มาตรการตอบโต้ทางภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ มีทั้งบวกทั้งลบ มีคนอเมริกันบางส่วนออกมาประท้วงมาตรการของ ทรัมป์ เพราะกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะราคาสินค้าบางอย่างที่เพิ่มขึ้นทำให้ปากท้องของคนอเมริกันเดือดร้อนไปด้วย ยกตัวอย่าง ราคาสินค้าประเภทอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคที่แพงขึ้นทันตาเห็น ราคาไข่เพิ่มขึ้น 200% ในบางรัฐ จะว่าไปแล้วในเบื้องต้นที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมไปแล้ว ประมาณ 25% คนที่เดือดร้อนก็คือผู้ผลิต ส่วนผู้บริโภคจะค่อยๆได้รับผลกระทบไม่ใช่แบบทันทีทันใด แต่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการต้นทุนสูงขึ้นทันที ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้การขึ้นราคาสินค้า ก็ไม่ต่างจากการทุบหม้อข้าวตัวเอง

ยกตัวอย่าง อุตสาหกรรมรถยนต์ รถยนต์แบรนด์อเมริกา ที่มีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศต่างๆหรืออยู่ในอเมริกาเองก็ตาม ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ทั้งขึ้นทั้งล่อง การจะย้ายฐานการผลิตไปสหรัฐฯ แล้วส่งออกไปยังประเทศต่างๆก็เจอกับมาตรการ ตอบโต้คืน อีก ไม่รอดทั้งคู่ ในขณะที่รถยนต์แบรนด์จีนโดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า ใช้กลยุทธ์ ถูกกว่าดีกว่า ตามด้วยมาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ ทุ่มตลาดขนาดนี้มีหรือแบรนด์อื่นจะรอด รถยนต์แบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น ต้องดิ้นเอาชีวิตรอดไปตายเอาดาบหน้า งานมอเตอร์โชว์บ้านเราที่ผ่านมาก็เห็นฤทธิ์เดชรถยนต์ค่ายจีนแล้ว เทคโนโลยีดีกว่า ถูกกว่า ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมาเป็นอันดับ1 แซงหน้ารถญี่ปุ่นไปแบบไม่คาดฝัน

สิ่งที่จีนถือเป็นไม้เด็ดในการต่อสู้กับมาตรการตอบโต้ทางภาษีของทรัมป์ก็คือ การระงับส่งออกแร่หายาก ไปสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯก็น่าจะเดาออกล่วงหน้า ถึงได้ยื่นเงื่อนไขจะเอาแร่หายากจาก ยูเครน แลกกับความช่วยเหลือทางทหาร ในขณะที่ ผู้นำยูเครน ออกมาแถลงยอมอ่อนข้อให้แร่หายากกับสหรัฐฯ และยังแถลงเองว่า จับชาวจีนที่มาช่วยรัสเซียรบกับยูเครนได้อีกต่างหาก อีนุงตุงนังไปหมด สรุปว่า จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ ก็ยังจับมือกันแน่น ส่วน สหรัฐฯ พันธมิตรเริ่มจะน้อยลงทุกวัน อีก 90 วันที่มาตรการภาษีตอบโต้บังคับใช้เต็มรูปแบบจะเป็นการชี้ชะตาทรัมป์ไปในตัว

...

แร่หายาก ที่ว่า หรือ Rare earths เป็นกลุ่มธาตุโลหะ 17 ธาตุ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงหลายประเภท ซึ่งเป็นแร่ที่หายากและมีกระบวนการสกัดสารเคมีที่เป็นพิษด้วย ที่เห็นทั่วไปจะนำมาผลิตลำโพง คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดไดรฟ์ มอเตอร์ยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องยนต์เครื่องบินเจ็ต และยังมีความสำคัญต่อเทคโนโลยีทางการแพทย์ แต่ที่น่าสนใจ การนำมาใช้เทคโนโลยีด้านกลาโหม ซึ่งจีนผลิตแร่หายากประมาณ 61% ของทั้งโลกและมีการแปรรูปถึง 92% ทำให้จีนผูกขาดแร่หายากเอาไว้ในมือทั้งหมด

เมื่อเป็นของสำคัญจีนจึงมีการเข้มงวดในการส่งออกแร่หายากเป็นพิเศษและ สหรัฐฯก็ต้องพึ่งพาแร่หายากจากจีนถึง 70% ตราบใดที่สหรัฐฯยังส่งออกอาวุธสงครามเป็นหลัก แร่หายากจึงเป็นข้อต่อรองที่ดีที่สุดของจีน

การที่สหรัฐฯยังไม่กล้าฟันธงมาตรการภาษีตอบโต้กับจีนและยังอยากได้เกาะกรีนแลนด์ที่มีแหล่งแร่หายากเป็นอัน 8 ของโลก ก็เพราะเหตุนี้เอง และนี่ต่างหากที่เรียกว่า ยุทธศาสตร์ สงครามการค้า ที่ต้องใช้ปัญญาและวิสัยทัศน์.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม