เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสถานเอกอัคร ราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย แจ้งมาว่า ในวันที่ 14 พ.ค. (พรุ่งนี้) ถือเป็นวันครบรอบ 76 ปี ของการสถาปนาประเทศอิสราเอล
ด้วยเหตุนี้เอกอัครราชทูต “ออร์นา ซากิฟ” จึงขอโอกาสนี้ในการส่งสาสน์ถึงท่านผู้อ่าน ต่อความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างไทย-อิสราเอล โดยกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 76 ของการสถาปนาประเทศอิสราเอล แต่ทว่าเราเฉลิมฉลองวันชาติด้วยอารมณ์ที่ผสมผสานกัน ระหว่างความยินดีและความหม่นหมอง
เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและความสำเร็จอันน่าทึ่งของเรา แต่กระนั้นก็ยังถูกบดบังด้วยความท้าทายอันใหญ่หลวง ที่เราต้องเผชิญในปีที่ผ่านมา
การสังหารหมู่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่เราต้องจดจำตลอดไป ความเจ็บปวดและความเศร้าโศกที่เกิดจากการก่อการร้ายอันโหดเหี้ยม ยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจ เราไว้อาลัยต่อชีวิตที่ดับสูญ และชื่นชมบรรดาผู้ที่ร่วมกันปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนอย่างกล้าหาญ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นทิ้งไว้ซึ่งแผลเป็นอันจะคอยย้ำเตือนเราอยู่ตลอดเวลา ถึงภัยคุกคามที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งมุ่งทำลายการดำรงอยู่ของประเทศอิสราเอล
การก่อการร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ได้สร้างความผูกพันที่มากับโชคร้ายอย่างไม่คาดคิด ระหว่างประเทศอิสราเอลและประเทศไทย คนไทย 39 ครอบครัวต้องประสบกับความสูญเสียอันเกินคำบรรยาย และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนชาวอิสราเอลที่ต้องสูญเสียผู้เป็นที่รัก ทั้งยังมีพลเมืองไทยอีก 31 คนที่ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายจับไปเป็นตัวประกัน ต้องทนรับความบอบช้ำทางจิตใจที่ไม่อาจหยั่งถึง เฉกเช่นบรรดาตัวประกันชาวอิสราเอล
เหตุน่าสลดใจยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะมีชาวไทย 8 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ และเผชิญชะตากรรมเดียวกับตัวประกันชาวอิสราเอลอีก 124 คน ความปวดร้าวที่ผู้เป็นที่รักถูกพรากไป ได้เชื่อมหัวใจของเราชาวอิสราเอลและชาวไทยให้เป็นหนึ่งเดียว อิสราเอลยังคงแน่วแน่ที่จะให้ตัวประกันทั้งหมดได้รับการปล่อยตัว โดยจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับครอบครัวของเหยื่อทั้งชาวไทยและชาวอิสราเอล โดยหวังให้ตัวประกันทั้งหมดได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด
...
แม้ว่าอิสราเอลยังคงเผชิญหน้ากับความยากลำบากนานัปการ แต่มิตรภาพระหว่างประเทศไทยและอิสราเอลยังคงแน่นแฟ้นไม่จืดจาง ประสบการณ์ที่มีร่วมกันได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น พร้อมกับส่งเสริมความร่วมมือและเพิ่มพูนความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เรามองไปยังอนาคตด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน อย่างมั่นคงบนรากฐานนี้ โดยขยายความร่วมมือของเราในส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยสำคัญต่อชีวิตพลเมืองของประเทศทั้งสอง เช่น เทคโนโลยีอาหาร เกษตรกรรม เทคโนโลยีน้ำ ความมั่นคงทางไซเบอร์และการป้องกันประเทศ.
ตุ๊ ปากเกร็ด
คลิกอ่านคอลัมน์ "หน้าต่างโลก" เพิ่มเติม