด์นำเที่ยว รวมทั้งห้ามเดินทางในทิเบตด้วยตนเองคราวหน้าจะพาไปไต่ระดับความสูงขึ้นที่ 3,656 เมตรเหนือน้ำทะเล ที่ “ลาซา” เมืองแห่งแสงแดด ดินแดนแห่งศรัทธาของพุทธศาสนานิกายทิเบตบนหลังคาโลก ไฮไลต์สำคัญของซีจ้างต่อไป.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “7 วันรอบโลก” เพิ่มเติม