กลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา หลังชุมชนบนเกาะสวาทหาดสวรรค์ “เมาอิ” ทางตะวันออกของเมืองฮอนโนลูลู ถูกไฟป่า เผาราบเป็นหน้ากลองโดยเป็นไฟป่าชนิดที่ไม่ทันตั้งตัว เหยื่อผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ที่มีจำนวนหลักร้อยศพ ได้สิ้นใจอยู่ภายในบ้านพักหรือภายในรถยนต์ขณะขับหลบหนี ขณะที่อุณหภูมิของเปลวเพลิง ณ ตอนเกิดเหตุสูงถึง 538 องศาเซลเซียส ในระดับที่โครงสร้างเหล็กในอาคารหลอม ละลายแม้จะมีการโทษกันว่าทางสำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินไม่ยอมเปิดสัญญาณเตือนภัยให้ประชาชนอพยพ จนเป็นเหตุให้คนหนีไม่ทันเวลา หรือไม่ก็ทันแบบหวุดหวิดในนาทีสุดท้าย แต่ขณะเดียวกันก็มีรายงานจากสื่อท้องถิ่นสหรัฐฯว่า ความล้มเหลวในการเตือนภัยถือเป็นเรื่องปลายเหตุ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นระเบิดเวลาที่ซุกอยู่ ใต้พรมมานานหลายปีโดยประการแรกหน่วยงานป้องกันเหตุไฟป่าในฮาวายได้พยายามเรียกร้องให้สภาท้องถิ่นเพิ่มงบประมาณเพื่อเตรียมการรับมือไฟป่า โดยปี 2565 ที่ผ่านมา มีการขอเพิ่มงบเป็น 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 52.5 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบน้ำดับเพลิงและดำเนินการถางพื้นที่วางแนวสกัดกั้นไฟป่าเพิ่มเติม แต่สุดท้ายก็ประสบความล้มเหลว ร่างงบประมาณ ถูกคณะกรรมาธิการตีตกไปประการต่อมาปัญหาคาราคาซังเรื่องภาษีปล่อยเช่าที่ดิน การปล่อยที่ดินในรัฐฮาวายให้คนอื่นเช่าจะต้องถูกเก็บภาษี ปกติแล้วการปล่อยเช่าที่ดินย่อมหมายถึงจะมีคนมาจัดการถางที่ กำจัดวัชพืชให้ แต่ในเมื่อมีเรื่องเสียเงินเสียทองเข้ามาเกี่ยวข้อง สุดท้ายแล้วจึงทำให้เจ้าของที่ดินไม่อยากยุ่งวุ่นวาย ปล่อยที่ดินให้รกร้างไว้เช่นนั้นและที่สำคัญ ปัญหาการนำหญ้าและพืชพันธุ์ “ต่างถิ่น” มาใช้เลี้ยงดูปศุสัตว์ เพราะเดิมทีระบบนิเวศพื้นเพบนเกาะในรัฐฮาวาย มีความทนทานต่อไฟป่า ไม่ได้ติดไฟง่ายขนาดนั้น แต่สำหรับพืชต่างถิ่นอย่าง “หญ้ากินี” จากแอฟริกากลับมิใช่ เป็นหญ้าที่ขึ้นง่าย หากได้รับฝนกับคาร์บอนไดออกไซด์มากพอก็จะทำให้วันเดียวเติบโตได้ยาวถึง 6 นิ้ว อีกทั้งมีความแห้งเป็นพิเศษ เมื่อติดไฟขึ้นมาก็จะสร้างเปลวเพลิงได้สูงกว่า 6 เมตรด้วยปัจจัยต่างๆเหล่านี้ ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวนในช่วงวันเกิดเหตุ จึงนำไปสู่สถานการณ์เลวร้ายที่ไม่อาจหวนกลับ และก่อให้เกิดคำถามตามมาต่างๆนานา ว่า เกิดอะไรขึ้นที่รัฐฮาวาย?ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม