เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตรงกับ “วันชาติ” ของสหรัฐอเมริกา ที่เรียกว่า Fourth of July หรือวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯจากอังกฤษ เมื่อ 247 ปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นวันหยุดของคนอเมริกัน และมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศแน่นอนหนึ่งในกิจกรรมเฉลิมฉลองที่คนอเมริกันรอคอยก็คือการ “ยิงพลุ” นั่นเอง เพราะจะมียิงอย่างสวยงามเกือบทุกเมือง ใหญ่บ้างเล็กบ้าง โดยเฉพาะที่พูดถึงกันมากที่สุดก็คือการยิงพลุกลางลำนํ้าที่มหานครนิวยอร์ก ซึ่งปีที่ผ่านมามีรายงานว่ามีคนแห่กันไปดูเกือบ 4 ล้านคน แน่นขนัดไปทั้ง 2 ฝั่งแม่นํ้านอกจากการยิงพลุ จุดพลุที่ว่านี่แล้ว ณ มหานครนิวยอร์กนี้เอง ยังมีกิจกรรมเฉลิมฉลอง “วันชาติสหรัฐฯ” ที่เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วสหรัฐฯ และทั่วโลกด้วยเช่นกัน ก็คือข่าวการแข่งขัน “กินฮอตด็อก” อาหารฟาสต์ฟู้ดประจำชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาะโคนีย์ เพื่อหาตัว “แชมป์” ซึ่งนอกจากจะถือกันว่าเป็นแชมป์สหรัฐฯแล้ว ยังถือเป็นแชมป์โลกอย่างไม่เป็นทางการอีกด้วยแฟนๆทั่วโลกต่างจะเฝ้ารอคอยผลการแข่งขันที่ว่านี้และสื่อต่างๆ ก็มักจะนำผลการแข่งขันไปเผยแพร่ต่อ ถือเป็นข่าวเฮฮาที่มีการพูดถึงกันมากที่สุดข่าวหนึ่งใน “วันที่ 4 กรกฎาคม” ของทุกๆปีดังเช่นปีนี้ผลการแข่งขัน “เขมือบ” หรือ “สวาปาม” ฮอตด็อก ที่นิวยอร์กก็จบลงด้วยชัยชนะของ โจอี้ เชสต์นัต จอมเขมือบวัย 39 ปี จากรัฐเคนตักกีไปอีกครั้งโจอี้ เชสต์นัต สวาปาม “ฮอตด็อก” ไปทั้งสิ้น 62 ชิ้น ในช่วงเวลา 10 นาทีที่กำหนดไว้ ส่วนที่ 2 ได้แก่ เวฟฟ์ เอสเปอร์ จากแมสซาชูเสตต์ เขมือบได้ 49 ชิ้น และเจ้าหนุ่ม เจมส์ เว็บบ์ จากออสเตรเลีย คว้าที่ 3 หลังจากสวาปามได้ 47 ชิ้นสำหรับ “โจอี้” นั้นคือ “แชมป์” รับประทานฮอตด็อกที่จัดขึ้นในวันชาติสหรัฐฯเป็นหนที่ 16 ในชีวิตของเขาเขาโผล่มาเป็นแชมป์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2007 แล้วก็ครองต่อมาจนถึง ค.ศ.2014 รวม 7 หนรวด แต่ก็มาสะดุดไปในปี 2015 เสียแชมป์ให้แก่ แม็ต สโตนีย์ จากซานฟรานซิสโก อย่าง พลิกล็อก แต่ก็มาทวงคืนได้ในปี 2016 ถัดมาแล้วก็ครองรวดมาอีก 7 ปีจนถึงปีนี้ 2023 รวมทั้งสิ้น 16 ปี 16 ครั้ง ดังกล่าวก่อนที่เราจะคุยกันถึงเรื่องราวและความฉกาจ ฉกรรจ์ในการรับประทานของ โจอี้ เชสต์นัต ในรายละเอียดขอย้อนไปถึงการจัดการแข่งขัน รับประทานฮอตด็อก ประจำวันชาติสหรัฐฯ นี่ก่อนว่าเกิดขึ้นมาอย่างไร?โปรโมเตอร์หรือผู้จัดการแข่งขันก็คือ บริษัทที่เป็นเจ้าของฮอตด็อกยี่ห้อ “Nathan’s” ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ของมหานครนิวยอร์ก ตั้งอยู่ที่เกาะโคนีย์ใกล้ๆย่านบรู๊คลินนั่นเอง สำหรับเกาะที่ว่านี้เหมือนกับเกาะสวนสนุกมีของเล่นสำหรับเด็กๆ เต็มไปหมด และมีร้านฮอตด็อกร้านนี้ ตั้งอย่างโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ตั้งแต่ปี 1916 หรือ 107 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีสาขา 198 แห่ง ทั้งสหรัฐฯและทั่วโลกในอาเซียนเราจะมีร้านสาขาอยู่ที่มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไม่แน่ใจว่าบ้านเราจะมีการติดต่อเข้ามาหรือยัง?