ที่ผ่านมาการลงทุนก้อนโตใน “แค็ตตาล็อก เพลง” ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นศิลปินแถวหน้าระดับตำนาน มีผลงานเพลงได้รับการยอมรับชื่นชอบมายาวนาน

ล่าสุดรายงานจากบลูมเบิร์กเปิดเผยว่า โซนี มิวสิค ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่กำลังเจรจาต่อรองขอซื้อแค็ตตาล็อกเพลงของ “Queen” (ควีน) วงร็อกยิ่งใหญ่ตลอดกาล สัญชาติอังกฤษ ในสนนราคาสมศักดิ์ศรี 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 36,753 ล้านบาท เพื่อครอบครองลิขสิทธิ์เพลงฮิตมากมายเช่น We will Rock You, We are The Champion, Bohemian Rhapsody, Under Pressure และ Another One Bites the Dust เป็นต้น รวมทั้งรายได้จากภาพยนตร์ชีวประวัติ Bohemian Rhapsody ที่ออกฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกในปี 2561 ไปจนถึงรายได้จากสินค้าเมอร์เชนไดส์ต่างๆ และโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ

หากตกลงกันได้อาจขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในข้อตกลงซื้อขายลิขสิทธิ์เพลงครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา ควีน ที่ประกอบด้วย ไบรอัน เมย์, โรเจอร์ เทย์เลอร์, จอห์น ดีคอน และเฟรดดี เมอร์คิวรี นักร้องนำผู้ล่วงลับ เป็นหนึ่งในวงที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจมากที่สุดในประวัติ ศาสตร์ดนตรี มียอดขายรวมมากกว่า 300 ล้านแผ่นทั่วโลก ขณะที่เพลง Bohemian Rhapsody ยังติดโผเพลงร็อกที่มียอดสตรีมสูงสุด ในขณะที่ตัวภาพยนตร์ยังกระตุ้นให้แฟนเพลงรุ่นใหม่ที่ไม่เคยรู้จักหันมาฟัง รวมทั้งแฟนดั้งเดิมหวนกลับมารำลึกความหลังอีกครั้ง ดันยอดขายเพลงของวงพุ่งกระฉูดเกิน 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2562 หลังภาพยนตร์ออกฉาย สื่อใหญ่ในวงการเพลงอย่างบิลบอร์ดยังประมาณการว่าควีนมีรายได้ค่าลิขสิทธิ์สูงประมาณ 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลิขสิทธิ์เพลงสร้างรายได้ให้ศิลปินอย่างมั่นคง จากทั้งยอดขายแผ่นเสียง และรายได้จากการสตรีม กลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน ร็อกสตาร์รุ่นเก๋า อย่างบ๊อบ ดีแลน, บรูซ สปริงสทีน, นีล ยัง ต่างประสบ ความสำเร็จในการส่งต่อผลงานให้นักลงทุนมืออาชีพ แลกผลตอบแทนก้อนโตขณะที่วงคิส วงร็อกอเมริกันก็เพิ่งขายลิขสิทธิ์เพลง และเครื่องหมายการค้าในราคา 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 11,010 ล้านบาท) ไปเมื่อ เม.ย.นี้เอง

...

ส่วนผลการเจรจาซื้อขายของวงควีนจะเป็นอย่างไรต้องคอยติดตาม.

อมรดา พงศ์อุทัย

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม