เมื่อวันที่ 7 ส.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศเข้มข้นของการเมืองสหรัฐฯ ก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไปในเวลาไม่ถึง 90 วัน โดยมุ่งไปที่ความเคลื่อนไหวของนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี และนายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินเนโซตา หลังได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการแห่งชาติพรรคเดโมแครต (DNC) ให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี ตามลำดับ

แฮร์ริสขึ้นเวทีหาเสียงที่เจอราร์ด คอลเลจ เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย เปิดตัววอลซ์เป็นคู่หูลงชิงชัยตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ท่ามกลางเสียงต้อนรับอย่างคึกคักจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คน ต่างจากบรรยากาศเมื่อนายโจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นเวทีเมื่อเดือนก่อนโดยแฮร์ริสที่ยิ้มกว้างไม่หุบ สวมพาวเวอร์สูทคัตติ้งเนี้ยบ สีน้ำเงินเข้มเสริมบทบาทผู้หญิงมาดมั่น สวมทับเสื้อเบลาส์ผ้าซาตินผูกโบว์สีชมพูพีช สไตล์ประจำตัว นับแต่รับตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ากันกับวอลซ์ที่สวมสูทดำและผูกเนกไทสีน้ำเงิน สีของพรรคเดโมแครต

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกระตุ้นอารมณ์ของผู้สนับสนุนด้วยการกล่าวว่าแม้จะเป็นรอง แต่ก็มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ จะไม่ยอมให้สหรัฐฯต้องกลับสู่วิถีการเมืองของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ขณะที่แฮร์ริสแนะนำวอลซ์ซ้ำๆ ว่า “โค้ชวอลซ์” เพื่อเป็นการยกย่องและย้ำเตือนถึงช่วงเวลาการเป็นครูสังคมศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมทั้งเป็นโค้ชทีมฟุตบอล นอกเหนือไปจากการเป็นทหารผ่านศึกของกองกำลังพิทักษ์ชาติเป็นเวลายาวนานถึง 24 ปี ขณะเดียวกันแฮร์ริสยังชื่นชมว่าวอลซ์เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นรองประธานาธิบดีแบบอย่างที่อเมริกาสมควรจะมี

...

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าแฮร์ริสมีเวลาเพียง 16 วัน ในการตัดสินใจเลือกผู้ที่สามารถเชื่อมโยงและเข้ากันได้ดีกับเธอ แต่เมื่อจบการสนทนาเป็นเวลา 90 นาที ร่วมกับวอลซ์ รวมทั้งนายจอช ชาปิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย และนายมาร์ค เคลลี วุฒิสมาชิกจากรัฐอริโซนาที่ห้องอาหารของหอดูดาวกองทัพเรือสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา แฮร์ริสก็ตัดสินใจใช้สัญชาตญาณเลือกม้ามืดอย่างวอลซ์ ซึ่งคนใกล้ชิดเผยว่าเนื่องจากความมีอีโก้น้อยและความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายใกล้เคียงกับแนวทางที่แฮร์ร์ริสปฏิบัติในทำเนียบขาวมาโดยตลอด.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่