แหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ในอิสราเอล ทีชื่อว่า Eynan-Mallaha หรือที่รู้จักในชื่อไอน์ มาลาฮา (Ain Mallaha) ครั้งหนึ่งเคยถูกยึดครองโดยผู้คนในวัฒนธรรมนาตูเฟียน (Natufians) ซึ่งเป็นกลุ่มนักล่าสัตว์หาของป่ากลุ่มสุดท้ายในดินแดนลิแวนต์ (Levant) เป็นภูมิภาคที่ครอบคลุมพื้นที่รอบทะเลเมดิเตอร์ เรเนียนตะวันออก

นักโบราณคดีจากศูนย์วิจัยฝรั่งเศสในกรุงเยรูซาเล็ม ของอิสราเอล เผยว่า นักโบราณคดีได้เข้าตรวจสอบแหล่งโบราณคดีดังกล่าวอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่มีการค้นพบในทศวรรษที่ 1950 ทว่าเมื่อปีที่แล้ว นักโบราณคดีต้องประหลาดใจที่พบว่ามี “ขลุ่ย” กว่าครึ่งโหลอยู่ท่ามกลางซากกระดูกนก 1,100 ชิ้นที่ขุดขึ้นมา ขลุ่ยเหล่านี้ถูกช่างฝีมือแกะสลักจากกระดูกนกน้ำขนาดเล็ก ทว่ามีเพียงขลุ่ยลูกเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ วัดความยาวได้น้อยกว่า 65 มิลลิเมตร นักโบราณคดีระบุว่าขลุ่ยลูกนี้มีอายุ 12,000 ปี ถือเป็นขลุ่ยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นเครื่องดนตรียุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เล็กที่สุดเท่าที่รู้จักจนถึงตอนนี้ เชื่อว่าชาวนาตูเฟียนจะเคยใช้เป็นเครื่องดนตรี และสามารถเลียนแบบเสียงร้องเรียกของนกล่าเหยื่อบางชนิดได้

เมื่อเป่าขลุ่ย เสียงที่ออกมามีความแหลมสูงคล้ายเสียงของเหยี่ยวนกกระจอกใหญ่ และเหยี่ยวเคสเตรล ชี้ให้เห็นว่าชาวนาตูเฟียนนาจะมีเกณฑ์ในการเลือกกระดูกเหล่านี้โดยเฉพาะ การเลือกกระดูกชิ้นเล็กๆก็เพราะต้องการให้เสียงเป็นแบบนี้เพื่อเลียนเสียงนกเหยี่ยว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าชาวนาตูเฟียนมีความรู้และเข้าใจในเสียง.