ในขณะที่การประชุมเพื่อสันติภาพยูเครนที่สวิตเซอร์แลนด์กำลังจะเริ่มขึ้น ในช่วงปลายสัปดาห์หน้า สัญญาณจากรัฐบาลชาติตะวันตกก็ยังคงชัดเจนมากขึ้น เรื่อยๆว่า ทิศทางข้างหน้าจะไม่ใช่หนทางของสันติภาพแต่อย่างใด โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าว ต่อที่ประชุมรัฐสภา ยืนยันว่าสถานการณ์ความขัดแย้ง ในยูเครนถือเป็นเส้นทางที่ยังอีกยาวไกลกว่าจะถึงจุดหมาย รัฐบาลเยอรมนีจะใช้ที่ประชุมดังกล่าวในการ ขอความร่วมมือจากประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังรัฐบาลรัสเซียว่าพวกเรายืนหยัดอยู่เคียงข้างกฎหมายระหว่างประเทศ และการประชุมดังกล่าวจะไม่มีการเจรจาสันติภาพแต่อย่างใด

คำประกาศของนายโชลซ์ยังมีขึ้นหลังจากรัฐบาล เยอรมนีอนุมัติแผนการป้องกันประเทศฉบับใหม่ เพื่อเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามใหญ่ ในยุโรป โดยนางแนนซี เฟเซอร์ รมว.มหาดไทยเยอรมนี ระบุว่า แผนการเตรียมพร้อมทำสงครามเป็นผลพวงมาจากความก้าวร้าวของรัสเซีย ที่ได้ทำให้สถานการณ์ความมั่นคงของยุโรปเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง แผนการดังกล่าวได้เตรียมการไว้ทั้งเรื่องการเกณฑ์ทหาร การนำพลเรือนมาทำหน้าที่ผู้ช่วยพยาบาล หรือคนอบขนมปัง การควบคุมการแจกจ่ายอาหาร การบังคับให้ภาคอุตสาหกรรมผลิตแต่อาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อทำสงคราม การอพยพประชาชนออกจากบางส่วนของประเทศ ไปจนถึงการใช้สถานีรถไฟใต้ดิน ลานจอดรถใต้ดิน และอาคารใต้ดินอื่นๆเป็นที่หลบภัยจากการโจมตีด้วยจรวดหรือขีปนาวุธ

นอกจากนี้ แผนการรับมือสงครามฉบับใหม่ยังมองถึงการขยายอิทธิพลขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ไปยังภาคตะวันออกของยุโรป โดยมองเยอรมนีเป็นศูนย์กลางของกลุ่มชาติพันธมิตรที่จะทำให้หน้าที่ส่งความช่วยเหลือไปยังชาติยุโรปอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มชาติบอลติกที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย

...

ด้านนายบอริส พิสทอเรียส รมว.กลาโหมเยอรมนี ยังกล่าวด้วยว่าประเทศเยอรมนีต้องมีความพร้อมที่จะทำสงครามภายในปี 2572 รัฐบาลจำเป็นต้องขยายกำลังพลของกองทัพในอนาคต ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจรวมถึงมาตรการเข้ารับใช้ชาติที่จำเป็น ทั้งนี้ เยอรมนีได้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารไปในปี 2554

วันเดียวกัน นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าหารือกับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ที่กรุงปารีส โดยกล่าวขอโทษนายเซเลนสกีที่สหรัฐฯส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ล่าช้า ขณะที่ก่อนหน้านี้นายไบเดนได้ให้สัมภาษณ์สื่อออสเตรเลียว่า สหรัฐฯจะไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลของอเมริกันในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย รวมถึงห้ามดำเนินการโจมตีต่อกรุงมอสโก.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่