ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ดำรงตำแหน่งผู้นำรัสเซียเป็นสมัยที่ 5 ปูตินขึ้นปกครองรัสเซียตั้งแต่ปี 1999 หรือ พ.ศ.2542 ปัจจุบันอายุ 71 ปี เป็นผู้นำที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดของรัสเซียในรอบกว่า 200 ปี ว่ากันว่า ปูติน ขึ้นมาเป็นนายกฯ ในเวลาใกล้เคียงกับที่ ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นนายกฯครั้งแรก มีความสนิทสนมกันพอสมควร อายุงานปูตินก็น่าจะพอๆกับ สมเด็จฮุน เซน แห่งกัมพูชา ที่ยังต้องลุ้นกันต่อไปคือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีตัวตึง จะมีโอกาสกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งคำถามเป็นกรณีศึกษา ทำไมประชาชนยังเลือกปูติน หรือสมเด็จ ฮุน เซน หรือทรัมป์การจะบังคับให้คนทั้งประเทศตัดสินใจเลือกผู้นำด้วยวิธีหนึ่งวิธีใดคงเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะผลคะแนนที่ออกมาแต่ละครั้งเป็นเอกฉันท์ จะว่าเป็นการโกงเลือกตั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะโกงคะแนน กันทั้งประเทศส่องนโยบายระหว่างประเทศของสองประเทศมหาอำนาจ สหรัฐฯ กับ จีน ที่ล่าสุด สภาผู้แทนสหรัฐฯมีมติผ่านร่างกฎหมายระบุให้ ขายกิจการติ๊กต่อกภายในเวลา 6 เดือน เป็นอันว่า TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่ถูกแบนจากสหรัฐฯอย่างถาวร โดยอ้างว่า เป็นภัยต่อความมั่นคง เนื่องจากถูกควบคุมโดยชาติที่เป็นศัตรูของสหรัฐฯ และอ้างว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นการปกป้องชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยปรปักษ์ต่างชาติ เล่นใหญ่ขนาดนี้ ส่ง สตีเวน มนูชิน อดีต รมว.คลังสหรัฐฯ สมัยรัฐบาลทรัมป์ เป็นคนรวบรวมกลุ่มนักลงทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการ TikTok จาก ไบต์แดนซ์ บริษัทสัญชาติจีน แบบมัดมือชกถามว่า สหรัฐฯกังวลอะไรกับ ติ๊กต่อก เพราะติ๊กต่อกได้รับความนิยม จากเยาวชนคนรุ่นใหม่ไปทั่วโลก เพราะติ๊กต่อกเข้ากับเทรนด์ของคนรุ่นใหม่มากกว่า ยูทูบ หรือ เฟซบุ๊ก รวมทั้งผู้ใช้งานติ๊กต่อกสามารถที่จะตัดต่อวิดีโอสั้นๆลงบนติ๊กต่อกได้ด้วยตัวเองทันที ทำให้ยากต่อการควบคุมของรัฐ โดยเฉพาะในด้านความมั่นคง ติ๊กต่อกเข้าไปในสหรัฐฯเมื่อปี 2012 จนกระทั่งเมื่อเดือน มี.ค.ปี 2023 มีผู้เข้าใช้งานติ๊กต่อกเป็นประจำในสหรัฐฯ เดือนละ 150 ล้านคน ยังไม่รวมกับผู้ที่ใช้งานในจีน และผู้ใช้งานทั่วโลก ถ้ารวมกันแล้วจะมีพลังมหาศาลขนาดไหนสถาบันในต่างประเทศหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ สหภาพยุโรป ทำเนียบขาว สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ใช้งานแอปฯติ๊กต่อกตั้งแต่ปี 2023 สมัยทรัมป์ก็เคยสั่งแบนติ๊กต่อกมาแล้วแต่ไม่สำเร็จวันนี้ สิงคโปร์ ลงทุนพัฒนาประเทศไปสู่อีกขั้น ดันประเทศสู่การเป็นฮับ AI ประกาศเป็นแผน AI แห่งชาติ จัดสรรงบประมาณลงไปกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สิงคโปร์ มีการอนุมัติแจกเงินเพื่ออัปสกิลให้คนสิงคโปร์คนละประมาณ 1 แสนบาท เพื่อพัฒนาฝีมือให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่บ้านเรากำลังจะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีกรอบในอีก 10 จังหวัด ที่จะปรับค่าแรงขั้นต่ำจาก 370 บาทเป็น 400 บาท ค่าแรงขั้นต่ำที่สุดอยู่ที่ 330 บาท เราบูลลี่กันเรื่องการดับไฟป่า แต่เราก็อยากจะเป็นฮับ เรายังรอดิจิทัลวอลเล็ต กทม.ยังเป็นหนี้บีทีเอสอยู่อีก 2.3 หมื่นล้าน ยังไม่รู้จะไปเอาเงินที่ไหน เราจะพัฒนาประเทศจากซอฟต์พาวเวอร์ จริงหรือ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ "คาบลูกคาบดอก" เพิ่มเติม