เช้าวันพุธที่ข่าวว่า ดร.เฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ได้เสียชีวิตที่บ้านพักในรัฐคอนเนกติกัต ด้วยวัย 100 ปี 6 เดือน คิสซิงเจอร์ เพิ่งฉลองวันเกิด 100 ปีไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 วันเสาร์สบายๆวันนี้ ท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนไป ผมชวนท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ คิสซิงเจอร์ กันนะครับ
เฮนรี คิสซิงเจอร์ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของ ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน และ ประธานาธิบดี เจอร์รัลด์ ฟอร์ด ในยุคสงครามเย็น ทศวรรษที่ 1970 ผลงานที่โดดเด่นที่สุดก็คือ การสถาปนาความสัมพันธ์สหรัฐฯกับจีน และสหภาพโซเวียต และ การยุติสงครามเวียดนาม
เดือนกรกฎาคม 2566 นี้เอง เฮนรี คิสซิงเจอร์ ในวัยกว่า 100 ปีก็ยังเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่งในฐานะมิตรของจีน ได้พบกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนซึ่งต้อนรับเขาอย่างสมเกียรติที่ห้องรับรองเตี้ยวหยูไถ ในฐานะผู้สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนในยุคสงครามเย็น ได้พบกับ หลี่ ชางฟู่ รัฐมนตรีกลาโหมจีน ได้พบกับ หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีนซึ่งปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศจีน
การเยือนกรุงปักกิ่งวันนี้ คิสซิงเจอร์ ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้นำจีนว่า สองประเทศ (สหรัฐฯและจีน) ควรที่จะแก้ไขความเข้าใจผิด อยู่ร่วมกันอย่างสันติ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า คิสซิงเจอร์ยังแนะนำให้ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน และ กองทัพสหรัฐฯ มีการสื่อสารพูดคุยกันมากขึ้น และพยายามอย่างดีที่สุดในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติให้เป็นไปในเชิงบวก เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพของโลก
ก็เป็นเรื่องที่แปลก หลังจากที่ ประธานาธิบดีสี พบกับ คิสซิงเจอร์ ก่อนไปประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกที่สหรัฐฯกับ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ซานฟรานซิสโก 15 พฤศจิกายน สิ่งที่สองผู้นำคุยกันเหมือนกับที่ คิสซิงเจอร์ แนะนำไว้เป๊ะเลย การเจรจาของสองผู้นำเป็นไปอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เดินชมสวนคุยกันอย่างยิ้มแย้มต่อหน้าสื่อ ไม่มีอาการหมางเมินเหมือนก่อน กองทัพจีนและสหรัฐฯก็ตกลงที่จะมีการสื่อสารกันมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียดที่จะเกิดขึ้น
...
ผมมีโอกาสพบกับ คิสซิงเจอร์ ครั้งหนึ่งที่กรุงเทพฯเกือบจะ 20 ปีเห็นจะได้ ตอนนั้น คิสซิงเจอร์ มาเป็นแขกส่วนตัวของ คุณพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ อดีตรองนายกฯ ผมได้ร่วมสนทนาล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยารับประทานอาหาร คิสซิงเจอร์ ยังกรุณาเขียนจดหมายแนะนำให้ลูกชายผมในการเข้าเรียนที่ Rochester Institute of Technology ด้วย
แนวคิดทางการเมืองระหว่างประเทศของ คิสซิงเจอร์ มีบทบาท สำคัญต่อนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯในช่วง 2 ทศวรรษแรกของสงครามเย็น ในสมัยที่เป็น รัฐมนตรีต่างประเทศ ให้ ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ถือเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก แนวคิดทางการเมืองระหว่างประเทศของ คิสซิงเจอร์ ก็คือ การเน้นเสถียรภาพในโครงสร้างระเบียบโลก เพื่อให้สันติภาพโลกยังดำรงอยู่ “ถ้าไม่มีเสถียรภาพในระเบียบระหว่างประเทศ ก็ไม่มีทางที่สันติภาพจะเกิดขึ้นได้” อย่างที่เราเห็นในยุคที่ “โลกไร้ระเบียบ” จากความเป็นอันธพาลของสหรัฐฯในวันนี้
วิธีการ “สร้างเสถียรภาพโลก” และ “สันติภาพในระเบียบโลก” ในแนวคิดของ คิสซิงเจอร์ ก็คือ “การสร้างสมดุลแห่งอำนาจ (Balance of Power) ระหว่างประเทศมหาอำนาจ” เพราะในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร มีแต่ผลประโยชน์ที่ถาวร” ดังนั้น ประเทศมหาอำนาจจึงต้องไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติที่มากล้นเกินไป จนไปทำลายเสถียรภาพของระเบียบโลก (อย่างที่สหรัฐฯทำอยู่) และ ต้องนำไปสู่การสร้างสมดุลแห่งอำนาจมิฉะนั้น จะเกิดสภาวะ War of All Against สงครามตะลุมบอน ฯลฯ
ผมคิดว่า แนวคิดนโยบายต่างประเทศ ของ เฮนรี คิสซิงเจอร์ แม้จะผ่านไปกว่า 50 ปี วันนี้ก็ยังทันสมัย โลกต้องการสมดุลแห่งอำนาจ ต้องการมีระเบียบและสันติภาพ ครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”