ต่อมาในปี 1972 ผู้บริหารของร้าน Nathan’ s ก็มาดำริขึ้นว่าเนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นชาติที่รับประทานฮอตด็อกมากที่สุดจนทำให้อาหารที่มีต้นกำเนิดจากเยอรมนี (คือไส้กรอก) แต่คนอเมริกันเอามาดัดแปลงใส่ลงแท่งขนมปัง รีๆ คล้ายกล้วยหอมผ่าซีก แล้วยัดไส้กรอกเอาไว้ตรงกลาง กลายเป็นอาหารจานด่วน “ประจำชาติ” ของสหรัฐฯในที่สุดจึงน่าจะมีการแข่งขันรับประทานฮอตด็อกชิงแชมป์แห่งชาติในวันหยุดสำคัญๆของสหรัฐฯ เพื่อร่วมกิจกรรมฉลองวันสำคัญดังกล่าวไปพร้อมๆ กับโฆษณาฮอตด็อก Nathan’s ด้วยว่าแล้วก็จัดให้มีการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกเมื่อปี 1972 รวม 2 ครั้ง ในวันแรงงานและวันรำลึกทหารผ่านศึกปรากฏว่าฮือฮามากมีคนมาเชียร์การแข่งขันหลายพันคน และเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ จึงตัดสินใจจัดเรื่อยมา โดยสลับวันหยุดสำคัญไปเรื่อยๆ จนถึงปี 1979 จึงมาลงเอยที่ “วัน ชาติ” 4 กรกฎาคม หรือวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯเรื่อยมาแต่มาเริ่มโด่งดังอย่างมากเมื่อปี 2001 นี่เอง เมื่อจอมเขมือบจากญี่ปุ่นที่มีนามว่า ทาเครุ โคบายาชิ ผู้มีฉายาว่าเจ้า “สึนามิ” เดินทางมาแข่งขัน และคว้าแชมป์ไปในปีดังกล่าวจากนั้น ทาเครุ โคบายาชิ ก็ครองแชมป์ติดต่อกันเรื่อยมาจนถึงปี 2006 เป็นข่าวดังทั่วโลก ในฐานะจอมเขมือบฮอตด็อก ผู้ไร้เทียมทานทว่าในปี 2007 ต่อมา โคบายาชิก็เป็นฝ่ายเสียแชมป์ เมื่อโดนดาวรุ่งดวงใหม่ ซึ่งความจริงก็เข้ามาแข่งขันในรายการนี้ 2-3 ปีแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ อันได้แก่ โจอี้ เชสต์นัต นั่นเอง...ปรากฏว่าในปี 2007 เชสต์นัตสามารถเฉือน โคบายาชิคว้าแชมป์ไปครองด้วยการเขมือบฮอตด็อกถึง 66 ชิ้น ในขณะที่โคบายาชิเขมือบได้ 63 ชิ้นพอได้แชมป์แล้วรัศมีก็จับทำให้ โจอี้ เชสต์นัต เป็นฝ่ายเอาชนะ โคบายาชิได้อีก 2-3 ครั้ง แต่มาถึงปี 2011 คาบายาชิแยกไปแข่งขันในอีกรายการหนึ่งที่จัดในวันเดียวกันจึงหมดสิทธิ์กลับมาสู้กับเชสต์นัตในรายการของ Nathan’s นับแต่นั้นมาส่งผลให้เชสต์นัตครองแชมป์แบบผูกขาดมาตลอด เผลอไปแพ้อย่างคาดไม่ถึงปี 2015หนเดียวเท่านั้น ดังที่เกริ่นไว้แล้วต้องยอมรับ โจอี้ เชสต์นัต เกิดมาเพื่อเป็นนักกินจริงๆ ทั้งที่เขาเรียนจบทางวิศวกรรม แต่มาเอาดีทางแข่งขันกินอาหาร ซึ่งนอกจากแข่งกินฮอตด็อกแล้ว ยังมีแข่งขันกินแฮมเบอร์เกอร์, กินพิซซ่า, กินปีกไก่ทอด, กินสลัด ฯลฯ ซึ่งเขาก็ครองแชมป์มานับไม่ถ้วนหัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสไปเยี่ยมพรรคพวกที่นิวยอร์กหลายครั้ง และเคยแวะไปเกาะโคนีย์เพื่อกินฮอตด็อกที่ร้านนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ในชีวิต ปรากฏว่ากินแค่ 2 ชิ้นก็อิ่มแปล้แล้วแต่โจอี้ เชสต์นัต ปีนี้กินได้ถึง 62 ชิ้น และเคยทำสถิติสูงสุดเป็นสถิติโลกไว้เมื่อปี 2021 ถึง 76 ชิ้น...ต้องยกมือไหว้แกเลยจริงๆ.“ซูม”