เมื่อ 12 พ.ย. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่ารัฐบาลผสม ของนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนในการสู้ศึกกองทัพรัสเซียเพิ่มเป็น 2 เท่าในปี 2567 เป็นมูลค่า 8,000 ล้านยูโร (หรือราว 311,863 ล้านบาท) หากได้รับการอนุมัติเห็นชอบจาก รัฐสภาเยอรมนี ขณะที่มีความเป็นไปได้สูงเนื่องจากพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี (เอสเพเด) ของโชลซ์ครองเสียงข้างมาก จะเป็นการยกระดับการใช้จ่ายด้านกลาโหมของเยอรมนีเป็น 2.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เกินกว่าเป้าหมาย 2% ของสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโตที่ให้คำมั่นสัญญาไว้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี
ข้อมูลจากสถาบันคีลเพื่อเศรษฐกิจโลกชี้ว่า ที่ผ่านมาเยอรมนีส่งความช่วยเหลือ ทางทหารให้แก่ยูเครนมากกว่า 17,000 ล้านยูโร (ราว 652,375 ล้านบาท) จากที่เคยประกาศงบมูลค่า 100,000 ล้านยูโร (ราว 3,837,500 ล้านบาท) ตั้งแต่ 3 วันหลังรัสเซียบุกยูเครนในเดือน ก.พ.2565 มีทั้งรถถังเล็พเพิร์ด 2 ยานเกราะรุ่นมาร์เดอร์ ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศ ยานไอริส-ที ระบบต่อต้านขีปนาวุธแพทริออต ปืนต่อสู้อากาศ ยานรุ่นเกพาร์ด รวมทั้งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง เป็นต้น ขณะที่เยอรมนียังมีแผนจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 ของบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน ระบบป้องกันภัยทางอากาศแอร์โรว์ ของอิสราเอล และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนักชีนุกของบริษัทโบอิ้ง.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่