ก่อนหน้านี้ความพยายามในการตรวจจับสัญญาณเทคโนโลยีของอารยธรรมต่างดาว หรือที่เรามักเรียกติดปากว่า “มนุษย์ต่างดาว” นั้นมุ่งเน้นไปที่ประเภทสัญญาณวิทยุแถบความถี่แคบ ซึ่งเป็นการตรวจสอบสัญญาณแบบดั้งเดิม แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์มีแนวคิดใหม่ว่าน่าจะต้องพิจารณาสัญญาณประเภทต่างๆที่ส่วนใหญ่ถูกละเลยไป โดยต้องใช้เครื่องมือตรวจจับในจักรวาลห้วงลึก เปรียบเหมือนเหวี่ยงแหเข้าไปในอวกาศเพื่อเก็บข้อมูล
แนวคิดการขยายการค้นหาอารยธรรมนอกโลกที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ต่างจากเดิม ก็เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์จากโครงการ Breakthrough Listen Investigation for Periodic Spectral Signals (BLIPSS) เป็นการทำงานร่วมกันของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ในสหรัฐอเมริกา และสถาบันเซติ (SETI Institute) ร่วมกับโครงการ Breakthrough Listen คาดเดากันว่าแกนกลางของกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรานี่แหละคือพื้นที่ที่น่าสนใจ เพราะเป็นไปได้ว่าจะมีอารยธรรมต่างดาว หรือผู้ทรงภูมิปัญญาในต่างดาวอาศัยอยู่ เพียงแต่เรายังมืดมนว่าพวกเขาอยู่ตรงไหนกันแน่ ซึ่งสัญญาณบางอย่างที่เราได้รับอาจเป็นการสื่อสารทางไกลออกมาจากสิ่งมีชีวิตที่เป็นปริศนาในอาณาจักรดวงดาวอันไกลโพ้นก็เป็นได้ เพราะแถวๆใจกลางทางช้างเผือกเป็นถิ่นที่อยู่อันชุกชุมของดาวฤกษ์ที่กะจำนวนไว้ประมาณ 8 ล้านดวง
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์เผยว่า เครื่องมือที่จะรับใช้งานนี้คือกล้องโทรทรรศน์วิทยุภาคพื้นดินในเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งหากสิ่งมีชีวิตนอกโลกมีอยู่จริง พวกเขาเหล่านั้นน่าจะอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์หินที่โคจรรอบดาวฤกษ์ โดยอยู่ห่างจากดาวฤกษ์แม่ของตนในโซนที่เอื้ออาศัยได้ โดยไม่ร้อนเกินไปและไม่เย็นเกินไป.