พืชดอกหรือแองจิโอสเปิร์ม (angiosperms) เป็นพืชที่ผลิตดอกและสร้างเมล็ดในผล พืชชนิดนี้มีราว 330,000 ชนิด คิดเป็น 80% ของพืชในโลก ถูกระบุว่าเป็นรากฐานสำคัญของระบบนิเวศโลก ญาติใกล้ชิดก็คือจิมโนสเปิร์ม (Gymnosperm) ไม่มี ดอกแต่มีเมล็ดอยู่ในอวัยวะที่เรียกว่าโคน เช่น ต้นสน พวกมันอยู่บนโลกมาก่อนแองจิโอสเปิร์ม โดยมีมากกว่า 1,000 สายพันธุ์นิดๆ
แต่ว่าแองจิโอสเปิร์มปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ และมีความโดดเด่นอย่างไรในยุคของไดโนเสาร์ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป คือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สนใจค้นคว้า เพราะหากประเมินความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในพืชแต่ละชนิด ก็จะทำให้จัดลำดับความสำคัญและนำไปสู่การอนุรักษ์ตามลักษณะเฉพาะของพืชได้ โดยพืชเหล่านี้อาจมีสารประกอบหรือยีนที่เป็นประโยชน์ต่อการอยู่รอดของมนุษย์ ล่าสุดนักพฤกษศาสตร์ของสวนพฤกษศาสตร์หลวงคิว ในกรุงลอนดอน อังกฤษ เผยผลวิจัยใหม่ที่ใช้ข้อมูลจีโนมหรือข้อมูลทางพันธุกรรมพืช 9,506 ชนิด รวมถึงฟอสซิลพืช 200 ชิ้น มาไขประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของแองจิโอสเปิร์ม
การวิจัยระบุว่า การกระจายตัวของแองจิโอสเปิร์มครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 150-140 ล้านปีก่อนในมหายุคมีโซโซอิก ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นราว 100 ล้านปีต่อมาในมหายุคซีโนโซอิก หลังการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรุ่งเรืองขึ้นท่ามกลางอุณหภูมิโลกลดลง ด้วยแองจิโอสเปิร์มเป็นพืชดอกที่เมล็ดถูกห่อหุ้มไว้ทำให้ไร้ปัญหาเรื่องขาดน้ำ มันเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย กระจายเมล็ดพันธุ์ได้ดีตั้งแต่เขตร้อน ทะเลทราย ไปถึงแอนตาร์กติกา ทว่ากลับไม่อาจมีชีวิตยืนยง ในขณะที่จิมโนสเปิร์มจะอาศัยลมในการผสมเกสร.

...


